ธุรกิจครอบครัว เอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ

ธุรกิจครอบครัว เอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ

ในขณะที่รูปแบบการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันที่ให้ความสนใจไปกับธุรกิจสตาร์อัพ ที่มีเป้าหมายทางธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างรวดเร็วโดยใช้องค์ความรู้

และเทคโนโลยีล้ำสมัยเป็นตัวขับเคลื่อนโมเดลการดำเนินธุรกิจที่เรียกว่า เอสเอ็มอี ที่เคยได้รับความนิยมในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา โดยเน้นความเป็นผู้ประกอบการควบคู่กันไปกับการเป็นเจ้าของธุรกิจที่นำเสนอสิ่งใหม่ๆ ออกสู่ตลาดผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เกิดจากแรงบันดาลใจในตัวเอง

จนถอยไปถึงโมเดลธุรกิจแบบธุรกิจครอบครัว ที่เป็นต้นแบบของความเป็นผู้ประกอบการที่สร้างความมั่นคงและการเติบโตให้แก่ธุรกิจผ่านการบริหารจัดการที่ต้องรวมตัวระหว่างความเป็นครอบครัวกับความเป็นธุรกิจควบคู่กันไป

จะเห็นได้ว่า โมเดลธุรกิจทั้ง 3 ยังคงมีอยู่ในปัจจุบันและต่างก็มีส่วนในการสร้างฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างกลมกลืน และมีพัฒนาการไปตามยุคตามสมัยได้เป็นอย่างดี

คำถามที่ตามมาอยู่เสมอก็คือ ความอยากรู้ว่าธุรกิจครอบครัวที่ประสบความสำเร็จมาได้อย่างยาวนานหลายชั่วอายุคน มีปัจจัยใดเป็นองค์ประกอบแห่งความสำเร็จนี้ ในขณะที่อีกหลายๆ ธุรกิจครอบครัวไม่สามารถรักษาความเป็นธุรกิจครอบครัวไปได้อย่างตลอดรอดฝั่ง

องค์ประกอบแห่งความสำเร็จที่นักวิจัยด้านบริหารธุรกิจค้นพบว่ามีส่วนสำคัญที่จะทำให้การสืบทอดธุรกิจระหว่างรุ่นสู่รุ่นของธุรกิจครอบครัว มีดังนี้

1.การให้ความสำคัญกับความเป็นครอบครัว

เป็นที่ทราบกันดีว่าในธุรกิจครอบครัว จะเกิดพื้นที่ที่เป็นวงกลม 3 วงทับซ้อนกัน โดย วงกลมแรกคือเป็นพื้นที่ของความเป็นครอบครัว วงกลมที่ 2 พื้นที่แห่งความเป็นเจ้าของร่วมของธุรกิจ และวงกลมที่ 3 เป็นพื้นที่ของความรับผิดชอบในการขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งแสดงว่า สมาชิกของครอบครัวมีสิทธิและยอมรับในการเลือกอยู่ในพื้นที่ที่มีความเหมาะสมตามความรู้ ความสามารถ และความถนัดของตนเอง

สมาชิกครอบครัวบางคน อาจเลือกที่จะมีความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวเพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจในการเข้าร่วมบริหารธุรกิจ หรือมีส่วนในความเป็นเจ้าของธุรกิจ บางคนอาจเลือกที่จะคงความมีส่วนเป็นเจ้าของธุรกิจโดยไม่เข้ามามีส่วนในการบริหาร หรือ บางคนอาจเลือกที่จะทำหน้าที่บริหารธุรกิจและมีส่วนในการเป็นเจ้าของธุรกิจ

ผู้นำธุรกิจครอบครัวที่จะประสบความสำเร็จจะต้องเป็นผู้ที่ถูกคัดเลือกหรืออาสาสมัครที่จะต้อง่มีความเชื่อมโยงอยู่ในพื้นที่วงกลมทั้ง 3 พร้อมๆ กัน คือ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกครอบครัว เข้าใจการบริหารธุรกิจ และเข้าใจการแบ่งปันความเป็นเจ้าของธุรกิจและผลตอบแทนให้กับสมาชิกในครอบครัวได้อย่างครอบคลุมและยุติธรรม

2.การเข้าใจถึงประโยชน์ของการนำบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมบริหารธุรกิจครอบครัว

