จับตา ส.ส.หน้าใหม่ กับการทำหน้าที่ในรัฐสภา

จับตา ส.ส.หน้าใหม่ กับการทำหน้าที่ในรัฐสภา

เมื่อปลายเดือนที่แล้ว นั่งดูทีวีช่องรัฐสภาที่มีการถ่ายทอดกระทู้สดที่เหล่า ส.ส. โดยเฉพาะฝ่ายค้านตั้งคำถาม โดยฝ่ายข้าราชการประจำเป็นผู้ตอบ

เพราะยังไม่มี ครม.ใหม่ หลายคนตั้งคำถามได้ดี มีความเป็นเหตุเป็นผล และอภิปรายได้น่าสนใจ

สนใจ ส.ส.ใหม่ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้ง ว่าการอภิปรายได้เตรียมตัวมามากน้อยแค่ไหน ส่วน สส.เก่า ส่วนใหญ่ก็ไม่ต่างจากเดิมๆ ประเภทน้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง เคยยังไงก็ยังงั้น

กระทู้สดทั้งหลายมีนับร้อยกระทู้ เกือบทั้งหมดเป็นรายละเอียดที่ผู้ตอบกระทู้ก็ไม่สามารถให้รายละเอียดได้นอกจากทราบกระทู้ล่วงหน้าและเตรียมข้อมูลมา จึงน่าคิดว่า หากจะมีการตั้งกระทู้สดในสภาอีก น่าจะมีการสื่อสารกันก่อนว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง แต่สถานการณ์อาจดีขึ้นเมื่อมี ครม.และมีหัวหน้าฝ่ายค้าน เพราะจะมีวิปสามฝ่ายประชุมกันเรื่องกระทู้ ก่อนเสนอเพื่ออภิปรายในสภา ก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร

สนใจ ส.ส.ใหม่จากพรรคอนาคตใหม่ 2- 3 คนที่อภิปรายในกระทู้ได้ดี มีความเป็นเหตุเป็นผล มีบุคคลิกภาพที่ดี ตรงประเด็น ไม่ออกนอกลู่นอกทาง ไม่กระทบกระเทียบเปรียบเปรยใคร ก็เลยสืบค้นว่าพวกเขาเป็นใครมาจากไหนบ้าง เพราะเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เห็นแล้วก็ประทับใจ การศึกษาดี มีประสบการณ์ทำงานพอสมควร น่าสนใจติดตามการทำงานของ สส.คนรุ่นใหม่เหล่านี้

ส่วน ส.ส.หน้าใหม่ทางฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลไม่ค่อยออกมาตั้งกระทู้อะไร อาจเพราะเป็นฝ่ายรัฐบาลก็เลยไม่อยากถามพวกของตนเอง หรืออาจมีเหตุผลอย่างอื่น เลยดูเงียบๆ ยังไม่เห็นว่าจะมีใครที่มีแววน่าสนใจ ก็คงต้องรอดูกันต่อไป

ในฐานะประชาชนคนไทยที่อยากเห็นบรรดา ส.ส.ในสภาทำหน้าที่อย่างผู้ที่พร้อมที่จะทำงานในฐานะผู้แทนประชาชน สิ่งที่คาดหวังคือการเตรียมตัวอย่างดีสำหรับการอภิปรายในเรื่องข้อมูลที่เป็นสาระ อภิปรายอย่างมีตรรกะ มีความเป็นเหตุเป็นผล ชี้ให้เห็นจุดอ่อนจุดแข็งของนโยบาย โครงการรัฐ ความคับข้องใจของประชาชน ความโปร่งใสในโครงการต่างๆ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่ยืนพูดว่าไม่โปร่งใสอย่างไร แต่ต้องมีข้อมูลเชิงประจักษ์ประกอบการอภิปรายอย่างเป็นเหตุเป็นผล

ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่ใช่แค่จ้องจะตอบโต้รายบุคคล แต่ต้องพร้อมที่จะอภิปรายจุดแข็งของโครงการ ที่มาที่ไป ความโปร่งใสตรวจสอบได้ ประโยชน์ที่จะตกกับประชาชนให้สมกับภาษีที่เก็บจากประชาชน เอาไปพัฒนาชาติบ้านเมืองได้ตรงจุดตรงเป้า เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศอย่างไร

ไม่อยากเห็นทั้งสองฝ่ายใช้วาทะกรรม กระแนะกระแหน ส่อเสียด เสียดสีซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหยิบยกเอาเรื่องส่วนตัว เรื่องในบ้าน เรื่องที่ซุบซิบในสังคมมาพูด เพราะพอพูดก็กลายเป็นพาดพิง แล้วก็ประท้วงกันไปมา หมดเวลาอภิปรายก็ไม่ได้ข้อสรุป

เตรียมใจไว้เหมือนกันว่า แต่นี้ต่อไปจะไม่มีกฎหมายอะไรผ่านง่ายๆ สามวาระรวดแบบที่สมัย สนช.ทำได้ เพราะทุกเรื่องทางสังคมมักเป็นเหรียญหลายด้าน ไม่มีทางที่ทุกคนจะเห็นพ้องทั้งสภาให้ผ่านร่างกฎหมายแต่ละฉบับง่ายๆ

ก็ได้แต่หวังว่า ส.ส.คนรุ่นใหม่จะมีอะไรใหม่ๆที่เสนอเข้าสู่สภาที่เป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมืองส่วนเรื่องอะไรๆ ที่ผ่านมาแล้ว ถ้าไม่สามารถแก้ไขได้ภายในช่วงระยะเวลาอันจำกัดก็ควรจะยอมให้ผ่านไปบ้าง เอาเนื้อเอาหนังที่เป็นแก่น มากกว่าหลงอยู่กับเปลือกกับกระพี้ ที่ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับประเทศชาติ