รุกฆาต ยุบ“อนาคตใหม่”?

รุกฆาต ยุบ“อนาคตใหม่”?

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การ “พลาด” ด้วยเรื่องโอนหุ้นสื่อของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ส่งผลถึง “สถานการณ์อันไม่คาดคิด” ให้กับพรรคอนาคตใหม่

หลังจาก กกต.มีมติให้ เแจ้งข้อกล่าวหาเขา หลังรับฟังได้ว่าเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย ซึ่งประกอบกิจการสื่อสารมวลชน และให้ “ธนาธร” ชี้แจงแสดงหลักฐาน ในการแก้ข้อกล่าวหาภายใน 7 วัน

ว่ากันว่า กรณีนี้ กกต.มองว่า ธนาธร จงใจปกปิดข้อมูลเรื่องหุ้น หรือแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่ง กกต.จะสรุปเรื่องนี้ ให้เสร็จทันก่อนประกาศรับรองผลเลือกตั้ง 9 พ.ค.นี้ เพราะหากลากยาว การรับรองไปกว่านี้จะส่งผล

กระทบไปถึงงานสำคัญอื่นๆ ของบ้านเมืองเป็นลูกโซ่

คดีนี้ นักสังเกตการณ์การเมือง ฟันธงตรงกันว่า หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีโอกาสจะได้ ใบส้ม

ค่อนข้างแน่นอน และผลที่ตามมาคือ ถูกตัดสิทธิการเมือง “1 ปีและยังต้องลุ้นถึงอนาคตของพรรค

ระหว่างนี้กระแสการเมืองไทย อาจจะชุลมุนฝุ่นตลบกับสถานการณ์นี้ไม่น้อย เพราะมีทั้งฝ่ายเห็นด้วยกับฝ่ายเห็นต่าง โดยเฉพาะแฟนคลับที่เลือกพรรคอนาคตใหม่ถล่มทลาย ย่อมรู้สึกเห็นใจ“นักการเมืองรุ่นใหม่” ที่ถูกกระทำไม่จบไม่สิ้น แต่ฝ่ายที่ตั้งสติ ดูข้อเท็จจริงอย่างพินิจพิจารณา ก็จะเห็นว่า พฤติกรรมการโอนหุ้นแบบเฉียดฉิวอย่างนี้ เจ้าตัวย่อมรู้ดีว่า “ผิด” จึงต้องรีบเร่งทำให้ “ถูก” และก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว

แน่นอนว่า ผลกระทบสำคัญที่จะตามมาคือ พรรคอนาคตใหม่ ที่ไร้ผู้นำ “ในสภาฯ” จะมีสภาพอย่างไร เพราะว่าที่ ส.ส.ล้วนแต่เป็น “มือใหม่ทางการเมือง” ที่กำลังถูกนักการเมืองอาชีพ “จ้องสอย” ไปรวม นับแต่นาทีนี้

ยามนี้่มีบางฝ่ายจ้องเล่นงาน"ธนาธร" ให้ถึงขั้นไม่มีที่ยืน และหวังรุกไล่กัน"สุดซอย" ไปถึงขั้น"ยุบพรรค" หากมีช่องให้เล่นงาน

อนาคตการเมืองของ “ธนาธร” กำลังอยู่ในจุดเสี่ยง และอาจจะต้องเตรียม “แผนสอง” หากไม่ได้ไปต่อ

มองอย่างเร็วๆ หากหมดโอกาสในสนามใหญ่ ก็ยังมีสนามเล็ก โดยเฉพาะ "เลือกตั้งท้องถิ่น" ที่จะเกิดหลังจากนี้ หากการกำหนดวันเลือกตั้ง ลากยาวออกไปเกิน 1 ปี เก้าอี้ "ผู้ว่าฯกทม." ก็เป็นโอกาสที่ “ธนาธร” มีลุ้นจะกลับมาสร้างประวัติศาสตร์การเมืองของตัวเองได้อีกครั้ง หากกระแสยังแรงดีไม่มีตก

บทเรียนแรกทางการเมืองของ ธนาธร” คงสอนให้รู้ว่า ไม่มีใครเล่นงานใครได้ หากทำให้"ถูกต้อง"ตั้งแต่ต้น