ความเข้าใจเดิมๆ ว่า การนำคนนอกหรือหุ้นส่วนที่ไม่ใช่คนในครอบครัวเข้ามาร่วมบริหารธุรกิจของครอบครัว จะทำให้อำนาจในการควบคุมธุรกิจของครอบครัวลดลงไปนั้น ในปัจจุบันได้เปลี่ยนไปแล้ว ธุรกิจครอบครัวที่เติบโตและขยายขอบเขตการทำธุรกิจออกไปได้อย่างรวดเร็ว มักจะต้องใช้คนนอกเข้ามาช่วยบริหารแทบทั้งสิ้น

หุ้นส่วนหรือผู้บริหารที่เป็นคนนอกครอบครัว จะให้มุมมองธุรกิจที่เป็นกลางและเป็นอิสระจากความเป็นครอบครัว และอาจเป็นผู้ที่เข้ามาช่วยสร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวให้มีความแน่นแฟ้นกันมากยิ่งขึ้นก็เป็นได้

3.กระบวนการที่ใช้พัฒนาทายาทที่จะมาเป็นผู้นำในการบริหารธุรกิจครอบครัวแบบมืออาชีพ

ผู้นำธุรกิจในรุ่นปัจจุบัน จะต้องมองเห็นความเหมาะสมของสมาชิกรุ่นต่อไปในการพัฒนาให้มาสืบทอดกิจการได้ โดยเริ่มตั้งแต่การให้โอกาสได้ร่วมมีประสบการณ์กับธุรกิจตั้งแต่วัยเยาว์ การเลือกการศึกษาในสาขาที่เหมาะสมกับบุคคลิกภาพและสอดคล้องกับธุรกิจ การให้โอกาสในการเข้าสังคม การได้ทำในสิ่งที่ชื่นชอบเป็นส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานอดิเรก การเล่นกีฬา หรือความสนใจเฉพาะด้านอื่นๆ

แม้กระทั่ง การเปิดโอกาสให้ไปทำงานกับธุรกิจอื่นระยะหนึ่ง ก่อนที่จะเข้ามารับสืบทอดกิจการของครอบครัวต่อไป

4.แนวคิดในการสร้างพันธมิตร แนวร่วม และเครือข่าย

พันธมิตรธุรกิจ แนวร่วม และเครือข่ายธุรกิจ เป็นอีกปัจจัยความสำเร็จหนึ่งของการบริหารจัดการธุรกิจครอบครัวให้มีความยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น เนื่องจากการแสวงหาพันธมิตรธุรกิจ แนวร่วม และเครือข่ายธุรกิจจะเป็นการทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงทรัพยากร เทคโนโลยีทันสมัยต่างๆ ได้อย่างสะดวก ทำให้การขยายตัวของธุรกิจเป็นไปได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็ว ทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงหากธุรกิจครอบครัวต้องลงทุนในทุกเรื่องด้วยตัวเอง

การมีพันธมิตรธุรกิจและเครือข่ายในระยะยาว ยังถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจครอบครัวอย่างยั่งยืน

5.การบริหารช่วงรอยต่อของการถ่ายโอนอำนาจอย่างเป็นระบบ

การเปลี่ยนตัวผู้บริหารของธุรกิจโดยทั่วไป ย่อมนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงภายในธุรกิจแบบฉับพลันทันทีทันใด แต่ในกรณีของธุรกิจครอบครัวที่ต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์เชิงครอบครัวระหว่างสมาชิกในครอบครัว การจัดระบบเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงและถ่ายทอดอำนาจจากรุ่นสู่รุ่นเป็นไปอย่างช้าๆ ตามลำดับขั้นตอนที่เหมาะสม จะทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่นและได้รับการยอมรับจากทั้งในด้านครอบครัวและในด้านธุรกิจ

จะเห็นได้ว่า การถ่ายทอดธุรกิจครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นที่ทำได้อย่างประสบความสำเร็จและราบรื่น จะนำไปสู่การสร้างอาณาจักรธุรกิจที่แข็งแกร่ง จนสามารถกลายเป็นธุรกิจชั้นนำในอุตสาหกรรม และเป็นตัวอย่างโมเดลธุรกิจที่ยังไม่สูญหายไป หากมีการบริหารจัดการที่เหมาะสม