ปีหน้า...จีนจะไม่มีคนจน

 ปีหน้า...จีนจะไม่มีคนจน

หลังจากได้อ่านเรื่อง “มหัศจรรย์ มหัศจีน” แฟนประจำหลายคนบอกว่า ช่วยเล่าเรื่องเมืองจีนอีกได้ไหม ได้สิครับ ไม่เอาใจแฟน แล้วจะเอาใจใครล่ะ

นอกจากรถไฟความเร็วสูง และดิจิตัลเทคโนโลยี ที่ผมเขียนถึงเมื่อครั้งที่แล้ว อีกอย่างหนึ่งที่เราอาจจะได้เห็นที่เมืองจีน ภายในสิ้นปีหน้า ก็คือความยากจนของคนจีน จะหมดสิ้นไปทั้งประเทศ

ฟังแล้วไม่น่าเชื่อ เพราะนักการเมืองของประเทศต่างๆรวมทั้งของไทยเราก็พูดเหมือนกันมาทุกยุคสมัยว่าจะล้างความยากจนของประชาชนให้หมดไปภายในปีนั้นปีนี้เราก็ฟังไปแต่จะมีใครสักกี่คนที่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง

แต่เมื่อ สี จิ้น ผิง เป็นคนพูดว่าความยากจนของคนจีน จะต้องหมดไปภายในปี 2563" และนี่ก็ปี 2562 แล้ว เราก็ต้อง ส่ายตาดู เงี่ยหูฟัง ว่าเขาจะล้างความยากจน ของประเทศที่มีผู้คนถึง 1,400 ล้านคน ภายในปีหน้า ได้จริงไหม

รัฐบาลบอกว่า คนยากจน หมายถึง คนที่มีรายได้ 2,800 หยวน (14,000 บาท) ต่อปี หรือเพียงวันละ 38 บาท ตัวเลขนี้ ต่ำกว่า เกณฑ์สากลของ ธนาคารโลก ที่ระบุว่า ถ้ารายได้ 60 บาท ต่อวัน ก็ถือว่า “จน" แล้ว ดังนั้น วันละ 38 บาท จึงยากจนในระดับ ข้นแค้น (Extreme Poverty) เลยทีเดียว แต่ก็เอาเถอะ เริ่มที่ 38 บาทก็ได้

3-4 ปี ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนส่งเจ้าหน้าที่ 775,000 คน ลงพื้นที่ยากจนทั่วประเทศ เคาะทุกประตูบ้าน รับฟังปัญหา และหาทางแก้ปัญหาความยากจนให้ ทีละครอบครัว เลยทีเดียว ข้าราชการทีมใดแก้ปัญหาไม่ได้ แก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด ชีวิตคนจีนยากจน ในพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย ไม่ดีขึ้น จะได้รับผลกระทบ คือความก้าวหน้าทางราชการ ต้องสะดุดลง เลยทีเดียว

ที่ผ่านมา รัฐบาลไม่แต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการ ที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ยากจน ให้ออกไปจากพื้นที่ ข้าราชการจะต้องทุ่มเทเพื่อทำให้ชุมชนนั้นๆ หลุดพ้นจากความยากจนให้ได้เสียก่อน จึงจะได้รับการพิจารณา

ปี 2561 ข้าราชการ 170,000 คน ถูกลงโทษทางวินัย เพราะไม่มีผลงาน หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับการใช้เงินในโครงการลดความยากจน ที่่่ส่อว่าไม่ถูกต้อง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ เพราะมีเงินจำนวนมากที่ไหน ก็มีโอกาสคอรัปชั่นที่นั่น ไม่ต่างจากประเทศไทย

เมื่อกลางเดือน เมษายน 2562 นี้ สี จิ้นผิง ได้ลงพื้นที่ หัวซี ออกไปเยี่ยมคนจีนยากจนถึงในบ้าน ด้วยตัวเอง เพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ปัญหา

สี จิ้นผิง ประกาศนโยบายลดความยากจน เมื่อปี 2015 เวลาผ่านไป 2 ปี คนจีนยากจน 3.5 ล้านคน ได้รับการเคลื่อนย้ายออกจากชุมชนเดิมที่ยากจนข้นแค้นและไม่มีศักยภาพในการฟื้นฟูไปทำมาหากินในชุมชนใหม่ที่ดีกว่า

ธนาคารโลก รายงานว่า เมื่อปี 1990 มีคนจีนยากจนทั่วประเทศ 770 ล้านคน หรือ 60% ของคนทั้งประเทศ เวลาผ่านไป 30 ปี รัฐบาลจีนรายงานว่า ปี 2019 นี้ คนจนได้ลดจำนวนลงเหลือเพียง 16.6 ล้านคน เท่านั้น ลดลงมากมาย รวดเร็วแบบ มหัศจรรย์ มหัศจีนเลย

