เรื่องจริงของข่าวลวง

เรื่องจริงของข่าวลวง

ช่วงนี้ "เฟคนิวส์" พูดกันเยอะ หนึ่งในนั้นคือ ผบ.ทบ. แต่ฟังท่านให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ทีไร รู้สึกว่ามีแต่การบ่น กังวล ตัดพ้อ ซึ่งไม่เกิดประโยชน์

เพราะ "เฟคนิวส์" กลายเป็นสงครามรูปแบบหนึ่งที่ใช้ข้อมูลข่าวสารเป็นอาวุธ การบ่นด่าอีกฝ่ายจึงไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น หนำซ้ำฝ่ายตรงข้ามมีแต่หัวเราะ 

จะว่าไป "เฟคนิวส์" ในแบบเท็จ 100% ไม่น่ากลัว เพราะในโลกยุคข้อมูลข่าวสาร แค่ไม่ถึง 10 นาทีก็รู้ความจริงแล้ว เช่น ข่าว "บิ๊กป้อม" หกล้มอาการโคม่า แค่พักเดียวความจริงก็ปรากฏ 

แต่ "เฟคนิวส์" ที่น่ากลัวกว่าคือการให้ข้อมูลบิดเบือน ไม่ได้เท็จ 100% แต่หยิบข้อมูลบางด้านมาบิดให้ตัวเองได้ประโยชน์ พวกนี้อันตราย เพราะพอถูกจับได้ไล่ทันก็อ้างว่าเป็นการวิจารณ์โดยสุจริต หรือแสดงความเห็นเชิงวิชาการ 

ข่าวลวงแบบนี้น่ากลัว เพราะดูมีเหตุผล และดูเหมือนเรื่องจริง โดยเฉพาะเมื่อถูกตอกย้ำแบบซ้ำๆ ถ้าตรรกะและข้อมูลของผู้รับสารไม่มากพอ ก็จะเชื่อได้โดยง่าย ในทางความมั่นคงเรียกว่า "บ่อนทำลาย" ถ้าทำอย่างเป็นระบบก็เป็นงาน "ไอโอ" รูปแบบหนึ่ง 

อย่างเช่น การโจมตีซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือของคณะรัฐประหาร แต่ไม่ยอมพูดถึงกรณีถุงขนม 2 ล้านที่นักการเมืองพยายามเสนอสินบนให้ตุลาการ ฉะนั้นการแทรกแซงศาลเพื่อประโยชน์ของตน จนทำให้ศาลไม่น่าเชื่อถือ จึงไม่เกี่ยวอะไรกับเผด็จการหรือประชาธิปไตย เพราะไม่ว่าจะเข้าสู่อำนาจมาด้วยวิธีใด ถ้าจ้องจะแทรกแซงศาล ก็ทำลายกระบวนการยุติธรรมไม่ต่างกัน 

แต่การตอกย้ำประเด็นแบบนี้บ่อยๆ จะมีผลเมื่อศาลตัดสินคดีออกมาเป็นลบกับฝ่ายที่สร้างข่าว ก็จะเข้าทางโหมประโคมว่าศาลเป็นเครื่องมือของอีกฝ่าย แต่ถ้าตัวเองได้ประโยชน์เมื่อใดก็จะนิ่ง 

ทางแก้เมื่อเจอแบบนี้มีเพียงทางเดียว คือต้องตอบโต้ด้วยข้อมูลอีกด้านอย่างมียุทธศาสตร์ รวดเร็ว เข้าใจง่าย ใช้ภาพหรือกราฟฟิกช่วยยืนยัน พูดง่ายๆ คือแก้แบบย้อนรอย ฝ่ายปล่อยข่าวลวงทำมาอย่างไร ก็โต้กลับด้วยวิธีการเดียวกัน และต้องทันสถานการณ์มากพอ 

แต่คำถามคือหน่วยงานรัฐและรัฐบาลทำแบบนี้บ้างหรือยัง สิ่งที่คนทั่วไปสัมผัสได้คือเอาแต่ด่าทอต่อว่าอีกฝ่ายทำลายชาติ แต่ไม่เห็นมีการแก้ข่าวอย่างเป็นรูปธรรม ศูนย์ปราบปรามเฟคนิวส์ที่จะตั้ง ก็มัวแต่รำมวย หนำซ้ำบางทีหน่วยงานรัฐและคนของรัฐบาลก็ปล่อยข่าวปลอมเสียเอง เหมือนที่ฝ่ายความมั่นคงทำไอโอในภาคใต้ หรือ ส.ส.รัฐบาลกล่าวหาพรรคอนาคตใหม่พัวพันระเบิดกรุงเทพฯ 

สิ่งสำคัญที่จะทำให้เฟคนิวส์ทำงานไม่ได้ผล คือเครดิตความน่าเชื่อถือของตัวผู้ถูกกล่าวหาเอง ยกตัวอย่าง ผบ.ทบ. ถ้าท่านประกาศให้ชัดว่าไม่ว่าการเมืองจะมีปัญหาอย่างไรก็จะไม่ปฏิวัติ จะยึดแนวทางประชาธิปไตย ถ้าท่านให้ความมั่นใจได้ ท่านก็จะไม่โดนเฟคนิวส์ว่าท่านเตรียมปฏิวัติ และไม่ต้องเสียเวลามาก่นด่าคนปล่อยข่าว