จดหมายถึงเต้

จดหมายถึงเต้

อย่าเพิ่งออกจากงานประจำหากพอร์ตยังไม่ใหญ่พอ

เต้ครับ เต้เป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกับผม ปัจจุบันอายุ 42 ปี เต้ออกจากงานประจำมาตั้งแต่อายุ 35 เพื่อมาเป็นนักลงทุนเต็มตัว จนถึงวันนี้นับเป็นเวลาเจ็ดปีแล้ว

ผมไม่เคยพบเต้มาก่อน เพิ่งได้รู้จักจากบทความของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร และรู้สึกยินดีด้วยที่เต้ได้กลับไปทำงานประจำด้วยเงินเดือน 'หกหลัก' ซึ่งน่าจะเลี้ยงชีพได้สบายๆ จึงอยากเอาเรื่องราวมาสรุปเป็นข้อคิดไว้เตือนใจนักลงทุนรุ่นใหม่ๆ ในที่นี้ หวังว่าคงไม่ถือสานะครับ

หนึ่ง อย่าเพิ่งออกจากงานประจำหากพอร์ตยังไม่ใหญ่พอ ผมไม่รู้ว่าพอร์ตของเต้เมื่อเจ็ดปีที่แล้วมีขนาดสักเท่าไร แต่อาจารย์นิเวศน์ใช้คำว่า เต้เกษียณตัวเอง 'ด้วยเงินที่ยังไม่เพียงพอ' และ 'ยังไม่ได้มีอิสรภาพทางการเงินจริง'

ดังนั้น ใครที่คิดจะทำแบบเต้ ผมแนะว่าควรจะมีพอร์ตขนาดสัก '200 เท่า' ของรายจ่ายต่อเดือน เช่น ค่าใช้จ่ายต่อเดือนอยู่ที่ '40,000 บาท' ก็ควรจะมีพอร์ตขนาดอย่างน้อยๆ '8 ล้านบาท' เป็นต้น

สอง ระลึกไว้เสมอว่าชีวิตวีไอมีโอกาสน้อยกว่าในด้าน 'ความรัก' อาจารย์นิเวศน์บอกว่า ดูเหมือนว่าเต้ 'อยากจะมีความรักกับผู้หญิงซักคนที่จะเป็นคู่คิด' ซึ่งน่าจะเป็นเพราะการได้เห็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันมีลูก-มีครอบครัว จึงอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เต้กลับไปทำงานประจำเพื่อที่จะได้มีสังคม ได้พบปะผู้คนอีกครั้ง

เรื่องนี้ผมกล้าพูดจากประสบการณ์ของตัวเองว่า 'จริงที่สุด' ตอนที่ผมลาออกจากงานประจำมาเป็นนักลงทุนเต็มตัวนั้น ผมมีคนรักอยู่ แต่สุดท้ายก็เลิกรากันไป ซึ่งทำให้ผมแทบไม่มีโอกาสพบใครใหม่อยู่เป็นเวลานาน

ด้วยเหตุนี้ ชีวิตนักลงทุนที่วันๆ เอาแต่นั่งดูหุ้น แม้จะมี 'อิสระ' แต่อีกด้านหนึ่งก็อาจเป็นการปิดโอกาสตนเองในด้านความรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ

สาม จงหาสังคมอื่นรองรับไว้ วีไอหลายคนหลังออกจากงานประจำ ก็เหลือแต่สังคม 'วีไอ' ด้วยกัน บ้างก็นัดหมายกันเพื่อคุยหุ้น บ้างก็นัดพบปะสังสรรค์ไปตามวาระโอกาส แต่จากประสบการณ์ตรงของผม ถึงจุดหนึ่ง สังคมเหล่านั้นอาจไม่เพียงพอ เพราะเราอาจเริ่มอยากแสวงหา 'ความหมายที่แท้จริง' ของชีวิต เพื่อให้รู้สึกว่าชีวิตนี้มีคุณค่าที่จะก้าวเดินต่อไปมากกว่าเรื่องของเงินทอง

ผมเองก็หันมาทำงานการกุศลและงานด้านประชาธิปไตย ซึ่งทำให้ชีวิตกลับมามีพลังอีกครั้งหลังจากนิ่งเฉยมานาน

โดยสรุป ผมขอให้เต้โชคดีกับชีวิตใหม่ในการกลับมาทำงานประจำ การถูกถ่ายทอดเรื่องราวออกมาผ่านบทความของ ดร.นิเวศน์ ถือเป็นคุณูปการต่อผู้คนไม่ใช่น้อย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะออกจากงานมาเป็นนักลงทุนเต็มตัวดีหรือไม่นั่นเอง