“มี่สโตร์” ห้างไฮเทค...ที่มาแรงที่สุดในเมืองจีน

“มี่สโตร์” ห้างไฮเทค...ที่มาแรงที่สุดในเมืองจีน

ไม่นานมานี้ ผมได้พาคณะนักศึกษา หลักสูตรการลงทุน CSI วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ไปดูงานที่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และเมืองเซินเจิ้น

ทั้งนี้ นักศึกษากลุ่มนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนที่มีอายุระหว่าง 30 - 60 ปี และสนใจการลงทุนในตราสารหนี้ หุ้น และกองทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เรายังได้มีโอกาสไปแวะชมอีกหลายบริษัท เช่น เท็นเซ็น...เจ้าของแอ็พวีแช็ท และเป็นหนึ่งในบริษัทไอทีที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริษัทดีเจไอ...บริษัทโดรนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปิดท้ายรายการเราได้พาคณะไปเยี่ยมและช้อปปิ้งที่ มี่สโตร์ห้างสินค้าไฮเทคที่มาแรงที่สุดในเมืองจีน ซึ่งทั้งคณะประทับใจกับร้านแห่งนี้มาก ผมจึงอยากนำมาเล่าให้คุณผู้อ่านได้อ่านกันดังนี้ครับ

“มี่สโตร์” เป็นร้านค้าขนาดใหญ่ที่น่าจะมีขนาดพอๆกับ “แอปเปิ้ลสโตร์” แต่ความหลากหลายของสินค้ามีอย่างมากมาย เริ่มต้นจากหน้าตาด้านนอกของร้านที่มีความโปร่งและดูไฮเทค ซึ่งหลายคนก็บอกว่า หน้าตาคล้าย “แอปเปิ้ลสโตร์” เลย 

“มี่สโตร์” ห้างไฮเทค...ที่มาแรงที่สุดในเมืองจีน

พอเริ่มต้นเข้ามาด้านใน เราก็จะพบกับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตแบรนด์ “มี่” หรือที่เรียกว่า “เสี่ยวมี่” ในอดีต ที่วางเรียงรายดูละลานตา ซึ่งเป็นสินค้าไฮเทค...ที่ราคาถูกอย่างเหลือเชื่อ

“มี่สโตร์” ห้างไฮเทค...ที่มาแรงที่สุดในเมืองจีน

ส่วนสินค้าอื่นๆ ก็มีกันอย่างมากมาย เริ่มต้นจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่มีความเพรียวบางหน้าตาดี ประเภทที่เรียกว่าได้ใจคนรุ่นใหม่ เริ่มต้นจากราคาประมาณ 18,000 บาท และรันบนระบบปฏิบัติการวินโดว์ ซึ่งรูปร่างแบบนี้มีความคล้ายคลึงกับเครื่องแม็คบุ๊กของแอปเปิ้ลมาก ในขณะที่แม็คบุ๊กราคามากกว่า 40,000 บาท 

“มี่สโตร์” ห้างไฮเทค...ที่มาแรงที่สุดในเมืองจีน

ต่อมาคือเครื่องไมโครเวฟแบรนด์ “มี่” ที่มีราคาเริ่มต้นจากพันห้าร้อยบาท ที่ดูธรรมดาๆแต่ราคาได้ใจมาก จนไปถึงเครื่องกว่าห้าพันบาทที่สามารถควบคุมได้ด้วยโทรศัพท์มือถือ พูดง่ายๆว่า มี่วางแผนกะจะจับลูกค้าที่อยากได้ของถูก จนไปถึงลูกค้าที่อยากได้ของไฮเทค

สินค้าที่ถูกใจของนักช้อปชาวไทยก็คือ “กระเป๋าเดินทาง” โดยราคาเริ่มต้นจากแค่พันบาท ในขณะที่คู่แข่งขันจะขายอยู่ในช่วงสามพันบาททีเดียว ทางด้านการออกแบบก็มีสีสันได้ใจวัยรุ่นมาก ประกอบกับราคาขนาดนี้ คุณผู้อ่านคงคิดออกว่า มันน่าจะขายดีขนาดไหน?

ส่วนสินค้าที่มาแรงที่สุดในเวลานี้ของร้านนี้ก็คือ Mi TV ซึ่งล่าสุดมีข่าวว่า Mi TV สร้างสถิติขายเกิน แสนเครื่องใน 9 นาที ทำยอดขายเกิน 100 ล้านหยวน โดยมีราคาขายออนไลน์ดังนี้ครับ Mi TV 4X 65 นิ้ว ขายในราคา 2,599 หยวน หรือประมาณ 11,700 บาท, Mi TV 4X 55 นิ้ว ขายในราคา 1,799 หยวน หรือประมาณ 8,100 บาท, Mi TV 4A 50 นิ้ว ขายในราคา 1,399 หยวน หรือประมาณ 6,300 บาท และ Mi TV 4A 32 นิ้ว ขายในราคา 699 หยวน หรือประมาณ 3,100 บาท ราคาขนาดนี้...น่าสนไหมครับ?

คณะของเรากะว่าจะใช้เวลาใน “มี่สโตร์” ประมาณซัก 10 – 15 นาทีเท่านั้น แต่พอเอาเข้าจริงๆ เราใช้เวลาไปชั่วโมงกว่า และยังอยากจะอยู่ในสโตร์แห่งนี้ต่อไปอีก...แต่เวลาไม่เหลือแล้ว สิ่งที่ประทับใจพวกเราก็คงหนีไม่พ้น ความไฮเทคของสินค้าต่างๆ ที่มีเทคโนโลยีสูง หน้าตาดี...สังเกตได้จากสินค้าของ มี่ได้รับรางวัลการออกแบบมากมายไม่ว่าจะเป็น “Good Design” “Red Dot Design” เป็นต้น และลงท้ายด้วยหมัดเด็ดที่สุดนั่นคือ ราคาถูกอย่างเหลือเชื่อ”  

ผมยังคิดต่อไปอีกว่า หาก “มี่สโตร์” ขยายกิจการเข้ามาในเมืองไทยจริง สินค้าที่ขายอยู่ในเมืองไทยในเวลานี้...จะมีชะตากรรมเป็นไร? และจะยังมีโอกาสรอดหรือไม่? เมื่อต้องผจญกับ สินค้าไฮเทค...ดีไซน์ดี...ราคาเหลือเชื่อ” จากจีนในครั้งนี้

หาอ่านบทความ และความรู้ด้านการลงทุนของผู้เขียนได้เพิ่มเติมได้ที่ www.doctorwe.com