เงินซื้อตัวได้ แต่ซื้อใจไม่ได้

เงินซื้อตัวได้ แต่ซื้อใจไม่ได้

ถ้าคิดว่าจ่ายเงินเดือนสูงๆ ในยามที่การงานหายากแล้วจะทำให้พนักงานติดอกติดใจองค์กร ไม่คิดจะหนีไปไหน

วันนี้ต้องคิดกันใหม่แล้ว เพราะได้ตัวมาทำงานให้นั้น ไม่ได้หมายความว่าจะได้ใจตามมาด้วย ขยันทำงานทั้งวันแต่ใจไม่ได้อยู่ที่งาน แทนที่งานจะเสร็จใน 2 - 3 วัน ก็ยืดเวลาไปเรื่อยๆ ทำงานด้วยใจวันนี้วันพรุ่งนี้ก็เสร็จแล้ว ผลงานที่ได้ต่างจากทำไปเพื่อเงินมากมายนัก ถ้าเอาเงินเดือนเอาสารพัดสิทธิประโยชน์เป็นจุดตั้งต้นในการทำให้เกิดความผูกพัน คือหวังว่าเงินมากจะทำให้แต่ละคนทุ่มเททำงานกันอย่างสุดฝีมือและอยู่กับเราต่อไปเรื่อยๆ เรื่องจริงคือ ทุ่มไปเท่าใดก็ไม่พอ วันใดที่มีที่ไหนทุ่มมากกว่า วันนั้นคนที่เราใช้เงินเดือนแพงๆ สร้างความผูกพันเอาไว้นั้น ย้ายไปที่นั่นแทนแน่ ๆ

ถ้าอยากได้คนทำงานที่มาทั้งตัวทั้งใจนั้น ต้องลงมากกว่าเงินทอง โดยเฉพาะตัวผู้บริหารเองนั้นต้องลงแรงเองในงานนี้ เพราะรู้กันมานานแล้วว่าคนเก่งๆ อยู่ที่ไหนได้นานๆ นั้น เพราะความผูกพันกับคนที่เป็นผู้บริหาร ขุนพลเก่งๆ อยู่กับแม่ทัพที่เขาศรัทธา ไม่ได้อยู่เพราะทรัพย์สินเงินตรา

 การสร้างความผูกพันให้ได้ใจคนทำงานนั้น ผู้บริหารต้องมีความชัดเจนว่ากำลังนำองค์กรไปทางไหน จะไปกันถึงไหน โดยต้องเป็นปลายทางที่คนที่ร่วมงานด้วยชื่นชอบ ยินดีที่จะร่วมทางกันไปด้วยกันด้วย ไม่ใช่แค่ทราบ เสร็จแล้วให้ผู้บริหารไปทำเอง คือใครคิด ใครก็ทำกันไปกันเอง ถ้าเป็นหัวหน้าใหญ่แล้วไม่รู้ว่าปลายทางที่เป็นเส้นชัยนั้นอยู่ที่ไหนแน่ วันไหนพอใจจะย้ายเส้นชัยไปไหน ก็ย้ายตามชอบใจ รับรองได้ว่าไม่มีคนเก่งคนไหนที่อยากทำงานกับผู้บริหารที่ไม่คงเส้นคงวา ที่จะมีนั้นคงเป็นแค่คนสอพลอที่การงานไม่ได้เรื่องเท่านั้น

ผู้บริหารที่ทำงานอย่างโปร่งใส และแสดงความชื่นชมคนที่ทำงานสำเร็จในทุกโอกาส จะได้รับศรัทธา และจูงใจให้อยู่ทำงานด้วยมากกว่าผู้บริหารที่เป็นนักตำหนิตัวฉกาจ ดังนั้นด่าเก่งไม่ใช่เจ้านายที่ดี ชมมากขึ้นสักหน่อย พร้อมๆ กับที่จะทำอะไรก็ทำอย่างไม่มีลับลมคมใน ทุกอย่างที่ทำอย่าให้เป็นลับลวงพลางไปหมด จะได้คนเก่งคนดีมาอยู่ช่วยงานกันนานขึ้น นายใหญ่ที่อำพรางไปทุกเรื่องที่ทำ จะได้ลูกน้องแบบเดียวกัน คือต่อหน้าอย่างหนึ่ง ลับหลังเป็นอีกอย่างหนึ่ง

ถ้าอยากได้ใจใครสักคน ต้องทำให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของผู้บริหาร ได้ดิบได้ดีอะไรมาก็แบ่งปันไปเป็นความสำเร็จของเขาบ้าง ใครๆ ต่างก็รู้สึกดีทั้งสิ้น เมื่อเขาเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้น ได้ดิบได้ดีอะไรก็ควรที่จะแบ่งปันให้เป็นบุคลากรไปบ้าง ไม่ใช่ว่าทำเป็นเรื่องของแก ได้ดิบได้ดีเป็นเรื่องของฉัน

คนเราจะทำงานด้วยใจ หากงานนั้นเขามีโอกาสได้ร่วมในการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ บ้าง เรื่องไหนที่พอจะยกให้เขาคิดเขาตัดสินใจได้ ก็ยกให้ไปเลย อย่ากักทุกอย่างไว้ตัดสินใจที่ตัวฉันเท่านั้น การแบ่งปันอำนาจในการตัดสินใจช่วยเพิ่มความมั่นใจในการทำงานของบุคลากร พร้อมๆ กับสร้างความศรัทธาต่อผู้บริหารให้มีมากขึ้นด้วย แค่เขาคิดผู้บริหารมั่นใจในตัวเขา แค่นี้ก็ได้ใจมาเต็ม ๆแล้ว

ถ้าอยากได้ใจเขา ต้องให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขามีศักยภาพ คือเขาทำท่าทางว่าจะเก่งเรื่องไหน และดูต่อไปว่าการงานใดของเราที่จะเป็นช่องทางที่จะเปิดให้เขาได้แสดงฝีมือกันบ้าง คนนั่นแสดงฝีมือเรื่องนี้ คนนี้แสดงฝีมือเรื่องนั่น ถ้าเป็นผู้บริหารที่เก่งจริงต้องดูออกว่าลูกน้องคนไหน ควรให้ไปเอาดีในเรื่องไหน ถ้าดูเองไม่ออกว่าใครมีศักยภาพในด้านไหน ก็ลองถามไถ่คนร่วมงานดูว่า คนไหนน่าจะให้ทำอะไรกันดี ถ้าไม่ถึงขั้นตัวอิจฉายุค 4.0 คนร่วมงานคงบอกได้ว่าใครเก่งใครมีศักยภาพอะไร

ที่สำคัญที่สุดคือ ผู้บริหารที่ต้องคงเส้นคงวากับคุณค่าของคน คือคนทุกคนมีค่าสำหรับผู้บริหารอย่างเสมอต้นเสมอปลายไม่ใช่มีคุณค่าแค่เฉพาะวันที่นายใหญ่ยังไม่ได้เป็นใหญ่ วันไหนเป็นใหญ่ดั่งใจ วันนั้นใครต่อใครด้อยคุณค่ากันไปหมด