การรักษาโรคโดยใช้สารสกัดจากกัญชา

ย่อมมีโอกาสเกิดความขัดแย้ง ถ้าการรักษานั้นได้ผล ผู้ป่วยมีอาการที่ดีขึ้น ก็คงไม่มีความขัดแย้ง แต่ถ้าผู้ป่วยทรุดลง ไม่ดีขึ้น หรือไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง อย่างนี้ฝ่ายผู้ป่วยย่อมไม่พอใจ 

ถ้าดูข่าวจากสื่อต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก็จะพบว่าสถานพยาบาลบางแห่งได้รายงานผู้ป่วยที่ใช้สารสกัดจากกัญชาเกิดปัญหาถึงขนาดต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล และบางคนถึงขั้นเสียชีวิตก็มี นอกจากนี้ การรักษาอาการป่วยนั้นมีต้นทุนค่ารักษาพยาบาล และมีรายงานว่าค่ารักษาพยาบาลสำหรับการแพทย์ทางเลือกนั้นมีค่าใช้จ่ายไม่น้อย ไม่ใช่ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเลย

ความไม่สมหวังตามที่คาดหวังนี่แหล่ะจะเป็นเหตุแห่งการพิพาท เพราะการดูแลรักษาจากผู้มีวิชาชีพ ผู้มีความรู้ความชำนาญเป็นพิเศษ ผู้ที่ได้รับอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ที่สังคมยอมรับในบทบาทหน้าที่นั้น มันเป็นอะไรที่ก้ำกึ่งๆ กันอยู่ ระหว่างความรับผิดชอบในฐานะผู้มีวิชาชีพแพทย์ กับความเป็นจริงที่รู้อยู่ว่ามันไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่แม้ผู้ป่วยเองก็ไม่ทราบ

ความคาดหวังที่ไม่สมหวังนี่เป็นเรื่องที่ต้องคิดว่า แพทย์ผู้ทำการรักษาด้วยวิธีการหรือกระบวนที่ยังไม่เป็นยอมรับอย่างถ่องแท้ในมาตรฐานสากลควรจะรับผิดชอบมากน้อยเพียงใด ควรมีกรอบความรับผิดอย่างไรหรือไม่ และมีวิธีป้องกันให้ไม่ต้องรับผิดในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สมหวังหรือไม่ นั่นเป็นเรื่องหนึ่ง

อีกเรื่องหนึ่งคือ แล้วผลของความไม่สมหวังตามที่คาดหวังนั้น จะถึงขนาดที่แพทย์ต้องรับผิดชอบเหมือนการดูแลรักษาที่เกิดความผิดพลาดโดยไม่เจตนาหรือประมาทเลินเล่อหรือไม่ เพราะถ้าเกิดความเสียหายทางการแพทย์ขึ้น และถูกฟ้องเป็นคดีผู้บริโภคภาระการพิสูจน์จะตกกับจำเลยคือแพทย์ทันที แล้วเราจะป้องกันอย่างไร

หลายๆ อย่างที่กำลังเกิดขึ้นเช่นเรื่องการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ทางออนไลน์ก็ดี ทางโทรศัพท์ก็ดี การรักษาด้วยวิธี Telemedicine ก็ดี เหล่านี้ เป็นเรื่องของสังคมที่เดินหน้าโดยอาศัยเทคโนโลยีนำ กฎหมายมักจะตามออกมาภายหลังเกิดปัญหาขึ้นแล้ว

จึงมีประเด็นว่า ในระหว่างที่ยังไม่มีกรอบความรับผิดของผู้ให้คำแนะนำรักษาด้วยวิธีการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ เมื่อเกิดความเสียหายหรือสูญเสีย เรายังไม่มีความคุ้มครองในเรื่องข้อจำกัดความรับผิดของแพทย์ผู้ทำการรักษาหรือให้คำปรึกษา เราจะทำอย่างไรที่จะไม่เกิดข้อพิพาททางการแพทย์เหมือนที่กำลังเกิดทุกวันนี้