เครื่องจักรเรียนรู้ แต่คนไม่รู้เรียน

เครื่องจักรเรียนรู้ แต่คนไม่รู้เรียน

ใครๆ ก็บอกว่าวันหน้าเครื่องจักรจะฉลาดขึ้น แถมขู่ต่อไปว่าเครื่องจักรจะมาแย่งการงานของเราไป

ผู้หลักผู้ใหญ่ท่านหนึ่งถึงกับกล่าวว่า ถ้ามีใครถามว่าเรื่องใหญ่ที่ภาครัฐต้องทำอะไรคืออะไร ท่านตอบว่าให้คนภาครัฐยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ขยายงานบริการประชาชนโดยอาศัยเครื่องจักร เครื่องมือสมัยใหม่ อย่าขยายงานโดยขยายคน เพราะวันหน้าเงินทองจะหมดไปกับค่าจ้างคน จนไม่เหลือไปพัฒนาอะไรต่อมิอะไร ใครๆ ก็เชื่อว่าเครื่องจักรจะมาแทนคนทำงาน เครื่องจักรเรียนรู้ได้ แต่คนไม่รู้จักเรียนเพิ่มเติมหนีเครื่องจักรหรืออย่างไร

ตามหลักการแล้ว คนต้องเรียนรู้ได้ดีกว่าเครื่องจักรอย่างแน่นอน เพียงแต่คนจำนวนหนึ่งไปปรับแต่งให้การงานที่ตนเองทำอยู่นั้น ทำไปเรื่อยๆ แบบเดิมๆ โดยไม่ต้องเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ก็ทำต่อไปได้ พูดกันง่ายๆ คือคนไปกำหนดขั้นตอนการทำงานที่ตายตัว งานเข้ามาเมื่อไร ต้องหนึ่งทำนั่น สองทำนี่ ไปจนกระทั่งครบถ้วนขั้นตอนที่กำหนดไว้ เป็นอันว่าเสร็จการงานนั้น ทำนานวันเข้า ขั้นตอนที่เคยขีดเขียนไว้เป็นเอกสาร ใครอ่านใครก็ทำได้ก็หายไป ขั้นตอนการทำงานที่กำหนดไว้ เลยกลายเป็นขั้นตอนอัตโนมัติสำหรับคนเดิมๆ สามารถทำไปโดยแทบไม่รู้ว่าที่ทำอยู่นั้น ผลผลิตผลลัพธ์ที่ทำได้ครั้งนี้กับครั้งก่อน เหมือนกัน ต่างกันมากน้อยแค่ไหน รู้แค่ว่า ทำครบขั้นตอนถือว่างานเสร็จแล้ว ไม่ว่าผลผลิตผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าปรับให้การงานกลายเป็นขั้นตอนเดิมๆ 5 ปี 10 ปีแทบไม่แตกต่าง ทำให้งานง่ายสำหรับฉันทำเมื่อวาน ต่อมาถึงวันนี้ และยังหวังด้วยว่าพรุ่งนี้ หรือปีหน้า หรือทศวรรษหน้า งานฉันก็จะยังเหมือนเดิม ถ้าการงานที่ปรับแต่งไปนั้น ง่ายสำหรับฉันทั้งวันนี้วันหน้าจริงๆ เครื่องจักรมาแย่งงานได้แน่ ๆ

เครื่องจักรวันนี้ นอกจากจะเก่งทำงานตามขั้นตอนที่สั่งได้ดีกว่าคนแล้ว เครื่องจักรยังปรับวิธีการทำงานใหม่ ตามผลผลิตผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้อีกด้วย เก่งพอที่จะรู้จักปรับวิธีทำงานด้วยตัวเอง โดยวินิจฉัยจากความแตกต่างของผลผลิตผลลัพธ์ที่ได้กับที่เราสั่งให้เครื่องจักรทำ แถมยังสอนงานได้ง่ายขึ้นเรื่อย ๆ แค่เอาตัวอย่างให้ดูเยอะ ๆว่าผลผลิต ผลลัพธ์ที่ว่าดีนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร เครื่องจักรก็รู้แล้วว่าจะปรับเปลี่ยนวิธีทำงานไปอย่างไร ถ้าอยากได้ภาพเซลฟี่สวย ๆวันนี้ กล้องถ่ายภาพทุกกล้อง ทั้งกล้องจริง ๆและในสมาร์ทโฟน ทำหน้าที่นี้แทนเราได้แน่ ๆ ได้ภาพมาแล้ว กล้องยังเช็คต่อไปอีกว่า หน้าตาแบบที่บันทึกภาพไว้นั้น ถ้าจะให้ดูดีดูหล่อดูสวย ต้องปรับภาพหน้าตาของเราอย่างไร กล้องถ่ายเอง ปรับภาพเอง แถมปรับแล้วดูสวยดูหล่อกว่าตัวจริงเสียอีก กล้องซึ่งเป็นเครื่องจักรทำให้ภาพสวยกว่าที่คนถ่ายเองตรง ๆแล้ว กล้องแย่งงานถ่ายภาพสวยภาพหล่อไปแล้ว แต่ถ้าเราไม่ได้ทำแค่เอากล้องส่องแล้วกด เราเลือกมากขึ้น กล้องเซลฟี่ให้ดูสวยดูหล่อได้ แต่เซลฟี่ให้เห็นหน้าตาที่โศกเศร้าได้ดีไม่เท่าคนเลือกถ่ายรูปแน่ ๆ

บทเรียนจากการเรียนรู้ของเครื่องจักร ที่คนเราเอามาเรียนรู้ได้ก็คือ วิธีทำงานต้องมีการปรับปรุงตามบริบทที่เกิดขึ้น อย่าทำให้การงานกลายเป็นเพียงทำตามขั้นตอนไม่ว่าบริบทจะต่างกันอย่างไร ห้างสรรพสินค้าชานเมืองเอาไข่พะโล้มาขายลดราคาเหลือถุงละ 20 บาท คนแย่งกันซื้อจนเหลืออยู่ถุงเดียว คุณยายไร้ที่พึ่งพานับเหรียญบาท เหรียญ 5 ให้ครบ 20 บาทจะไปซื้อ หนุ่มสาวมีตังค์ซื้อเป็ดซื้อไก่กินได้ แต่อยากกินพะโล้ถูกๆ เลยควักแบงค์ 20 ได้ก่อน ถ้าขายด้วยเครื่องจักรคุณยายไม่ได้กินแน่นอน แต่ถ้าคนขายเป็นคนแล้ว หนุ่มสาวต้องจ่ายมากหน่อยซื้อเป็ดซื้อไก่ไปแทน

อีกอย่างหนึ่งที่ต้องเรียนรู้จากเครื่องจักรคือ ผลผลิตและผลลัพธ์เป็นสิ่งที่บอกว่าสมควรปรับเปลี่ยนวิธีทำงานได้หรือยัง ซึ่งตรงนี้แหละที่คนทำให้ตัวเองตกงานกันเอง ด้วยการที่ใส่ใจแต่ขั้นตอนการทำงาน แต่ไม่ใส่ใจผลผลิต ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ได้ทำตามขั้นตอนเดิมๆ ถือว่างานเสร็จ ขอจงทำต่อไปเถอะ ไม่ต้องใส่ใจว่าได้ผลอย่างไร วันหน้าในอนาคตอันใกล้จะเห็นผลเอง คือเห็นว่างานฉันเครื่องจักรทำได้ดีกว่าจริงๆ