“เป็ดง่อย” ทั้งสองขั้ว

“เป็ดง่อย” ทั้งสองขั้ว

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปรากฏการณ์จัดสรรเก้าอี้ รมต.ในห้วงเดือนเศษที่ผ่านมา ส่งผลต่อศรัทธาของรัฐบาล “ลุงตู่ 2” ไม่น้อย

ถึงแม้ภายใน เพื่อนพ้องน้องพี่ คสช.จะช่วยกันจัดการทุกปัญหาให้ แต่พอจบศึกนอก ศึกในก็“วน”กลับมาใหม่ เหมือนงูกินหาง

จะว่าไปแล้ว ก่อนหน้านี้ พี่ใหญ่ คสช.” ก็เหมือนจะเคลียร์ได้ราบคาบ แต่กลับกลายเป็นว่า จบเรื่องโควตา แต่ไม่จบ เรื่องตัวคน” 

มิหนำซ้ำนายกฯ ลุงตู่ ที่อยู่ระหว่างตรวจประวัติ คัดเลือกว่าที่ รมต. โดยเรียกข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อตรวจสอบคุณภาพ กลับพบว่าหลายรายมีความสุ่มเสี่ยง จนต้องใช้บริการ “พี่ใหญ่” ไปเคลียร์เรื่อง “ตัวคน” กันอีกรอบ 

กระสุนไปตกที่พรรคร่วมรัฐบาล บางรายถูกตีกลับ ตกเก้าอี้ตั้งแต่ “โผแรก” เพราะพัวพันคดีอาชญากรรมสำคัญ บางรายมีชื่อในแบ็คลิสต์ความมั่นคงทำให้ ผู้นำพรรคตัวจริง ต้องยอมถอย สั่งให้หา“ตัวแทน”มาเสียบ ขณะที่บางรายถูกตั้งแง่ เคยใช้อำนาจการเมืองหาผลประโยชน์จนฉาวไปนอกกระทรวง งานนี้นายกฯลุงตู่ ยืมมือ “ฝ่ายกฎหมาย” งัดข้อมูลเชิงลึก ชนิดรุกไล่ให้จำนนด้วยหลักฐาน

 ขณะที่บางพรรคแม้ตัวบุคคล ไม่ติดกลุ่มยี้ แต่ก็มีคำถามจากนายกฯลุงตู่ เรื่อง “คุณภาพ” ที่เห็นว่า วางคนไม่เหมาะกับงาน จึงต้องขอมีเงื่อนไขในการสลับสับเปลี่ยนตัว หลังผ่านการทดลองงานสักระยะ 

  หลังจากลงมาเคลียร์ด้วยตัวเองเมื่อวาน นายกฯลุงตู่ อาจจะคิดหนักในการรับเก้าอี้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ยังไม่ทันเริ่มต้น ก็ต้องผจญภัย โควตา“ใต้-อีสาน”

 หันมาดูขั้วฝ่ายค้าน 2 พรรคใหญ่ ก็ปัญหาก็ไม่น้อยไปกว่ากัน  “เพื่อไทย” ที่ยังกินบุญเก่า แต่กระแสนายใหญ่” ขาลง ก็ซบเซาไปมาก การตกอยู่ในสภาพไร้หัว ทำให้หางที่เหลือ จัดกระบวนได้ไม่เข้มแข็ง งานหนักตกอยู่ที่ “พ่อบ้าน” อย่างภูมิธรรม เวชยชัย ที่เป็นทั้ง ผอ.ยันภารโรง 

 ส่วน “คุณหญิงหน่อย” ผู้นำเฉพาะกิจ ก็ยังไม่ใช่แกนนำที่จะยึดโยงความเป็นเอกภาพในพรรคได้ แม้ปรารถนาจะนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค 

ยิ่งรอบนี้บรรดาแกนนำ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อ กลายเป็น ส.ส.สอบตก มิหนำซ้ำมือทำงานอีกส่วนที่แยกวง ก็ไปแบบกูไม่กลับ เตรียมขยับไปทำพรรคใหม่ 

ที่สำคัญ งาน“ฝ่ายค้าน” ไม่ใช่งานที่เพื่อไทยถนัด 

น้ำหนักกลับเทไปที่ พรรคอนาคตใหม่ แต่ผู้นำกระแสแรงอย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แม้จะออกไปเดินสายสร้างเครือข่ายพลังประชาชนนอกสภา เพื่อสั่นคลอนอำนาจรัฐบาล แต่ก็เสี่ยงที่จะถูกแช่แข็งทางการเมือง ด้วยหลายคดี

เวลานี้ ปัญหาร่วมของแทบทุกพรรค ที่มีบทบาทสำคัญทั้งใน 2 ขั้วการเมือง คือ การขาด ผู้นำตัวจริง 

การบริหารแต่ละพรรคทุกวันนี้ ล้วนบัญชาการมาจาก ผู้มีบารมีนอกพรรค มีอำนาจเหนือหัวหน้าพรรคในนาม แทบทั้งสิ้น แต่ละขั้วจึงมีสภาพไม่ต่างกับเป็ดง่อย