'เศรษฐกิจหมุนเวียน' กับโอกาสในการลงทุน

'เศรษฐกิจหมุนเวียน' กับโอกาสในการลงทุน

หวังว่าเราจะได้เห็นธุรกิจอย่าง Moreloop กับอุตสาหกรรมใหม่ๆ

สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้เข้าร่วมประชุมกับเพื่อนฝูงที่ทำงานการเมืองด้วยกันในประเด็นเรื่องการแยกขยะ-ลดการใช้พลาสติก ซึ่งแต่เดิมเป็นเรื่องที่แม้ผมจะสนใจ แต่ก็ไม่ได้ 'อิน' เท่าไรนัก

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้นั่งลงคุยกันอย่างจริงจัง บวกกับได้ฟังผู้รู้อีกจำนวนหนึ่งซึ่งมาเข้าร่วมประชุมด้วย ทำให้ผมเริ่มเห็นถึงความสำคัญของประเด็นนี้มากขึ้น

แนวคิดที่ได้จากการประชุมครั้งนี้ คือการสร้าง circular economy หรือ 'เศรษฐกิจหมุนเวียน' ความหมายคือระบบเศรษฐกิจที่หมุนเวียนเอาทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีลักษณะ 'วนลูป' เป็นวงจร แทนที่จะเป็น 'เส้นตรง' คือใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งไป

คำว่า 'หมุนเวียน' ในที่นี้ ครอบคลุมตั้งแต่การผลิต การบริโภค ไปจนถึงการจัดการของเสีย ไม่ว่าจะเป็นการ reuse, recycle และ re-material (ผลิตซ้ำ) อันจะนำไปสู่ความยั่งยืนของทั้งระบบ

ในจำนวนผู้รู้ที่ผมได้พูดคุยด้วย คือ อมรพล หุวะนันท์ และ ธมลวรรณ วิโรจน์ชัยยันต์ สองผู้ก่อตั้ง 'Moreloop' บริษัทสตาร์ท-อัพที่เอา 'ผ้าเหลือสต็อก' จากโรงงานผลิตเสื้อผ้ามาทำเป็นสินค้าใหม่อีกรอบ

ธมลวรรณ หรือ 'แอ๋ม' เล่าว่า เนื่องจากครอบครัวของเธอทำธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป จึงมีผ้าที่เป็น dead stock จำนวนมาก เดิมทีจะมีรถบรรทุกมาเหมาซื้อผ้าที่เหลือทิ้งจากการผลิตในราคาถูกๆ

วันหนึ่ง เธอจึงเกิดไอเดียขึ้นมาว่า น่าจะเอาผ้าเหล่านี้มาสร้างมูลค่า ด้วยการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เธอจึงตั้งบริษัทที่เป็น 'คนกลาง' เพื่อให้ผู้ซื้อเข้าถึงผ้าดีๆ ในราคาที่จับต้องได้โดยไม่ต้องไปสั่งทอใหม่ ส่วนผู้ขายก็ขายผ้าได้ในราคาที่เหมาะสม ทั้งยังเป็นไปตามโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

จะเห็นได้ว่า คอนเซ็ปต์ของสตาร์ทอัพนี้คือการเป็นตัวเชื่อมเพื่อสร้างตลาดการค้า อันจะส่งผลให้เกิด upcycling หรือการ 'ยืดอายุวัสดุ' ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็น 'ผ้า' เท่านั้น ยังมีอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีของเหลือใช้ในลักษณะนี้อีกมาก

ผมหวังว่าเราจะได้เห็นธุรกิจอย่าง Moreloop กับอุตสาหกรรมใหม่ๆ โดยผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีแรงผลักดันด้านสิ่งแวดล้อมและมีความรู้ทางเทคโนโลยีอีกเยอะๆ เพื่อสร้าง circular economy ให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรมทั้งระบบ

และด้วยสายตาของ 'นักลงทุน' ในประเทศที่เรื่องของการบริหารจัดการด้านส่ิงแวดล้อมยัง 'อ่อนด้อย' ธุรกิจเช่นนี้คือหนึ่งใน 'เมกะเทรนด์' แห่งอนาคตที่น่าลงทุนที่สุดเลยทีเดียว