เอาธุรกิจใต้ดินมาอยู่บนดิน

เอาธุรกิจใต้ดินมาอยู่บนดิน

ได้ตั้งคำถามพรรคการเมืองทั้งหลายที่มีนโยบายลดแลกแจกแถมหลากหลายว่า แล้วจะหาเงินมาจากไหน เพราะถ้าหาเงินมาแจกไม่ได้ ก็คงหนีไม่พ้นการกู้เงิน

 เท่ากับสร้างหนี้ เพราะเอาเงินในอนาคตมาใช้ สร้างภาระให้คนรุ่นหลัง

สมัยเรียนหนังสือ ใช้เวลาช่วงปิดเทอมใหญ่ภาคฤดูร้อน 3 เดือนไปทำงานที่เมืองรีโน(Reno) ทางตอนเหนือของรัฐเนวาด้า(Nevada) ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวและเป็นเมืองคาสิโน(Casino)ให้ประชาชนทั่วประเทศมาเล่นพนันได้อย่างเสรี ตั้งแต่สล้อตแมชชีน ไพ่ คีโน บักคาเร่ต์ รวมถึงบริการโสเภณี ที่ทุกอย่างถูกกฎหมายที่รัฐนี้ ทำอยู่ 4 - 5 ปี เก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำ เฉลี่ยปีละ 3,000 เหรียญ มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียนทุกปี ตั้งแต่เรียนปริญญาโท จนถึงปีแรกๆ ที่เรียนปริญญาเอก

ไม่ได้ฝ่าฝืนกฎหมายคนเข้าเมือง(Immigration law) ที่ห้ามนักเรียนต่างชาติทำงาน เพราะต้องไปแสดงตัวที่สถานีตำรวจของเมือง เอาพาสพอร์ตไปแสดงว่าเป็นนักเรียนจริง ต้องตอบคำถามบ้างว่า เรียนอะไร ที่ไหน ปิดเทอมนานเท่าไร มหาวิทยาลัยเปิดเมื่อไร แล้วจะได้ใบอนุญาต(gambling license) อนุญาตให้ทำงานในคาสิโนได้ ครบกำหนดอนุญาตก็กลับไปเรียน พอปีต่อไปก็เอาบัตรอนุญาตทำงานเก่ามาแสดงแล้วต่ออายุใหม่เหมือนเดิม

ที่นี่ ทำสิ่งที่หลายรัฐไม่อนุญาต แต่เขาใช้อำนาจรัฐดำเนินการให้เป็นสิ่งถูกกฎหมาย และควบคุมกฎระเบียบเคร่งครัด เมืองที่มีชื่อเสียงของรัฐนี้คือ ลาสเวกัส(Las Vegas) อยู่ทางใต้ของรัฐ ที่คนไทยรู้จักกันดี เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศและชาวแคลิฟอร์เนียตอนใต้แถบลอสแอนเจลิสมาเที่ยวกันมาก แต่เมืองรีโน ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทางเหนือของคาลิฟฟอร์เนียแถวซานฟรานซิสโก ซานโฮเซ่ (San Jose) รวมถึงนักท่องเที่ยวจากรัฐใกล้เคียงเช่นโอเรกอน ยูท่าห์ ก็มากันเยอะ ที่จริงยังมีอีกเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเล่นพนันได้คือเมืองคาร์สันซิตี้ (Carson City) เป็นเมืองหลวงของรัฐเนวาด้า ที่อดีตเป็นเหมืองทองที่นักขุดทองมาชุมนุมกัน เคยมีคนสร้างเป็นหนังทีวีเรื่องยาวในอดีต ที่หลายคนเคยดู

นอกเหนือจากการเปิดให้เล่นพนันแล้วยังเป็นเมืองบันเทิงมีทั้งการแสดงบนเวที การแข่งขันกีฬาเช่นชกมวยรายการดังๆ รวมทั้งมีธรรมชาติบริเวณใกล้เคียงเช่นทะเลสาบเลคตาโฮ (Lake Tahoe) ที่เป็นทะเลสาบเหนือปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว น้ำใสแจ๋วเห็นใต้ท้องน้ำ แล้วยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเล่นสกี (Ski resort) ตอนหน้าหนาวอีกด้วย

ทั้งหลายทั้งปวงที่พูดมานี้ ก็เพื่อที่จะบอกว่าการหารายได้ของรัฐที่เป็นทะเลทรายแบบนี้เขาอยู่ได้จากธุรกิจที่หลายประเทศรวมถึงบ้านเราบอกว่าผิดกฎหมาย จะทำให้เกิดการอาชญากรรม เราเป็นเมืองพุทธ และอะไรๆ อีกหลายอย่าง ทั้งๆ ที่เราก็ทำมานานแล้ว ตั้งแต่ชนไก่ กัดปลา ชนวัว เล่นไพ่ทุกชนิด ตั้งแต่ไพ่นกกระจอก บริการทางเพศ อาบอบนวด และอีกมากมาย แต่เราไม่เปิดหน้า ไม่เอามาวางบนโต๊ะ แล้วทำให้ถูกกฎหมาย เก็บภาษีกันตรงๆ

