“ชัยชนะ ความสำเร็จ” ฝ่ายรัฐ-ต้าน อยู่ที่ใครเห็นและใช้โอกาส

“ชัยชนะ ความสำเร็จ” ฝ่ายรัฐ-ต้าน อยู่ที่ใครเห็นและใช้โอกาส

ผมติดตามการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงในมหกรรมการจัดการแข่งขันนี้มาตลอด ตั้งแต่ทีมไทยได้เข้าแข่งขัน

 เช่นเดียวกับการติดตามนัดสำคัญทุกนัดของการแข่งกีฬานี้ในประเภททีมชายเมื่อปีกลาย ทำให้ได้เห็นพัฒนาการ แนวความคิดการสร้างทีมและสิ่งที่น่าจะนำมาเป็นบทเรียนหรือคติสำหรับการทำงานให้สำเร็จได้ในทุกเรื่อง รวมไปถึงการบริหารจัดการชีวิตการทำธุรกิจ แม้แต่การบริหารราชการแผ่นดินและการเมืองของประเทศได้

สิ่งหนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนในการแข่งขันระหว่างทีมญี่ปุ่นกับเนเธอร์แลนด์ในรอบ16ทีม ไม่ต้องพูดถึงชั้นเชิงการเล่นหรือความสามารถเฉพาะตัว ทีมญี่ปุ่นเป็นรองทีมชาติยุโรปอย่างมาก แต่การเข้าสู่รอบการแข่งขันในทุกรอบที่ผ่านมาไม่ใช่เป็นเพราะความบังเอิญ ยืนยันได้ว่าความพยายาม ความมีวินัยในการทำงานเป็นทีม ความมั่นใจมานะบากบั่นและที่สำคัญคือ การเคารพกติกา เป็นสูตรสำเร็จก็ว่าได้ การที่ญี่ปุ่นต้องเสียประตูแรกใน 5 นาทีแรกของการแข่งขัน หรือการโดนจุดโทษในการแข่งขันกับเนเธอร์แลนด์อีก 5 นาทีสุดท้ายกระทั่งเกมพลิกผัน ไม่ทำให้ผู้เล่นเสียกำลังใจ ยังคงตั้งใจและไม่โทษซึ่งกันและกัน ไม่โต้เถียงผู้ตัดสินหรือกรรมการว่าลำเอียง กล่าวหาว่า "เขาปล้นชัยชนะ“ แม้ว่าญี่ปุ่นจะไม่สามารถเข้ารอบลึกใน 8 ทีมสุดท้าย ก่อนรอบรองชนะเลิศ และอาจได้เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้แชมเปี้ยนโลกเหมือนหลายปีที่ผ่านมา แต่เชื่อมั่นว่า คนทั่วโลกที่ได้รับชมการแข่งขันของทีมหญิงญี่ปุ่นชุดนี้ จะตระหนักได้ดีว่า สรีระร่างกายที่บอบบาง ความรวดเร็ว สมรรถนะที่ไม่อาจเทียบเท่าทีมจากยุโรปและอเมริกา แต่ปรัชญาความคิดวิธีการในการทำหน้าที่ของผู้เล่นตามแบบแผน ด้วยความมีวินัยถือเป็น ”หัวใจสำคัญ" ที่ทำให้พวกเขาก้าวมาถึงจุดนี้ได้

แน่นอนว่า การจะได้แชมป์โลกอีกครั้งของญี่ปุ่นจากนี้ต่อไปคงไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นเดียวกับความหวังของการทำทีมชาติไทยทั้งในประเภทฟุตบอลหญิงและชาย ที่เราคาดหวังอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางสร้างสรรค์และอาจเห็นการก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าในเอเชียเช่นเดียวกับญี่ปุ่นในเบื้องต้น จะต้องนำเอาแนวทางการพัฒนาทีม รวมทั้งพัฒนาศักยภาพสมรรถนะของผู้เล่นในทีมให้แข็งแกร่งด้วยมาตรฐานเช่นเดียวกับญี่ปุ่นและหากก้าวข้ามไปได้ถึงการเอาลักษณะเด่นของยุโรปอเมริกาในการคัดสรรตัวผู้เล่น การสร้างทีมอย่างจริงจังต่อเนื่อง โดยรัฐต้องเป็นแกนนำสำคัญ ย่อมเชื่อได้ว่าโอกาสของทีมชาติไทยไม่เฉพาะในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลแต่หมายถึงการกีฬาทุกประเภท จะสามารถก้าวพ้นจุดเดิมๆ ได้อีกไกล การจะคาดหวังภาคเอกชนให้ทำทีมกันตามยถากรรม หรือให้โชคช่วยย่อมไม่เพียงพอ เพราะคงไม่มีเอกชนรายใด จะเสียสละอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่อย่างแท้จริงหากเขาไม่ได้รับผลตอบแทนทั้งในแง่ภาพลักษณ์และเรื่องอื่นอย่างเป็นรูปธรรม

