“ทีมโฆษกฯ”ลดแรงปะทะ นายกฯลุงตู่(ไม่ต้อง)พบปชช.
ชักจะกลายเป็นธรรมเนียมของนายกฯ ที่ทำต่อเนื่องกันมา คือ การจัดรายการ “นายกฯพบประชาชน” ...แม้แต่นายกฯลุงตู่ ก็ไม่เว้น
แต่งานนี้ กระสุนตกใส่นายกฯ ลุงตู่ เพราะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เทวัญ ลิปตพัลลภ ปรารถนาดี อยากให้นายกฯ มีรายการสื่อสารกับประชาชนโดยตรง จึง(ตามน้ำ) เห็นดีเห็นงามกับข้อเสนอจากหลายฝ่ายรายรอบตัว แม้แต่สื่อมวลชนก็ถามไถ่กันมา
แต่พอรัฐมนตรีเทวัญ โยนเรื่องนี้เข้าสู่กระแสโซเชียลมีเดีย ดันกลายเป็นประเด็นวิวาทะทางการเมือง
ต้องยอมรับว่า ระยะหลังมานี้ ระยะหลังมานี้ ช่วงรายการคืนความสุขทุกเย็นมา 4- 5 ปี
มานี้ มีทั้งเสียงบ่น เสียงเบื่อ ทั้งทีเล่น ทีจริง ไปเข้าหูนายกฯลุงตู่ไม่น้อย
ว่ากันว่า ที่จริงแล้ว เจ้าตัวเอง ก็ยังไม่มีดำริจะจัดรายการอย่างที่มีผู้เสนอมา เพราะแต่ละวันภารกิจล้นมือ ที่สำคัญทุกวันนี้นายกฯ มีช่องทางในการสื่อสารมากหลายแพลตฟอร์มอยู่แล้ว แถมแฟนคลับยังตั้งเพจช่วยสื่อสารอีกเพียบ
“รายการอะไร ไม่มีๆ ยังไม่มี ต่อจากนี้จะไม่มีการจัดรายการแบบ 5 ปีที่ผ่านมา ถ้าจะมีก็คือ การจัดรายการแบบเป็นครั้งเป็นคราว” นี่จึงเป็นคำตอบ ที่นายกฯลุงตู่ พูดชัดๆ หลังประชุมครม.จบ
แน่นอนว่า รายการนายกฯพบประชาชน ย่อมเลี่ยงไม่พ้นการตอบโต้ หรือชี้แจงประเด็นการเมือง ที่จะถูกฝ่ายตรงข้ามถล่ม ดังนั้นการตัดสินใจ ไม่เปิดหน้าชนเอง ย่อมไม่ต้องรับแรงปะทะโดยตรง
หากย้อนไปในยุคอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ต้นตำรับรายการนายกฯพบประชาชน ก็เผชิญปัญหา จากประเด็นการสื่อสารโดยตรงไม่น้อย เพราะเนื้อหาได้ถูกนำไปขยายประเด็นต่อ ให้สื่อไล่ต้อนประเด็นร้อนตลอดเวลา ทำให้ระยะหลังอดีตนายกฯทักษิณ สั่งการให้ทีมโฆษกทั้งรัฐบาลและของพรรค ออกมาเป็นด่านหน้าก่อนถึงตัว
เช่นเดียวกัน การ“เปิดหน้า” ชนเองของนายกฯลุงตู่ ในสถานการณ์การเมือง 2 ขั้วที่ยังแรงไม่หยุด ย่อมได้ไม่คุ้มเสีย
วันนี้ การออกแบบลดแรงปะทะของ(ทีม)นายกฯ ลุงตู่ ก็ถือได้ว่า เป็นการกระจายทีมรับแรงต้านทางการเมืองที่ได้ผลดีไม่น้อย
จะว่าไปแล้ว งานรัฐบาล ที่มอบขาดให้ทีมโฆษกทำเนียบฯ ก็ได้โฆษกหญิงมือดีมาเป็นหลัก งานการเมือง ก็ทีมโฆษกพลังประชารัฐ ที่ถึงลูกถึงคน งานในฐานะ รมว.กลาโหม ก็มีทีมโฆษกกองทัพ ที่เอาอยู่ทั้งกระแส และลูกล่อลูกชน
ดังนั้นรายการพบประชาชน จึงไม่จำเป็นที่นายกฯลุงตู่ ต้องเปิดหน้าชน เสี่ยงกับกระแสที่อาจตีกลับ หากวันใดหลุดธีมนายกฯ กลับไปเป็น หัวหน้า คสช.!