ปิดจ๊อบ! รัฐบาลเสียงข้างน้อย

ปิดจ๊อบ! รัฐบาลเสียงข้างน้อย

ถ้าเป็นเกมฟุตบอลก็เรียกได้ว่า ทีม “พลังประชารัฐ” พับสนามเล่นอยู่พรรคเดียว

ทำเอากองเชียร์ มึนงง สงสัยว่า โควตาที่แต่ละก๊กแต่ละก๊วนจับจองเก้าอี้ใน ครม.ประยุทธ์ 2” ที่กระซิบกระซาบความดีใจต่อกัน มันเกินครึ่ง ครม. ที่ทั้งหมดมีแค่ 35 เก้าอี้ไม่รวมนายกรัฐมนตรีที่จองไว้ให้“ลุงตู่” 

ทำเอาพรรคพวกที่หวังจะเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันพายเรือลุงตู่ต่อ ได้แต่มองตากันปริบๆ 

บางพรรค นึกถึงเสียงขอร้อง ผสมเสียงขู่ จาก“บิ๊กสีเขียว” ที่ขอให้ช่วยเห็นแก่ประโยชน์บ้านเมือง 

กับอีกเสียงประกาศิตจาก“พี่ใหญ่” ที่ทำความเข้าใจกติกูว่า ไม่มีการต่อรองอะไรทั้งสิ้น จะจัดสรรให้ จึงทำให้ต้องคิดหนัก 

      ว่ากันว่า “2 ผู้จัดการรัฐบาล” ต่างคนต่างกวาดเอาแต่พรรคพวกของตัวเองไว้ก่อน ส่วนโควตา “นายกฯลุงตู่” ก็ล็อกเพื่อนพ้องน้องพี่ และขุนพลข้างกายเอาไว้ 4-5 เก้าอี้ใหญ่ 

 ส่วนโควตาก๊กสามมิตร ก็ใช่ย่อย มีการนำเสนอรายชื่อมา พร้อมสูตรคำนวณ 7-8 ส.ส.ต่อ 1 รัฐมนตรี  แล้วอย่างนี้โควตาภาคใต้ 13 ส.ส.ก็น้อยหน้ากว่าได้อย่างไร เลยทวงโควตามา 3 เก้าอี้ 

 แล้วอย่างนี้จะเหลือตกถึงมือพรรคร่วมรัฐบาลได้ยังไง  

 ประเด็น เอาแต่ได้” กำลังกลายเป็นหัวข้อสนทนาระหว่างคีย์แมนหลายพรรคที่ยังไม่แสดงตัวเลือกขั้ว 

และทำท่าจะกลายเป็น จุดเปลี่ยนของบางพรรค เพราะมั่นอกมั่นใจว่าที่คุยกับพี่ใหญ่คนเดียวแล้วจบ ไม่ต้องเสียเวลาไปคุยกับใคร แต่สุดท้ายดันไม่จบ เพราะ เฮียที่ปรึกษาทางใจคนสำคัญ ก็ดันเข้ามาล้วงโผกับเค้าด้วย

จึงทำให้การจัดตั้งรัฐบาล ปิดจ๊อบไม่ลง จนบัดนี้ 

แม้แต่ค่ายภูมิใจไทย ที่เทใจให้แต่แรก ก็ทำท่าถอยฉาก 

บรรยากาศยามนี้ อาจจะเข้าทาง ค่ายเพื่อไทย รวมถึงอนาคตใหม่ ที่กำลังเดินเกมผนึกนักเลือกตั้ง เอาทหารออกจากการเมือง ยอมบริจาคทุกเก้าอี้ให้เพื่อนพ้องนักเลือกตั้ง อยากได้เก้าอี้ไหน เลือกได้ตามใจชอบ ขออย่างเดียวช่วยกันขจัดอำนาจ คสช.ออกจากการเมืองให้ได้ 

การเมืองไทย กำลังมาถึงจุดที่กำลังจะได้ “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ที่ “เสี่ยง” พลาดได้ง่าย และถูกจ้อง“เอาคืน”ทุกย่างก้าว งานนี้พลังประชารัฐ อาจจะได้ ไม่คุ้มเสีย