‘Shopee Live’ แคมเปญ 9.9 เชื่อม ‘แบรนด์’ กับ ‘ผู้บริโภค’

‘วีดิโอ คอนเทนท์ (Video Content) นับเป็นเครื่องมือการตลาดที่มีความสำคัญ ในการสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม โดยสามารถเห็นได้ว่าทุกวันนี้ ร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็กและธุรกิจเอสเอ็มอี โดยเฉพาะธุรกิจประเภทซีทูซี (C2C) ต่างหันมาใช้วิดีโอฟีเจอร์อย่างไลฟ์ วีดิโอ (Live VDO) ในการโปรโมทและจำหน่ายสินค้ามากขึ้น และรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการเผยแพร่ จากผู้เล่นในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มและการตลาดหลายๆ รายต่างชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า รูปแบบเนื้อหาดังกล่าวจะยิ่งทวีความนิยมขึ้นเรื่อยๆ โดย Hubspot ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ทางการตลาดเผยว่า 43% ของผู้บริโภคอยากรับชม วีดิโอ คอนเทนท์ ในปริมาณที่มากขึ้น

กูเกิล ระบุว่า ผู้บริโภคกว่าครึ่งชอบหาข้อมูลจากวิดีโอคอนเทนท์ ก่อนตัดสินใจเข้าไปชมสินค้าจริงที่ร้านค้า นอกจากนี้ Wyzowl ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตวิดีโอคอนเทนต์เพื่อสนับสนุนการทำการตลาด ยังชี้ว่า 79% ของผู้บริโภคนิยมชมวิดีโอเพื่อศึกษาข้อมูลสินค้ามากกว่าการอ่านคำอธิบายที่เป็นตัวอักษร ทั้งนี้ คุณสมบัติที่โดดเด่นของ ไลฟ์ วีดิโอ ที่ส่งผลให้ความนิยมพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงปีที่ผ่านมานั้นคืออะไร

‘ประสบการณ์เสมือนจริง’ (Virtual Experience) ที่เติมเต็มการช้อปออนไลน์ แน่นอนว่าการใช้งานอีคอมเมิร์ซมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งหนึ่งที่การเดินเลือกซื้อสินค้าในโลกออฟไลน์เหนือกว่าการซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ คือ ประสบการณ์และความพึงพอใจจาก Physical Interaction เช่น การหยิบจับหรือสำรวจสินค้าด้วยมือของตนเอง การทดลองสวมใส่ การทดลองดมกลิ่น หรือการเพ่งพินิจสินค้าใกล้ๆ ด้วยตาเปล่า เป็นต้น

ทั้งนี้ ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อ ไลฟ์ วีดิโอ เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซมากขึ้น โดย ไลฟ์ วีดิโอ จะจำลองสถานการณ์การเลือกซื้อสินค้าแบบดั้งเดิมไว้บนดิจิทัลแพลตฟอร์ม ส่งผลให้ระยะห่างระหว่างลูกค้าและร้านค้าในโลกออนไลน์นั้นแคบลง เนื่องจากผู้คนสามารถสำรวจผลิตภัณฑ์ เรียนรู้ข้อดีข้อเสียของสินค้าในแง่มุมที่หลากหลาย ทั้งยังสามารถจำลองภาพการใช้สินค้าในชีวิตประจำวันได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ผ่านประสบการณ์เสมือนจริงจากการสาธิตและบรรยายของผู้ทำหน้าที่ดำเนินรายการ

การสื่อสารสองทางที่มีความเป็นกันเองสูง ช่วยสร้าง ‘ปฏิสัมพันธ์’ ที่มากกว่าแค่การซื้อ-ขาย อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ทำให้ ไลฟ์ วีดิโอ มีความน่าดึงดูด คือ ธรรมชาติการสื่อสารของผู้ขายหรือผู้ดำเนินรายการ ที่มักพูดคุยกับผู้ชมอย่างเป็นกันเอง มีความสนุกสนาน และแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งผลการสำรวจจาก Wyzowl ได้ชี้ว่าผู้บริโภคจำนวนมากถึง 83% นิยมชมวิดีโอที่มีสไตล์การนำเสนอที่เข้าถึงง่ายและผู้ดำเนินรายการมีบุคลิกช่างพูด ช่างคุย ด้วยเหตุนี้ บ่อยครั้งผู้บริโภคจึงเข้ามารับชมไลฟ์ของร้านค้าเพื่อความบันเทิง เพื่อเข้ามาพูดคุยหรือมองหาเทรนด์ใหม่ๆ จากผู้ดำเนินรายการที่เป็นเหมือน ‘เพื่อน’ หรือ ‘ผู้นำทางความคิด’ (Influencer) โดยไม่มีการวางแผนล่วงหน้าว่าจะซื้อสินค้าชิ้นใดเป็นพิเศษ การมีส่วนร่วมอย่างเป็นธรรมชาติ และการตอบโต้แบบเรียลไทม์ ระหว่างผู้ชมและผู้ดำเนินรายการนี้เอง ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิด Spontaneous Purchase อย่างมีประสิทธิภาพ

เช็คกระแสความสนใจผู้ชมแบบเรียลไทม์ เพื่อกระตุ้น ‘Call to Action’ อย่างตรงจุด ผลตอบรับแบบเรียลไทม์ เช่น แนวโน้มยอดวิวที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง การแสดงความรู้สึก ตลอดจนการแสดงความคิดเห็นและคำถามต่างๆ ส่งผลให้ร้านค้าหรือแบรนด์ต่างๆ ทราบถึงกระแสความนิยมในตัวสินค้าหรือแคมเปญการตลาดนั้นๆ อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นให้เกิด ‘Call to Action’ ได้อย่างถูกจังหวะ เช่น การให้ข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นที่น่าสนใจ การนำเสนอสินค้าแบบเฉพาะเจาะจง การเน้นย้ำถึงความพิเศษของสินค้าหรือโปรโมชั่น ไปจนถึงการกระตุ้นให้ผู้ชมติดตามช่องทางออนไลน์ของร้านค้า เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่มากกว่า Engagement ระยะสั้น

ทั้งนี้ การสื่อสารผ่าน ไลฟ์ วีดิโอ ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยังต้องอาศัยอีโคซิสเต็มส์ที่ครบวงจร ยกตัวอย่าง ช้อปปี้ (Shopee) ซึ่งมุ่งทำหน้าที่โซเชียล มีเดีย และ อีคอมเมิร์ซ แพลตฟอร์ม บนแพตลฟอร์มเดียวแบบไร้รอยต่อ โดยผู้ชมไลฟ์สามารถคลิกเพื่อเพิ่มสินค้าลงสู่รถเข็นได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

นอกจากร้านค้าต่างๆ จะสามารถใช้ฟีเจอร์ ช้อปปี้ ไลฟ์ ในการสร้างไลฟ์คอนเทนท์ด้วยตัวเองแล้ว ช้อปปี้ยังทำหน้าที่พาร์ทเนอร์สำหรับแบรนด์ชั้นนำจำนวนมากที่อาจยังไม่สะดวกสร้างไลฟ์คอนเทนท์บนช่องทางออนไลน์ของตัวเอง โดยเราเชื่อมต่อแบรนด์ต่างๆ เข้ากับผู้ใช้งานจำนวนมากผ่านช้อปปี้ ไลฟ์ที่ดึงดูดผู้ชมด้วยแขกรับเชิญซึ่งเป็นเซเลบริตี้ หรืออินฟลูเอนเซอร์ระดับแนวหน้า ทั้งยังมีกิจกรรมสนุกๆ มานำเสนออย่างต่อเนื่อง

ทั้งหมดนี้ ทำให้ ช้อปปี้ ไลฟ์ มียอดรับชมกว่า 50 ล้านวิวในช่วงแคมเปญ 9.9 Super Shopping Day ในปี 2019 ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยยอดสั่งซื้อสินค้าที่สูงขึ้นกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบกับแคมเปญเดียวกันในปี 2561 และในช่วงที่ขายดีที่สุดของแคมเปญในปี 2562 สินค้ากว่า 187,606 ชิ้น ยังได้ถูกขายออกไปภายในระยะเวลาแค่ 1 นาที