สุดยอดของขวัญล้ำค่า สนองพระคุณแม่

สุดยอดของขวัญล้ำค่า สนองพระคุณแม่

เข้าสู่เทศกาล “วันแม่แห่งชาติ”… อีกครั้ง ซึ่งในประเทศไทย ปัจจุบันตรงกับวันที่ 12 ส.ค.ของทุกปี

ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”

คำว่า “แม่” สำหรับผม… คือคำที่ยิ่งใหญ่… เพราะเสียงที่เปล่งออกมาจากปาก มีความหมายที่น่าซึ้งใจ… มีรสเมตตาคุณ… กรุณาคุณ…และความรักอยู่ในคำนี้บริบูรณ์

ในวัยเด็ก เวลาพลัดหลงกับแม่… เหลียวหาแม่ไม่เห็น เราก็ส่งเสียงเรียกตะโกนเรียก แม่ ! แม่ !

ถ้าไม่เห็น ก็ร้องไห้ใจหาย… ถ้าเห็นแม่มา ก็หัวเราะได้ทั้งน้ำตา เสมือนได้ผู้พิทักษ์… ผู้ดูแลปกป้องรักษา… ผู้ให้ความปลอดภัยกลับมา

ในวัยผู้ใหญ่… ด้วยภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบและบริบทชีวิตที่แตกต่างไป… แต่เวลาเอ่ยคำว่า “แม่” ก็ยังคงให้ความรู้สึก “อบอุ่น” เหมือนเดิม

เข้าสู่เทศกาล “วันแม่” ทุกปี… ลูกๆ หลายท่านมักมองสิ่งของ เครื่องใช้ อาหารดีๆ ให้กับท่าน

แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว… ไม่มีเพชรนิลจินดาใดๆ... หรือดอกมะลิใดๆ (แม้จะเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักอันบริสุทธิ์ของแม่)... หรือการปฏิบัติใดๆ เช่น การกราบเท้ามารดา... ที่จะมีคุณค่าเทียบเคียง “ธรรมะ” จาก พระพุทธองค์ ที่ลูกๆ อย่างเราสามารถมอบให้ “บุพการี” เราได้…

โดยตามพุทธประวัติ… เมื่อพระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ ท่านระลึกถึงคุณพระพุทธมารดาเป็นสิ่งสำคัญ โดยท่านยกย่องว่า คุณของพระพุทธมารดานั้นมากมายนัก จะหาอะไรเปรียบมิได้ ท่านทรงระลึกว่าท่านจะหาสิ่งใดหรือทำอย่างไร สนองคุณพระพุทธมารดาจึงจะสมกับที่พระพุทธมารดามีคุณต่อท่าน ท่านทรงวินิจฉัยโดยรอบคอบแล้ว จึงเห็นแต่สิ่งเดียวเท่านั้นที่จะสนองคุณพระพุทธมารดาได้ คือ “พระอภิธรรม”

เพราะฉะนั้นท่านจึงเสด็จขึ้นไปเทศน์โปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ด้วยพระอภิธรรมจนครบพรรษาหนึ่ง เป็นการใช้หนี้ค่าน้ำนมให้คู่ควรกัน

หากแต่ “การให้ธรรม” นั้น ก็หาใช่เพียงการพา “บุพการี” ไปตักบาตร… ถวายเพล… หรือ ทำสังฆทาน… “การให้ธรรม”หรือ “ธรรมทาน” ที่หมายถึง คือ “การฟังธรรม” และ “การปฏิบัติธรรม”… เพื่อให้ธรรมะจากพระพุทธองค์ได้หยั่งลึกสู่จิตใจอย่างแท้จริง

โดยการให้ธรรมะเป็นทานนั้น ถือว่าเป็นการให้ทานที่ได้บุญสูงสุด มีคุณค่ากว่าการให้ทานทั้งปวง เพราะทำให้ผู้รับมีปัญญารู้เท่าทันกิเลส สามารถนำไปใช้ได้ไม่รู้จักจบสิ้น ทั้งชาตินี้และชาติต่อ ๆ ไป ส่วนทานชนิดอื่น ๆ ผู้รับได้รับแล้วไม่ช้าก็หมดสิ้นไป

ดังพุทธพจน์ที่ว่า สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ การให้ธรรมทาน ชนะการให้ทั้งปวง

อีกสิ่งหนึ่งที่เราสามารถทำทุกวันและควรทำทุกวัน...เพื่อทดแทนพระคุณของแม่ได้นั้น คือ “การเป็นคนดี”... สร้างคุณประโยชน์เพื่อประเทศชาติและส่วนรวม... รวมถึงการเอาใจใส่ดูแลปรนนิบัติท่านอย่างสม่ำเสมอ… ไม่ใช่ทำดีกับท่านเฉพาะวันเทศกาล…

เพราะผู้ใหญ่หลายท่าน มักมัวแต่วุ่นวนไขว่คว้ากับการงานเพื่อความมั่นคงมั่งคั่งแห่งชีวิต จนมัก “หลงลืม” การให้คุณค่าและเวลากับคนใกล้ตัว ซึ่งคือคนที่สำคัญที่สุด…

อย่าลืมนะครับ ว่าทุกสิ่ง ไม่มีอะไรแน่นอนและยั่งยืน… รวมถึงสังขารของแม่เรา

เราไม่ควรมัวไปเสียเวลาหลงระเริงไปกับเรื่องไร้สาระ… จะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลังยามท่านไม่อยู่แล้ว

สุดท้ายนี้ขอฝาก บทประพันธ์แปลเกี่ยวกับความรักของแม่ที่มีต่อลูกของ “พระราชธรรมนิเทศ” (หลวงพ่อพยอม) ไว้คอยให้ระลึกพระคุณของแม่ ไว้ดังนี้…

“ในโลกอันหนาวทรวงลวงหลอกนี้

ช่างไม่มีธารรักอันศักดิ์สิทธิ์

ที่ซึมซาบดื่มด่ำอมฤต

เหมือนในจิตของแม่รักแท้จริง”