CEO : Coach Executive Officer!

CEO : Coach Executive Officer!

Chief Executive Officer ในแต่ละธุรกิจต่างก็มีบทบาทหน้าที่ ที่ทั้งคล้ายและแตกต่างกัน

แต่สิ่งที่จำเป็นต้องมีเหมือนกันในยุคปัจจุบันก็คือ บทบาทหน้าที่ของการเป็น COACH !

สำหรับ CEO ยุคใหม่จะคุ้นเคยกับคำๆ นี้ และในปัจจุบัน CEO บริษัทใหญ่ๆ จำนวนไม่น้อย แสดงศักยภาพและสื่อสารให้ทุกคนในองค์กรรับรู้อย่างชัดเจนว่า CEO จะทำหน้าที่ Coach ให้กับผู้บริหารระดับรองๆในองค์กร แต่ยังมี CEO อีกมากที่ไม่รู้ ไม่คุ้นเคยกับความหมายในภาคปฏิบัติของคำว่า COACH

ลองมาพิจารณาดูความหมายที่แท้จริงของคำว่า COACH กันก่อนน่าจะดีกว่านะครับ

COACH ความหมายเดิมมาจากแวดวงกีฬา ที่หมายถึง “ผู้ฝึกสอน”

COACH ในความหมายปัจจุบันที่เข้ามามีบทบาท ในหลายแวดวง โดยเฉพาะในแวดวง ธุรกิจ จะมีความหมายในทางปฏิบัติที่ ค่อนข้างกว้าง ตั้งแต่ ผู้ฝึกสอนพี่เลี้ยง (MENTOR) ไปจนถึง ที่ปรึกษา (CONSULTANT)

คำถามก็คือ เรื่องของ “COACH” และ การเป็น COACH” เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องของ CEO?

คำตอบก็คือ CEO หรือผู้บริหารสูงสุดในยุคปัจจุบัน ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ COACH หรือไม่ได้จัดหา COACH ให้ทีมงานในองค์กรของตนเอง...ขออนุญาตเขียนแบบไม่ต้องเกรงใจกันเลยว่าเป็น “CEO ที่เหนื่อยสุดๆ ที่คิดเอง ทำเองทุกเรื่อง แต่มือรองระดับรองลงมา กลับทำแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง จนส่งผลทำให้ศักยภาพของคน และผลงานขององค์กรตกต่ำ!”

เหตุผลก็เพราะ ผู้นำที่เก่ง นำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ และผ่านวิกฤตการณ์ต่างๆ มาได้ นอกจากตัวเองจะเก่งแล้ว ยังสามารถถ่ายทอด ฝึกสอนให้กับผู้บริหารระดับมือรองลงไป หรือไปจนถึงพนักงานระดับปฏิบัติการได้ (ในกรณีที่ขนาดและจำนวนของพนักงานไม่มากจนเกินไป)

หรือกรณีที่ไม่เชี่ยวชาญ ขาดทักษะในการเป็น COACH ผู้นำหรือ CEO ก็จะสรรหา COACH ให้มาเป็นที่ปรึกษาของตนเองไปจนถึงสรรหา COACH ให้มาเป็นที่ปรึกษา ผู้ฝึกสอนและพี่เลี้ยงของทีมงาน!

ในทางตรงกันข้าม CEO ของแต่ละองค์กร ที่มองไม่เห็นความสำคัญที่ตนเองจะต้องเป็น COACH สิ่งที่จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจขาลงแบบนี้ก็คือ

  1. ขาดการสื่อสารกับทีมงาน...ผลก็คือ ทีมงานต่างก็ไม่แน่ใจในอนาคตและชะตากรรมขององค์กร!
  2. ขาดการเป็นพี่เลี้ยงเป็นผู้ให้คำแนะนำ กับทีมงาน ผู้บริหารระดับมือรอง...ผลก็คือ ไร้ทิศทาง ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างทำ มีทั้งทำสิ่งที่ขัดแย้งกันและทำซ้ำซ้อนกัน!
  3. ไม่สรรหา COACH มาชี้แนะ ฝึกสอนทีมงานในสภาวะเศรษฐกิจขาลง...ผลก็คือยอดขายที่ลดลงอย่างต่อ เนื่อง ไปควบคู่กับศักยภาพของทีมงานที่ตกต่ำลง!

แค่ 3 ประเด็นที่ยกตัวอย่างมาเป็นน้ำจิ้มให้เห็น…คงทำให้ท่านพบและคิดต่อได้ว่า บทบาทหน้าที่ของ CEO ที่ท่านทำอยู่ในทุกๆ วันนี้ อาจไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่ถือว่าท่านพลาดอย่างมหันต์ถ้าท่านใน ฐานะ CEO ยุคใหม่ ท่านไม่ใช่ Coach Executive Officer !

เปรียบเสมือนท่านเป็นแม่ทัพ ที่นำทัพเข้าไปสู่สงครามเศรษฐกิจที่ดุเดือดและคาดเดายาก...แต่ท่านในฐานะแม่ทัพ ท่านไม่สามารถที่จะสื่อสาร ที่จะให้คำแนะนำ ที่จะฝึกสอนทีมงานของท่าน และไม่คิดจะให้ใครมาฝึกสอนทีมของท่าน...แล้วท่านจะรอดได้อย่างไร?

เรื่องที่น่าคิดปิดท้ายก็คือ…ผู้นำที่ยิ่งเก่ง กลับยิ่งมี COACH ที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้านที่แตกต่างกันเป็นจำนวนมากคอยเป็น Coach ให้

ในขณะที่ผู้นำที่ยิ่งทำยิ่งเหนื่อย (เพราะความเก่งในอดีตอาจไม่สามารถนำมาใช้กับสภาวะปัจจุบัน) ก็ปราศจาก COACH ข้างกายและไม่มี COACH ที่จะฝึกสอนทีมงาน นับวันยิ่งเหนื่อยมากยิ่งขึ้น!

ลอง เปลี่ยนหรือ เพิ่มบทบาทในการเป็น Coach Executive Officer ! ดูสิครับ แล้วท่านจะพบว่า ผู้นำที่มีความเป็น COACH จะพาทีมงานและองค์กรผ่านได้ทุกสถานการณ์และบรรลุเป้าหมายได้

ในขณะที่ผู้นำที่ไม่ยอมเพิ่มบทบาทการเป็น Coach หรือไม่สามารถสรรหา Coach มาช่วยพัฒนาทีมงานได้ ก็เลิกหวังได้เลยว่าจะนำทีมงานให้บรรลุเป้าหมายได้!