หากนำกีฬาฟุตบอลมาเทียบเคียงกับการเมือง ผมเชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ชัยชนะของ "พรรคอนาคตใหม่“ กับ ”ความพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปัตย์“ เกิดจากการมองเห็น ”โอกาส“ ที่แตกต่างกัน ในเวลานั้นมีการสำรวจความคิดเห็นหลายแห่งสะท้อนภาพตรงกันว่า พรรคการเมืองที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับ คสช. อย่างชัดเจน จะได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนอีกฟากฝั่งหนึ่งที่หลงใหลอยู่กับกลิ่นอายแห่งความขัดแย้งหรือร่องรอยของอุดมการณ์ความคิดที่แบ่งแยกคนในสังคม ประกอบกับการสนับสนุนการให้สิทธิในการเลือกตั้งแก่ ”คนรุ่นใหม่“ ที่เปิดกว้างมานับแต่การทำประชามติรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน รวมทั้ง ”ช่องโอกาสที่รัฐธรรมนูญ“ ฉบับใหม่เปิดให้ไว้ในการได้มาซึ่งตัวแทนปวงชนในรูปแบบใหม่ เป็นสิ่งที่คนซึ่งมองเห็นทิศทางความเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างทะลุปรุโปร่งจะเลือกหยิบใช้ประโยชน์จาก ”โอกาสเหล่านี้" ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่บางพรรคการเมืองอาจมองเห็นช่องโอกาสนี้เช่นเดียวกัน แต่ด้วยจุดยืน ระเบียบวิธีการและการตัดสินใจที่ไม่ถูกกับช่วงจังหวะเวลา จึงกลายเป็นผลสะท้อนกลับในทางตรงข้าม

 ถึงกระนั้นก็อยากจะย้ำเน้นว่า "การได้มาซึ่งโอกาส ไม่สำคัญเท่ากับการรักษาโอกาสหรือใช้โอกาสนั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด" บางคนอาจเห็นตัวแบบหรือจดจำหนังสือตำรับตำรามาใช้กับการทำงาน เช่น อ่านปรัชญาลัทธิคอมมิวนิสต์ ( TheCommunist manifesto) แล้วนึกได้ว่าคาร์ล มาร์กซ์ (Karl Marx) ตัวตั้งตัวตีคนสำคัญของลัทธินี้ ขัดสนเงินทองแต่มีปัญญาความคิด จะขับเคลื่อนความเชื่ออุดมการณ์ของตัวเองได้ ต้องมีทุนรอน ต้องอาศัยเศรษฐี หรือคนมีเส้นสาย บังเอิญรสนิยมของเฟรดริก เองเกิล (Engels) ชาวอังกฤษที่มาร์กซ์คบหาด้วยนั้น ร่ำรวยเป็นที่รู้จักดีในสังคมแต่มีรสนิยมสมัยใหม่ ไม่ถือเนื้อถือตัว เห็นอกเห็นใจคนด้อยโอกาส อยู่กินฉันท์สามีภรรยากับหญิงผู้ใช้แรงงานในโรงงานของเขาเองโดยไม่รังเกียจ มาร์กซ์ กับ เองเกล เป็นคู่หูผลักดันความคิดปรัชญาคอมมิวนิสต์แพร่กระจายไปได้ทั่วโลก หลายที่เคยสงสัยว่า ทำไมมาร์กซ์เป็นคนเยอรมันแต่เมื่อเขาเสียชีวิต สถานที่เก็บร่างของเขากลับอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ย่อมเข้าใจได้ดีว่าระบอบลัทธิใด จะลดความเหลื่อมล้ำได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างไม่ต้องมีต้นทุนนั้นไม่มีอยู่จริง ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของคนที่แตกต่างซึ่งสถานะ แต่รสนิยมละม้ายคล้ายคลึงกันจึงทำงานใหญ่ได้สำเร็จ

การเมืองก็ไม่ต่างกับเกมการแข่งขัน ที่จะต้องฉกฉวยแสวงหาโอกาส และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง นักการเมืองอาจอ่านตำราอีกเล่มที่หากยังไม่มีใครแนะให้อ่าน ก็อาจหาอ่านได้ตามเว้ปไซต์ต่างๆ คือหนังสือว่าด้วยการปกครองของ แมคคีย์อาเวลลี (The Prince by Machiavelli) เพราะหนังสือที่ว่าให้คติกับนักปกครองว่า "บางทีเราอาจต้องร่วมมือกับโจรเพื่อใช้โจรในการเอาชนะโจรด้วยกัน“ จึงไม่อยากให้เราพร่ำเพ้อเรียกหา นักการเมืองให้เป็นผู้มีคุณธรรมล้ำเลิศ รัฐธรรมนูญกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่ได้ในการคัดกรอง กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม เราสร้างมาตรฐานอย่างสูงยิ่งได้ในขั้นหนึ่ง แต่เกมการแข่งขัน ดังได้เรียนแล้วว่า ”โอกาส และการใช้โอกาสให้เกิดประโยชน์สูงสุดเป็นสิ่งที่คนเล่นกับคนดูอาจมองต่างกัน ถ้าเราใช้หลักธรรมทั้งการแผ่เมตตาและให้ทานให้อภัยได้จริงแล้ว ความเครียดในการติดตามการเมืองจะเบาบางลงสิ่งที่เราอาจขอพรให้เกิดขึ้นได้ คือ ช่วยกันขอให้ นักการเมืองทั้งหลายมีความเกรงกลัวและละอายต่อการทำบาป หรือ การมี หิริโอตัปปะ ตามพระพุทธวจนะได้ จะเป็นสิ่งที่ประเสริฐสูงสุด มีประสิทธิภาพมากที่สุด มากกว่าการออกกฎหมายไปบังคับหรือลงโทษคนเหล่านี้อีกหลายร้อยฉบับ