Hard commodity มีความเสี่ยง…หั่นกำไรลงได้อีก

Hard commodity มีความเสี่ยง…หั่นกำไรลงได้อีก

รายงาน MS คาดภาวะอุปทานเกินกว่าอุปสงค์ ของการบริโภคน้ำมันดิบในปี 2019-20 จะกดดันราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวลงต่อเนื่องในอีก 3 ไตรมาสข้างหน้า

จากอุปทานล้นเกินอุปสงค์

 

อุปสงค์น้ำมันดิบ ปรับลดลง คาดปี 2019-20 ขยายตัวเหลือ 0.8 และ 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน (mb/d) (จาก 1-1.4 mb/d)

ตามภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยความต้องการใช้น้ำมันดิบ ครึ่งปีแรก (1H19) ขยายตัวเพียง 0.6 mb/d เริ่มจากภาคอุตสาหกรรมการผลิต และลามไปถึง ภาคบริการ และ การบริโภคนอกภาคอุตสาหกรรม ทำให้ MS ปรับลดคาดการณ์ GDP โลกลง เหลือ 3% และมีโอกาสปรับลดลงได้อีก จากสงครามการค้า

โดยคาด GDP โลกจะขยายตัว เฉลี่ย 2.7% ตั้งแต่ 3Q19 ถึง 2Q20...เกือบหลุด 2.5% (ซึ่งการขยายตัวต่ำกว่า 2.5% คือ เศรษฐกิจถดถอย) ถ้าอัตราภาษี ระหว่าง สหรัฐฯ-จีน เริ่มจัดเก็บตามที่ประกาศ ด้านล่าง

(1) สินค้าล็อตก่อนหน้าที่โดนภาษี 25% วงเงิน 2.5 แสนล้านเหรียญ จะขยับขึ้นเป็น 30% มีผล 1 ตค.นี้ (2) สินค้าจีน ล็อตหลัง 3 แสนล้านเหรียญ แบ่งเป็น 1.3 แสนล้านเหรียญ จะเก็บภาษีเพิ่มเป็น 15% จาก 10% มีผล 1 กย.นี้ และ อีก 1.6 แสนล้านเหรียญ จะเก็บภาษี 15% จาก 10% มีผล 15 ธค.จีน ประกาศจัดเก็บภาษีสินค้า นำเข้าจากสหรัฐ วงเงิน 7.5 หมื่นล้านเหรียญ ในอัตรา 5-10% โดยสินค้าส่วนใหญ่ได้แก่ ถั่วเหลือง น้ำมันดิบ ยานยนต์ และ สินค้าเกษตร มีผล แบ่งเป็น 2 ช่วง 1 กย. และ 15 ธค.นี้

อุปทาน ล้น...

อุปทานน้ำมันดิบ ยังคงเพิ่มขึ้น แม้ว่า กลุ่มโอเปก จะปรับลดกำลังการผลิตลงแต่ไม่เป็นผล

2.1 คาดกำลังการผลิต จากสหรัฐฯ ปี 2019-20 จะขยายตัว 1.8-1.6 mb/d (จากปี  2018 อยู่ที่ 2.2 mb/d)

2.2 กำลังการผลิต รวม (โอเปก+นอกโอเปก) 2019-20 คาดขยายตัว 2-2.3 mb/d (ปี 2018 อยู่ที่ 2.8 mb/d)

โดยกำลังการผลิต จาก โอเปก ปี 2020 คาดว่าจะลดลงต่ำกว่าระดับปัจจุบันราว 1 mb/d โดยคาดกำไรการผลิต ปี 2019 ที่ 29.7 mb/d และลงเหลือ 28.7 mb/d มองว่าลงไปมากกว่านี้ไม่น่าจะได้แล้ว        

กำลังการผลิต จาก โอเปก ปี 2020 คาดว่าจะลดลงต่ำกว่าระดับปัจจุบันราว 1 mb/d โดยคาดกำไรการผลิต ปี 2019 ที่ 29.7 mb/d และลงเหลือ 28.7 mb/d

จากอุปทานส่วนเกินที่ยังคง อยู่ในระดับสูง บวกกับ ความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกถดถอย...

MS ตัดสินใจปรับลดคาดการณ์ ราคาน้ำมันดิบ ลงอีกครั้ง

โดยคาดราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบเบรนท์ ใน 3 ไตรมาสข้างหน้า ที่ US$60/bbl ปรับลงจาก $65/bblและ เราคาดกลุ่มหุ้นที่เชื่อมโยง ราคาน้ำมันดิบ (PTT PTTEP TOP IRPC SPRC ESSO PTTGC IVL BANPU) มีความเสี่ยงด้านล่างของประมาณการณ์กำไร เพราะสมมุติฐานราคาน้ำมันดิบที่เรา ใช้ยังสูงกว่าที่ MS คาด โดย เราใช้สมมุติฐานปี 2019-20 ที่ $67-$68 /bbl

รีบาวด์รอบนี้ คงแนะ ลดพอร์ตหุ้น Global play    

จากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก เข้าสู่ภาวะถดถอยที่เพิ่มขึ้นเรื่อย MS ยังคงเฝ้าติดตามผลกระทบจาก กำแพงภาษีที่มีผลต่อ เศรษฐกิจสหรัฐฯโดยตรง

การขึ้นกำแพง ภาษีรอบใหม่อีก US$3 แสนล้าน จะมีผลกระทบโดยตรงต่อ ผู้บริโภคสหรัฐฯ  MS คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคการบริโภคสหรัฐฯโดยตรง ด้วยสัดส่วนสินค้ารอบนี้ที่โดนภาษี 60.2% เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐ 70% ที่พึ่งพาการบริโภค คราวนี้ จะได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งจะกระทบรุนแรงกว่า กำแพงภาษีรอบแรก และอย่าลืมว่า ผลกระทบ คราวนี้ บริษัทสหรัฐฯ จะไม่ได้ ผลประโยชน์ภาษี ที่ ปธน.ลดให้ตามนโยบายหาเสียง มาช่วยเหมือนกับปีที่แล้วส่งผลให้ กำไรไตรมาส 3 นี้ ของ บจ.สหรัฐ มีโอกาสจะออกมาต่ำกว่าคาดการ อย่างมีนัยยะ...

 

สำหรับกลยุทธ์ การลงทุนหุ้นไทย

เรายังคงคำแนะนำ เลือกถือหุ้น Domestic play และการรีบาวด์ของหุ้น Global play โดยเฉพาะ พลังงาน นำมัน ถ่านหิน ปิโตรฯ โรงกลั่น ฯลฯ เป็นจังหวะของการ ปรับพอร์ต ไม่ใช่ โอกาสในการ ถัว หรือ ช้อนซื้อหุ้นดีในราคาถูก เพราะ เรามองว่ามีโอกาสจะ ได้ซื้อในราคาที่ถูกกว่านี้...