“ทุน(นัก)การเมือง” ปมโผ ครม.ป่วน

นับย้อนหลัง ก็สร้างสถิติมาแล้วถึง 13 ครั้ง และยังไม่แน่ว่าครั้งหน้า จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ ในเมื่อปัญหาเดิมๆ อันเป็นต้นเหตุของการยึดอำนาจก็ยังคงอยู่

โดยเฉพาะ วิธีคิดของนักการเมือง โดยเฉพาะ “นักเลือกตั้งอาชีพ”จำนวนไม่น้อย ที่ยังวนเวียนอยู่ในยุทธจักรก็แทบไม่เปลี่ยน เพราะเมื่อไหร่ที่มีโอกาสได้ “เสียบขั้วรัฐบาล” การส่งตัวแทนเข้ามาบริหารทรัพยากรของประเทศ ก็ยังยึดระบบอุปถัมภ์ ตอบแทน “ผู้มีอุปการคุณ” หรือ “กลุ่มทุน”นักการเมือง โดยไม่สนใจเบื้องลึกเบื้องหลัง ที่สังคมตั้งคำถาม ถึงมาตรฐานจริยธรรมคุณธรรม

การจัดตั้งรัฐบาลและวางตัวว่าที่รัฐมนตรีใน ครม.นายกฯลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอบนี้ มีกระแสข่าวว่าหลายรายชื่อที่ปรากฏในโผ ครม. “ถูกตีกลับ” จากปัญหาเรื่อง“คุณสมบัติ” ที่มีคดีความตามประวัติ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็น“ตำหนิ” เพราะคดีติดตัวยังไม่เคลียร์ ซึ่งหัวหน้ารัฐบาลที่เป็นผู้ตัดสินใจในที่สุด อาจถูกตั้งคำถามไม่จบไม่สิ้น

ปฏิเสธได้ยากว่า “กลุ่มทุนการเมือง” มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการกำหนดบุคคลที่จะมานั่งเก้าอี้ “รัฐมนตรี” ในครั้งนี้เช่นกัน แต่จะด้วยผลประโยชน์ประเทศส่วนรวมหรือผสมส่วนตัว ก็อาจจะต้องดูกันยาว ๆ

รอบนี้ก็เช่นกัน มีทั้ง “นายทุนระดับชาติ” และ “นายทุนระดับท้องถิ่น” โดยเฉพาะ “ทุนใหญ่” มหาเศรษฐีหน้าใหม่ติดอันดับโลก ที่นักการเมืองในหลายพรรคยอมรับว่าเป็นผู้มีอุปการคุณเกือบทั้งวงการ และว่ากันว่า เป็นเหตุให้เกิดปัญหาแย่งชิงเก้าอี้ “กระทรวงเกรดเอ” จนส่งผลให้โผ ครม.เที่ยวนี้ ป่วนหนัก

งานนี้ นายกฯลุงตู่ กำลังเผชิญกับอิทธิฤทธิ์ นักธุรกิจที่พยายามเข้ามายุ่งการเมือง และนักการเมืองที่แปรสภาพไปเป็นนักธุรกิจ ขาใหญ่ทั้งนั้น

นี่จึงเป็น “โจทย์หิน”สำหรับนายกฯ ลุงตู่ ที่จะได้รู้ว่า การบริหารจัดการ “กลุ่มทุน”นักการเมือง ภายใต้ระบบอุปถัมภ์ในการเมืองไทย โดยเฉพาะจังหวะ “ถอนทุน” มันไม่ง่าย 

ความกล้าหาญของนายกฯ ลุงตู่ กำลังเป็นสิ่งถูกคาดหวังจากสังคม ว่าที่สุดแล้ว ยี่ห้อ “หัวหน้า คสช.” อย่าง นายกฯ ลุงตู่ จะกล้าปฏิวัติ หรือถูกกลืนหายไปในวังวนทุนการเมือง