เราคงไม่เชื่อสถิติของรัฐบาลจีนทั้งหมด เพราะอาจมีคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง หรืออาจจะมีราคาคุยรวมอยู่ด้วย แต่ก็ไม่น่าจะผิดพลาดมากมาย จนถึงกับเชื่ออะไรไม่ได้เลย

เบื้องหลังความสำเร็จ ว่ากันว่าเป็นเพราะรัฐบาลจีน กำหนดเป้าหมายการแก้ปัญหา ให้แตกต่างกันไป เพื่อให้สอดคล้องกับสาเหตุแห่งความยากจนของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งใช้มาตรการหลากหลาย เช่นการพัฒนาธุรกิจท้องถิ่น โยกย้ายคนยากจน ชดเชยชาวนาที่อยู่ในพื้นที่ธุรกันดาลสุดขีด ส่งเสริมการศึกษา พัฒนาระบบประกันสังคม ฯลฯ

นอกจากนั้น เมืองที่พัฒนาแล้ว ทางตะวันออกของประเทศ ก็จะต้องเป็น พี่เลี้ยงให้แก่เมืองที่ยากจนทางทิศตะวันตก และ องค์กรธุรกิจ ก็จะต้องเข้ามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความยากจน อีกด้วย

ผมฟังดูก็รู้สึกว่า คุ้นๆทั้งนั้นเลยครับ สิ่งที่จีนทำไม่ได้แตกต่างจากที่ไทยเราทำมาแล้ว รวมทั้ง “ตัวชี้วัด” ของข้าราชการ เราก็มีมากมายเช่นกัน แต่ถ้ามองไปรอบๆ เราคงพูดไม่ได้หรอกครับว่า ความยากจนของคนไทย ใกล้จะหมดไปแล้ว จริง

สิ่งเดียวที่ผมเห็นว่าจีนกับเราแตกต่างกันก็คือรัฐบาลจีนเอาจริงกับผลงานของข้าราชการเมื่อเทียบกับตัวชี้วัดถ้าไม่มีผลงานลดความยากจนได้จริงตามเป้าหมายความก้าวหน้าในชีวิตราชการก็สะดุดลงจริงและจะต้องทำจนกว่าจะเห็นผลจึงจะก้าวต่อไปในชีวิตราชการได้

ในขณะที่่ของเรานั้นมีตัวชี้วัดและทำกันมานานแต่ก็ยังมิอาจเปลี่ยนโฉมความยากจนได้อย่างจริงจังและทั่วถึง

ผมคิดว่าคงเป็นคำตอบแบบเดิมๆแหละครับคือเรามีความคิดมีกฎหมายมีคนทำงานมีระบบมีพร้อมเกือบทุกอย่าง(อาจจะมีเงินน้อยกว่าจีน) แต่กลไกการทำงานมันสะดุดบ่อยครั้งเพราะเป้าหมายหรือผลประโยชน์ส่วนตัวของบางคนบางกลุ่มหรือบางพรรคฯลฯมันไปเบียดบังเป้าหมายใหญ่สุดคือความสุขที่แท้จริงของประชาชนไปเกือบหมดสิ้น

ถ้าผมวินิจฉัยผิด ก็ขออภัย

สรุปว่า มหัศจีน นั้น มีเรื่องราวให้เล่าสู่กันฟังได้มากมาย และผมก็คงจะแวะเวียนไปสัมผัสอีกเป็นระยะๆ ในท้ายที่สุดนี้ ขอบอกว่าผมได้เขียนต้นฉบับนี้ไว้ ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน เพราะต้องออกเดินทางไปอเมริกา ดังนั้น ขณะที่ท่านอ่านอยู่นี้ เวลาจึงได้ผ่านไปแล้ว 1 สัปดาห์

สี จิ้นผิง จะล้างความจนคนจีนได้สำเร็จหรือไม่ ก็ยังมีผู้สงสัยกันอยู่ แต่ด้วยความ “มหัศจรรย์ มหัศจีน” หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านไป เผลอๆ คนจีนจะหายจน ไปอีกครึ่งล้านคนแล้ว...ก็อาจเป็นไปได้นะ!

แต่ความจริง การคิดระดับความยากจนเพียงวันละ 38 บาทนั้น ถึงแม้จะทำได้สำเร็จจริง คนจีนยากจน ก็จะยังมีเหลืออยู่เป็นจำนวนมากอยู่ดี

เพียงแต่ในเชิงเศรษฐศาสตร์ คนจนมากๆ ที่ สี จิ้นผิง ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จะเป็นผู้ที่ใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มานั้น ไปในการบริโภคทั้งสิ้น ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มอุปสงค์ และทำให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มขึ้น

จีน เติบโตอย่างน่าติดตามครับ ตั้งแต่มกราคม 2562 หุ้นจีนขึ้นมาตลอด สนใจก็ลองเล็งดู แต่ต้องระมัดระวังด้วยนะ ไม่มีอะไรที่ขึ้นอย่างเดียวหรอก

เพราะก่อนหุ้นจีนจะขึ้นในปีนี้ มันก็ลงมาแล้วทั้งปี 2561 ครับ....