ยุคไร้เงินสดอาจทำให้หมดเงินและสูญพันธุ์

ยุคไร้เงินสดอาจทำให้หมดเงินและสูญพันธุ์

ในช่วงปีสองปีมานี้มีข่าวบ่อยครั้งว่าเมืองไทยจะก้าวไปสู่สังคมไร้เงินสด

 ผู้แถลงเรื่องนี้มักแสดงท่าทีประกอบในแนวที่ชี้ว่าเมืองไทยนั้นทันสมัยและจะก้าวหน้ากว่าใครในโลก ผู้แถลงคงเกิดไม่ทัน หรือลืมไปว่าเมืองไทยเคยถูกตราแบบทีเล่นทีจริงแต่แฝงการดูแคลนว่า ทันสมัย แต่ไม่พัฒนา

ถ้ารัฐบาลและภาคการเงิน นำโดย ธปท. พยายามเร่งทำเรื่องนี้ให้เป็นจริง ความทันสมัยแต่ไม่พัฒนาจะก่อให้เกิดปัญหาเกินกว่าจินตนาการของผู้แถลง

ณ วันนี้ ยังไม่มีประเทศใดเดินเข้าสู่สังคมไร้เงินสด สวีเดนอาจเป็นประเทศแรก แต่ก็ยังเดินไปไม่ถึงจุดนั้น สวีเดนมีปัจจัยที่เอื้อให้การใช้เงินสดลดลงเรื่อยๆ จนเหลือน้อยมากเนื่องจากประชากร 10 ล้านคนมีระดับการศึกษาและการพัฒนาสูงยังผลให้ระดับความเหลื่อมล้ำและความฉ้อฉลต่ำมากพร้อมทั้งการใช้ธนาคารเป็นไปอย่างรู้เท่าทันแบบครบ 100% อาจมองได้ว่าปัจจัยเหล่านี้ส่งสวีเดนเข้าสู่สังคมใกล้ไร้เงินสดโดยธรรมชาติ มันมิได้เกิดขึ้นเพราะรัฐบาลพยายามผลักดัน

ผู้อ่านคงทราบแล้วว่าเมื่อต้นสัปดาห์นี้มีข่าวใหญ่ในสหรัฐ เรื่องระบบข้อมูลของธนาคารแคปิตอลวันถูกเจาะ ข้อมูลของผู้ใช้ธนาคารกว่า 100 ล้านคนอาจถูกขโมยไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการดูดเงินออกจากบัญชีจนหมดหรือเพื่อทำอาชญากรรมอื่น ในสหรัฐ ข้อมูล 4 อย่างมีความสำคัญยิ่งคือ ชื่อ วันเกิด ที่อยู่และหมายเลขสวัสดิการสังคมประจำตัว ธนาคารมีข้อมูลเหล่านี้ของผู้ถือบัญชีทุกคน แม้ธนาคารจะย้ำแล้วย้ำอีกแบบเป็นเสียงเดียวกันว่าระบบข้อมูลของตนปลอดภัย แต่การเจาะเข้าไปขโมยข้อมูลยังเกิดขึ้นเป็นประจำ

สำหรับในกรณีที่อ้างถึง สิ่งหนึ่งซึ่งน่าสังเกตคือ ธนาคารเองไม่รู้ว่าระบบข้อมูลของตนถูกเจาะจนกระทั่งผู้ที่ถูกกล่าวหาไปคุยเขื่องว่าตนทำได้แล้วมีผู้ส่งเรื่องไปเตือนธนาคาร ถ้าผู้ถูกกล่าวหาซึ่งต่อมาถูกจับและกำหนดขึ้นศาลในวันที่ 1 สค. นี้ไม่นำการกระทำของตนไปเปิดเผย จะนานอีกเท่าไร หรือเกิดความเสียหายเท่าไรมิอาจคาดเดาได้ก่อนที่ธนาคารจะรู้ตัว

คอลัมน์นี้พูดมานานว่าเทคโนโลยีมีประโยชน์มากแต่มันมีคำสาปติดมาด้วย ถ้าไม่ใช้มันอย่างรู้เท่าทันและบนฐานของคุณธรรมอันแข็งแกร่ง คำสาปของมันจะสร้างความเสียหายร้ายแรงมาก คงจำกันได้ว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทสังคมออนไลน์เฟสบุ๊คถูกปรับโดยรัฐบาลอเมริกันถึง 5 พันล้านดอลลาร์เพราะหละหลวมเรื่องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการ

จากมุมมองของการพัฒนา ปัจจัยในสังคมไทยยังไม่น่าพร้อมที่จะทำให้ก้าวไปสู่สังคมไร้เงินสดโดยธรรมชาติโดยเฉพาะเรื่องระดับของความฉ้อฉลและการใช้ระบบธนาคารอย่างรู้เท่านั้นแบบเต็ม 100% ฉะนั้น รัฐบาลไม่ควรจะผลักดันเพียงเพื่อทำให้ดูว่าเมืองไทยก้าวหน้า หรือร้ายยิ่งกว่านั้นเพื่อเอาใจบริษัทขนาดใหญ่ที่ใช้ระบบดิจิทัลนำสมัยและหวังจะยกระดับการผูกขาดกิจการบางด้านของตน

จากมุมมองของคำสาปของเทคโนโลยี มีเรื่องพื้นฐานที่น่าวิตกกว่าความปลอดภัยของข้อมูลในธนาคารเสียอีก กล่าวคือ เรามักไม่ตระหนักว่าทุกวันนี้เราพึ่งเทคโนโลยีมากจนในหลาย ๆ กรณีในภาวะที่ขาดเทคโนโลยีเราช่วยตัวเองไม่ได้ เช่น ถ้าไร้ไฟฟ้า คนไทยส่วนใหญ่ต้องอดข้าวแน่เพราะใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้ามานานจนลืมวิธีหุงข้าวแบบเดิม กรณีพื้นฐานที่น่าวิตกยิ่งกว่านั้นอาจได้แก่การผลักดันให้ใช้เทคโนโลยีคิดแทนมันสมองของคน เรื่องเบื้องต้นอาจได้แก่การสนับสนุนให้เด็กใช้เครื่องคิดเลขแทนการฝึกบวกลบคูณหารด้วยการใช้สมองของตนเอง

จากมุมมองของหลักวิวัฒนาการที่ว่าอวัยวะส่วนไหนที่ไม่ใช้จะหดหายไป คงพอจินตนาการต่อไปได้ว่าเมื่อคนส่วนใหญ่ไร้สมอง หรือโง่ มนุษยชาติคงสูญพันธุ์ การสูญพันธุ์อาจเกิดจากการฆ่าฟันกันเองเพราะความโง่ทำให้ใช้อาวุธทำลายล้างสูงจำพวกนิวเคลียร์ หรือจากเทคโนโลยีที่สามารถคิดต่อไปเองได้จำพวกปัญญาประดิษฐ์ ประเด็นนี้สะท้อนอุทาหรณ์เก่าแก่จากเรื่องการปลุกผีดิบของนักวิทยาศาสตร์ชื่อ แฟรงเกนสไตน์ ซึ่งถูกผีดิบนั้นทำร้ายพร้อมกับญาติมิตร