เลยกลายเป็นว่า ทุกอย่างลงใต้ดิน เงินทองไหลไปอยู่กับพวกที่หากินในที่มืด เกิดทุจริตคอรัปชั่นมหาศาลกับเจ้าหน้าที่รัฐที่รู้เห็นเป็นใจให้เปิดดำเนินการธุรกิจพวกนี้แล้วก็ตีตราว่าเป็น...ธุรกิจบาป...ในขณะที่รอบๆประเทศเรามีเปิดบริการกันถ้วนหน้าไม่ว่ามาเลเซียที่มีมานานหลายสิบปีแล้ว สิงคโปร์ รวมถึงพม่า เขมร ลาว ไม่นับมาเก๊า และมีข่าวว่าจีนก็กำลังคิดจะเปิดในผืนแผ่นดินใหญ่ คนไทยที่อยากเล่นพนันอยากตื่นเต้นก็ขนเงินไปให้เขา ชาวต่างประเทศที่มาท่องเที่ยวเมืองไทยแล้วอยากทำอะไรตื่นเต้นบ้างก็ไม่มีให้

กลับมาที่ประเทศไทยที่ตอนนี้มีรายได้จากการท่องเที่ยวมหาศาล แต่ธรรมชาติที่เริ่มเสื่อมโทรม นักท่องเที่ยวเริ่มชินและไม่รู้สึกแปลกใหม่ ความไม่มีอะไรที่ทำให้อยากใช้ชีวิตสำราญนานวัน สิ่งเหล่านี้รวมๆกัน ก็คงทำให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจะค่อยๆ ลดลง รวมทั้งคนไทยชั้นกลางที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น ต้องการพักผ่อนกับบรรยากาศอื่นๆ ที่นอกเหนือทะเลน้ำตกภูเขา ก็คงต้องไปต่างประเทศมากขึ้น และทุกประเทศก็อ้าแขนรับด้วยค่าเครื่องบินแสนถูก ค่าที่พักไม่แพง หลายประเทศโดดมาเล่นตลาดระดับกลาง แย่งนักท่องเที่ยวจากไทย ขนาดญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน เกาหลีใต้ ก็ไม่เว้น

ประเทศไทยมีทรัพยากรหลายอย่างที่ประเทศอื่นไม่มี เรามีวิถีชีวิตที่คนจากต่างประเทศประทับใจ แต่เมื่อได้มาเที่ยวแล้วสองสามครั้งก็จะเริ่มชินชา ไม่เป็นที่ดึงดูดอีกต่อไป การเอาธุรกิจที่ถือเป็นธุรกิจสีดำขณะนี้ขึ้นมาจากใต้ดินมาบนดินเปิดหน้าให้เห็นกันชัดๆ รัฐบาลวางกรอบให้ชัดเจน จัดโซนนิ่งให้พื้นที่มีบริการที่ครบวงจร ยกระดับคุณภาพบริการให้เป็นพรีเมี่ยม ก็จะเป็นทางสร้างรายได้ เงินทองไหลมาเทมาเมื่อไร รายได้ของรัฐบาลจากการเก็บภาษีก็มากขึ้นเท่านั้น

ขนาดมีสลากกินแบ่งอย่างเดียวยังหาเงินเข้ารัฐเป็นอันดับหนึ่งขนาดนี้ ถ้ามีอย่างอื่นอีก รายได้เข้ารัฐจะเพิ่มอีกมากมายหลายเท่า แล้วรัฐก็เอารายได้เหล่านี้ไปช่วยให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ให้บริการจัดการศึกษาที่ดีมีคุณภาพ มีบริการดูแลรักษาสุขภาพอนามัยประชาชนมากกว่าที่ดูแลแบบอนาถาอย่างเช่นทุกวันนี้ บุคคลากรที่ทำงานได้รับเงินเดือนสวัสดิการที่ดีขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น ก็ไม่รู้ว่ารออะไรกันอยู่

เป็นอีกทางออกของคำตอบที่ถามว่าแล้วจะเอาเงินมาจากไหนที่ไม่มีใครกล้าพูด ถึงเวลานี้ เราก็ค่อนข้างช้ากว่าคนอื่นอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ดำเนินการอะไร โอกาสก็ยิ่งหลุดลอยไปไกลจนสุดที่จะเอากลับคืนมา

รัฐบาลใหม่ลองคิดใหม่...เรายังไม่สายเกินไป...