ขุมทรัพย์ลงทุนกับ Megatrends โลก (มีอะไรใหม่?)

ขุมทรัพย์ลงทุนกับ Megatrends โลก (มีอะไรใหม่?)

องค์กร และสถาบันที่ปรึกษาระดับสากล ล้วนประกาศ Megatrends เพื่อส่งสัญญาณ และสร้างความตระหนักรู้ ให้เราใช้ปรับตัว

รวมทั้งวางแผนอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความคิด วิถีชีวิต ธุรกิจ ตลอดจนการลงทุน

Megatrends หลายเรื่องถูกหยิบยกขึ้นมาซ้ำๆ ย้ำด้วยข้อเท็จจริงทางสถิติหรือปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และสนับสนุนว่าแนวโน้มเหล่านี้จะดำเนินต่อไปได้ในอนาคต เช่น การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรด้วยจำนวนคงที่หรือลดลงแล้วเคลื่อนสู่สังคมสูงอายุ นวัตกรรมการแพทย์สู่การดูแลสุขภาพเพื่อชีวิตที่แข็งแรงและยืนยาว การหลอมรวมความก้าวหน้าและความชาญฉลาดของเทคโนโลยีเข้ากับบทบาทดิจิทัลเพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ

ในฐานะนักลงทุน เราเคยคุ้นกับ Theme การลงทุนต่างๆ มาบ้าง เช่น หากเริ่มขึ้นเมื่อ 5 ปี ก่อน กลยุทธ์บน “เศรษฐกิจยุคใหม่กับความโดดเด่นของเอเชีย” หรือในช่วง 2 ปี หลัง กับการจัดและปรับพอร์ตบน “การเปลี่ยนแปลงขั้วการเมืองและเศรษฐกิจโลกกับความขัดแย้งจนเป็นตำนานระหว่างสหรัฐฯ และจีน” เป็นต้น แม้ Theme เหล่านี้ จะอิงกับ Megatrends ที่เชื่อได้ว่าจะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องแม้จะเปลี่ยนรูปแบบบ้าง เป็นอีกกว่า 10 ปี แต่นักลงทุนหลายกลุ่มบอกว่าทั้ง 2 กลยุทธ์ที่ว่านี้ ดูจะอ่อนไหวต่อวัฎจักรและนโยบายระยะสั้นเหลือเกิน

แล้ว…มีอะไรใหม่? หรือการลงทุนบนธุรกิจที่เกาะติด Megatrends แบบไหน จะช่วยลดความอ่อนไหวนี้ได้บ้าง ลองมาดูเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวันที่ค่อยๆ เปลี่ยนไป เช่น คนยุคปัจจุบันมีความเป็นตัวเองสูงขึ้น รูปแบบครอบครัวเปลี่ยนไป โลกการทำงานไม่ใช่ออฟฟิส เกิดเมืองใหม่ การเดินทางและการจับจ่ายใช้สอยแบบใหม่ อยู่ที่ไหนก็สะดวก ความนิยมต่อการใช้ชีวิตหวนคืนธรรมชาติ ความใส่ใจต่อที่มาของอาหารและวัตถุดิบ ตลอดจนการหลีกเลี่ยงความฟุ่มเฟือยในการใช้ทรัพยากร เหล่านี้ล้วนเปลี่ยนวิถีทุกมิติ ทั้งชีวิตส่วนตัว สังคม การทำงาน และโลกธุรกิจ ซึ่งล้วนจะพัฒนาขึ้นเป็น Megatrends!

ฉบับนี้ ขอหยิบยก 1 ตัวอย่างที่หลายคนมองข้าม แต่กลับเป็นธุรกิจและการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนงอกเงยได้อย่างน่าสนใจ จากโครงสร้างประชากรและแนวความคิดที่เปลี่ยนไป คนในหลายประเทศมีรายได้ดีขึ้น มีโลกส่วนตัวสูงขึ้น เพราะสามารถอยู่คนเดียวได้อย่างสะดวกสบาย นำมาซึ่งปรากฏการณ์ “สัตว์เลี้ยงแสนรัก” คือการอุปการะสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นสุนัขแสนรู้ แมวขี้อ้อน หรือนกน้อยช่างเจรจา เริ่มจากการรับเลี้ยงแก้เหงา นานวันเข้าเกิดเป็นความผูกพัน ทำให้สัตว์เลี้ยงเป็นเสมือนส่วนหนึ่งของชีวิตและสมาชิกของครอบครัว ที่ผู้เลี้ยงพร้อมใช้จ่ายให้อย่างมีความสุข ไม่ว่าค่าใช้จ่ายนั้นๆ คืออะไร และราคาจะพุ่งขึ้นไปเท่าไหร่ การเติบโตและศักยภาพในธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงนี้ เห็นได้ชัดจากสภาพธุรกิจที่เน้นคุณภาพ ความแตกต่าง โดยไม่แข่งขันราคา

อุตสาหกรรมเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเป็นที่นิยมมากในสหรัฐฯ และจีน เกิดเป็นการสร้างกลุ่มก้อนทางธุรกิจและการตลาดแบบใหม่ๆ ทั้งในการคิดค้นผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของเจ้าของ เช่น การนำเข้าและจำหน่ายอาหารสัตว์ระดับพรีเมี่ยม สแน็ก เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของเล่น รถเข็น บริการสำหรับสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ คอนโดมิเนียม โรงแรม โรงพยาบาล คลินิกเฉพาะทาง ศูนย์ดูแลสัตว์เลี้ยงสูงวัย เวชภัณฑ์ยา สถานที่ให้ความรู้เรื่องสัตว์เลี้ยง การประกันสุขภาพ ตลอดจนบริการตัดขนทำความสะอาด โดย ในปี 2017 การใช้จ่ายในธุรกิจสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯ มีมูลค่าสูงถึง 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยกว่า 5.3% ต่อปี นับตั้งแต่ปี 2010 เลยทีเดียว

 โดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนอาจคุ้นชินกับการลงทุนใน Theme หนึ่งๆ โดยตั้งใจจะลงทุนระยะยาว เกาะกระแสความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและนวัตกรรมไปเรื่อยๆ เน้นหาผู้เชี่ยวชาญการลงทุนให้ช่วยเลือกสรรหุ้นของผู้นำในธุรกิจเฉพาะด้านต่างๆ อย่างไรก็ตาม ในบางช่วงเวลาต้องยอมรับและเข้าใจว่าธุรกิจเหล่านี้จะไม่สามารถสร้างผลประกอบการที่ดีได้ในทุกไตรมาส มีอุปสรรคในบางจังหวะของวงจรธุรกิจ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายระยะสั้นๆ อาจส่งผลดีมากหรือแย่มากต่อธุรกิจนั้นๆ หรือในช่วงเวลาหลังจากที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมากมายอาจผลักดันราคาหุ้นให้ขึ้นไปเต็มเพดาน ทำให้การลงทุนเพียงเฉพาะ Theme หนึ่งๆ นับเป็นการกระจุกตัว หรือพลาดโอกาสแสวงหา สับเปลี่ยนสู่สิ่งใหม่ๆ

คงจะดีไม่น้อย ถ้ามีการรวมตัวผู้เชี่ยวชาญของ Megatrends โลก คอยวิเคราะห์และปรับเปลี่ยนทางเลือกการลงทุน โดยไม่ยึดติดกับการลงทุนใน Theme หนึ่งๆ