ผู้กองยอดรัก

มีผู้สื่อข้อความ เรื่อง “ธรรมนัส” หรือ “มนัส” นามสกุล พรหมเผ่า มาให้อ่านยาวเหยียด แต่ผมขอสรุปเรื่อง “ผู้กองยอดรัก” พอสังเขป ดังนี้

“ผู้กองธรรมนัส” เป็นทหารที่เกาะกลุ่ม “ทหารการเมือง” มาตั้งแต่ “นายแอ๊ว” พล.อ.อัครเดช ศศิประภา เมื่อ 20 ปีก่อน

รุ่นพี่อย่าง “เสธ ม่อย” พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย และ พี่ไอซ์ พลเอก ไตรรงค์ อินทรทัต ชักชวนให้เข้าสู่ “ยุทธภพ”

ร.อ.ธรรมนัส ถือว่า มีคุณธรรมความกตัญญู ต่อผู้มีพระคุณอย่างดี

ทุกวันเกิด และวันปีใหม่ จะไปมาหาสู่ และเยี่ยมคารวะ “นายแอ๊ว” เสมอต้นเสมอปลาย จน “นายแอ๊ว” เสียชีวิต

เมื่อเลือกเส้นทาง “ผู้กว้างขวางในยุทธภพ” ซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับ “นักเลง” “นักการเมือง” อย่างเลี่ยงไม่ได้

และที่ต้องมีอีกอัน คือ “ความเด็ดขาด” และ “คอนเนคชั่นทุกวงการ”

ร.อ.ธรรมนัส จึงมีคนห้อมล้อม ทั้ง นักเลง นักเคลื่อนไหว จนมีคนเปรียบเปรยว่า เป็นต้นไม้ใหญ่ให้นกเกาะ

สำหรับ “ธรรมนัส” นั้น ก้าวเข้ามาในยุทธภพ และเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยมี “นารีอุปถัมภ์” เป็นปัจจัยหนุน เพราะได้ “ลูกสาว 5 เสือกองสลาก” มาเป็นภริยา คนแรก และได้นางสาวไทย เป็นภริยาคนที่สอง

การที่ “ธรรมนัส” เล่นบทบาท ผู้ประสานสิบทิศ กับ 10 พรรคการเมืองขนาดจิ๋ว ซึ่งต้องใช้ทั้งประสบการณ์ และบารมีทางการเมือง ที่ขาดไม่ได้คือบุญคุณที่มีต่อกัน

ถ้ายังจำได้ “ธรรมนัส” คงยังไม่ลืมสิ่งที่ “นายแอ๊ว” เคยสอนว่า ให้ทำตัวเหมือนใยแมงมุม จงช่วยคนให้เยอะ เราช่วยเขาวันนี้ เขาก็ช่วยเราวันข้างหน้า บุญคุณใช้กันตลอดชีวิตก็ไม่หมด คนล้มอย่าข้าม

เป็นคำสอนที่มักสอนลูกน้องเสมอ

“ธรรมนัส” ความจริงต้องอยู่ใต้ดิน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ “ผู้กองยอดรัก” คนที่ควรอยู่ “ใต้ดิน” มาเดินหมาก “บนดิน” จึงเป็นเหตุให้ทุกอย่างถาโถมมายัง “ธรรมนัส”

ประกอบกับ การขาดตัวเลือกอื่น และใช้ “ธรรมนัส” จึงถือว่าเปิดตัวเองเร็วไป ยิ่งทำตัวเป็นกุญแจดอกสำคัญ ทำตัวเป็นเส้นเลือดใหญ่ ยิ่งตกเป็นเป้า “ตัดเส้นเลือดใหญ่ - หักกุญแจ” นั้นเสีย