ทำไมเห็นดอกบัวเป็นกงจักรไปได้

ทำไมเห็นดอกบัวเป็นกงจักรไปได้

มีงานวิจัยเมื่อ 10 ปีมาแล้วบอกว่า คนเรามักประเมินเรื่องราวที่เกี่ยวกับการงานคลาดเคลื่อนไปจากที่เป็นจริง 3 เรื่องใหญ่

ได้แก่ เมื่อเราต้องประเมินขีดความสามารถของตัวเราเองในงานที่ต้องทำ เมื่อเราต้องประเมินขีดความสามารถของเราเทียบกับคนอื่น และเมื่อเราต้องประเมินขีดความสามารถที่ต้องมีสำหรับการงานในอนาคต ซึ่งที่น่าจะมีผลกระทบมากที่สุดคือ ความคลาดเคลื่อนในการประเมินขีดความสามารถของตัวเราเอง สำหรับการงานในปัจจุบัน ซึ่งตรงกับงานวิจัยอีกเรื่องหนึ่งเมื่อกว่า 40 ปีมาแล้ว ที่บอกไว้ว่า คนเราจะประเมินขีดความสามารถของตนเองสูงกว่าที่เป็นจริง เมื่อเทียบกับงานยาก ในขณะที่จะประเมินขีดความสามารถของตนเองต่ำกว่าความเป็นจริง เมื่อเทียบกับงานง่าย ทำให้บ่อยครั้งที่งานยากดูเหมือนเป็นงานง่าย แต่งานง่ายๆ กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ ต้องมีการตระเตรียมกันจนเกินเลยความจำเป็น อยากค้าขายออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เราขายไปตามมีตามเกิด ไม่ได้ทำอะไรเติมเต็มไปกว่ากระบวนการที่ทำในไลน์ ในเฟสบุ๊ค แต่ถ้าจะไปทำบุญเลี้ยงพระ เราตระเตรียมสารพัด งานรับน้องใหม่ ซ้อมแล้วซ้อมอีก แต่งานสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ สอบเวลาไหน แค่ไปตามเวลานั้น

ผลกระทบสำคัญของการประเมินความสามารถที่คลาดเคลื่อนไปจากที่เรามีอยู่จริงๆ ในเรื่องยากนั้น ทำให้เราเห็นดอกบัวเป็นกงจักรได้ง่ายๆ เราคิดว่างานยากนี้ ฉันมีฝีมือทำได้สบายมาก แค่จัดเงิน จัดคน จัดเครื่องมือให้ฉันให้พอเพียงเท่านั้น พอหัวหน้าที่เจอะเจองานยากมามากกว่า บอกว่างานนี้ต้องตระเตรียมมากกว่านี้ เพราะงานมันยากกว่าที่คิด กลายเป็นหัวหน้ากีดกันตัวฉัน ตามมาด้วยสารพัดมโนเกี่ยวกับหัวหน้า งานยากเลยยิ่งยากขึ้นไปอีก ยากทั้งที่ต้องแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้น จากการทำงานโดยไม่เก่งจริงในเรื่องนั้น ยากทั้งใจที่ต้องทำงานด้วยมโนว่างานนี้หัวหน้ากีดกันฉัน

เกิดมาไม่เคยซ่อมเครื่องบิน อยู่ๆ ก็มีคนใหญ่คนโตมาบอกว่าให้ไปเป็นครูสอนซ่อมเครื่องบิน ด้วยความที่เคยสอนเรื่องเครื่องจักรเครื่องกลมานานปี ท่านก็คิดของท่านว่าถ้าฉันสอนคนซ่อมรถยนต์ได้ ฉันก็สอนคนซ่อมเครื่องบินได้เหมือนกัน ขอแค่ส่งฉันไปอบรมที่แอร์บัสโบอิ้งสัก 2 สัปดาห์ แล้วซื้อเครื่องบินแอร์บัส โบอิ้งจำลองให้ฉันสักลำสองลำ ฉันจะสอนให้คนเป็นบัณฑิตด้านการซ่อมเครื่องบินได้ทันที นี่คือตัวอย่างของการประเมินขีดความสามารถของตนเองสูงเกินกว่าความเป็นจริง เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำงานยาก ซึ่งถ้าทำแบบที่เล่ามาได้จริง วันนี้คงมีเครื่องบินให้เลือกใช้ได้มากมายหลายยี่ห้อ พอๆ กับรถยนต์ ไม่ได้มีแค่ 3 - 4 ยี่ห้อดังๆ เหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ พอมีคนที่ทำงานซ่อมเครื่องบินมาทั้งชีวิต ไปบอกว่าท่านอย่าเพิ่งผลิตบัณฑิตซ่อมเครื่องบินเลย เอาแค่ท่านไปสร้างขีดความสามารถในการซ่อมเครื่องบินให้กับตัวท่านเสียก่อนเถอะ จนซ่อมเก่งจริงๆ แล้วค่อยมาเปิดสอนบัณฑิตกัน คนนั้นก็กลายเป็นกงจักร ทั้งๆ ที่เป็นดอกบัวมาบอกว่า อย่าเสียเงินเสียทองไปฝึกแค่ 2 สัปดาห์ด้วยราคา 4 - 5 ล้าน อย่ารีบร้อนเสียเงินไปซื้อเครื่องจำลองมาก่อนที่จะรู้เรื่องดีแล้ว เพราะต้องจ่ายเงินล่วงหน้าไปก่อนปีละหลายสิบล้าน

พึงระลึกไว้เสมอว่าเรามีแนวโน้มที่จะคิดไปว่าเรามีฝีมือพอในเรื่องยาก ยิ่งถ้าเรื่องยากนั้นมาจากการสั่งการของนายใหญ่ ดึงมโนลงสักหน่อย ลองฟังจิ้งจกที่เป็นผู้รู้จริงเรื่องนั้นทักว่าอย่างไรบ้าง งานยากถึงแม้ว่าฉันคิดว่าฉันทำได้แน่ๆ ให้ใส่ใจฟังจิ้งจกทักก่อนเดินหน้า อย่าเห็นจิ้งจกเป็นจรเข้ที่คอยเล่นงาน ถ้าจะไปตายเอาดาบหน้ากับเรื่องยากนั้น ไม่ได้ตายได้ง่าย ๆ ก่อนจะตายต้องแก้ไขสารพัดเรื่องที่ทำคลาดเคลื่อนไว้จากการที่เก่งไม่พออีกด้วย แก้ปมเชือกที่ผูกโดยคนที่ไม่เป็นเรื่องการผูกเงื่อนนั้น คงรู้ว่ายากกว่าการแก้ปมเชือกที่ผูกโดยคนผูกที่เก่งเรื่องผูกเงื่อนมากแค่ไหน

แต่ที่น่าจะแย่ที่สุด น่าจะเป็นอาการเดียวกันที่เกิดกับคนใหญ่คนโตที่เห็นเรื่องยากเป็นเรื่องง่ายไปหมด ใครมาทักก็เห็นเป็นกงจักรไปหมด แล้วเที่ยวไปสั่งให้ใครต่อใครทำเรื่องยากนั้น โดยที่ทั้งตัวเองและคนรับคำสั่งต่างประเมินความเก่งของตนเกินกว่าที่เป็นจริงด้วยกันทั้งคู่