ซ้ายไทยไม่เปลี่ยน แพ้แล้ว..ก็แพ้อีก?

ซ้ายไทยไม่เปลี่ยน  แพ้แล้ว..ก็แพ้อีก?

ปรากฏการณ์ “ช่อระเบิด” ส่งผลสะเทือนไปทั้งปีกขวา และปีกซ้าย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ในอดีต (วัย 60-70 ปี) แห่กันโพสต์ปลุกผี 6 ตุลา สนั่นโซเชียล

นักวิชาการคนหนึ่งเขียนบทความเกี่ยวกับ 6 ตุลา และตอนหนึ่งเขาสรุปว่า “คนรุ่นผมกลายเป็นเสมือนผู้แพ้ เป็นดังทหารผ่านศึกที่รบแพ้สงครามในวันที่ 6 ตุลา และแพ้อีกครั้งจากการสิ้นสุดของสงครามปฏิวัติ”

คนรุ่นนี้ ไม่เคยสรุปบทเรียนอย่างตรงไปตรงมา จึงพ่ายแล้วพ่ายอีก เมื่อเดือนพฤษภาคม 2553 “คนรุ่น 6 ตุลา” จำนวนไม่น้อยที่ฝันเห็นท้องฟ้าสีทอง และตะโกนก้องว่า “ประชาชนตื่นแล้ว”

สุดท้าย พวกเขาก็ถูกล้อมปราบอีกหน โดยไม่ยอมรับความผิดพลาดอันเกิดจากการจัดตั้ง “กองกำลังใต้ดิน” ของแดงฮาร์ดคอร์บางกลุ่ม ที่จุดชนวนให้เกิดสงครามกลางเมือง และสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายถืออำนาจ

นักวิชาการรุ่น 6 ตุลา ตั้งคำถามว่า เหตุใดสงครามปฏิวัติในชนบท จึงจบลงอย่างรวดเร็ว เพราะหลังรัฐประหาร 2519 มีคนเข้าป่ามากมาย เมื่อเกิดรัฐประหาร 2520 สถานการณ์เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว

ปลายปี 2521 ทหารเวียดนามนับแสนบุกกัมพูชา โค่นล้มรัฐบาลเขมรแดง พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) เคว้งคว้าง ไม่รู้จะไปทางไหน จีนหรือเวียดนาม

รัฐบาลเกรียงศักดิ์ เดินเกมทูตใต้ดิน จับมือจีนกดดันเวียดนาม เพราะหวั่นว่า กองทัพเวียดนามจะยึดอีสานตามแผนการยุทธศาสตร์ตัวแอล

จนถึงรัฐบาลเปรม ที่เปิดทางให้จีนใช้ไทยเป็นฐานสนับสนุนกองกำลังเขมรแดง ,เขมรสีหนุ และเขมรเสรี(ซอนเซน) ต้านการรุกรานของเวียดนาม

ดังนั้น นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี เซียนลุง จึงได้แสดงความไว้อาลัยต่อการอสัญกรรมของ พล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ และสดุดีประธานองคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ว่าเป็นผู้นำชาติอาเซียนต่อต้านการยึดครองกัมพูชาของเวียดนาม

ความอลหม่านพลันบังเกิดภายในขบวนปฏิวัติไทย เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนลอยแพ พคท. และพรรคประชาชนปฏิวัติลาว พันธมิตรเวียดนาม ได้ขับไสไล่ส่งผู้ปฏิบัติงานของ พคท.ออกจากแผ่นดินลาว เหมือนไม่ใช่พรรคพี่น้อง

จากปี 2519 ถึงปี 2525 ช่วงเวลาที่ไม่ยาวนานนัก ปัญญาชนไทยผู้หวังลบรอยแค้นให้เพื่อนเดือนตุลา ต้องหอบความผิดหวังจากป่าเขาคืนสู่นาคร

ความเคียดแค้นชิงชังยังฝังลึก และรอคอยการแก้แค้น ดังจะเห็นได้จากช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ คนรุ่น 6 ตุลาบางกลุ่ม ได้จัดงานรำลึกเดือนตุลาอย่างยิ่งใหญ่ มีการแสดงละคร ที่กลายเป็นปมปัญหา ทำให้นักกิจกรรมรุ่นใหม่ต้องหนีตายไปอยู่เมืองลาว

ด้วยความเชื่อผิดๆ คิดว่า “พรรคพี่น้อง” ยังมีอยู่จริง จึงทำให้ “ซ้ายไทย” ทำสงครามปลุกระดมข้ามโขงผ่านช่องยูทูบ และมาถึงวันที่สุรชัย แซ่ด่าน และชูชีพ ชีวสุทธิ์ หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ก็เหมือนฉายหนังเก่า ตอนที่สมาชิก พคท.ถูกไล่ล่าหนีตายข้ามโขง

วันนี้ คนรุ่นนี้ คนรุ่น 6 ตุลา ต้องสรุปบทเรียนอย่างจริงจัง ไม่เข้าข้างตัวเอง ไม่ยอมแตะต้องแผลเก่า หากต้องการเห็นประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน