Reboot สมองซ้ายขวาพัฒนาคนรุ่นใหม่

Reboot สมองซ้ายขวาพัฒนาคนรุ่นใหม่

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา โมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่มาทำลายล้างโมเดลธุรกิจแบบเดิมที่ล้าหลังล้วนแล้วแต่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่

ที่มี มุมมอง และ วิธีคิด ที่แตกต่างจากคนรุ่นเก่าแทบทั้งสิ้น องค์กรในยุคนี้จะเติบโตและสร้างสรรค์ได้มากขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับ พลังสมอง ของคนกลุ่มนี้ หลายองค์กรจึงหันมาให้ความสำคัญและตื่นตัวกับการสร้าง หลักสูตรการเรียนรู้ ที่ช่วย Reboot สมองซีกซ้ายและขวา ให้ใช้งานได้อย่างสมดุลเพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่ใช้พลังสมองได้เต็มศักยภาพ

ธรรมชาติของการทำงานในธนาคารนั้น โดยมากแล้วงานจะอยู่ภายใต้กรอบ หลักเกณฑ์ และกฎระเบียบ ซึ่งต้องใช้ สมองซีกซ้าย ที่ทำงานด้าน เหตุผล ภาษา และการคำนวณเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เราไม่ค่อยได้ใช้ สมองซีกขวา ซึ่งทำงานด้าน ดนตรี ศิลปะ จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ เราจึงมองโลกด้วยมุมมองเก่า จนไม่เห็นโอกาสที่จะสร้างอะไรใหม่ๆ มาตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปบนโลกยุคใหม่ที่อะไรก็ไม่เหมือนเดิม

Reboot สมองซ้ายขวาพัฒนาคนรุ่นใหม่

SCB จึงออกแบบหลักสูตรชื่อ Control Alternate Delete (CAD), Reboot Your Life Design Your Future โดยใช้แนวคิดแบบ Edutainment ที่ผสมผสานการเรียนรู้และความบันเทิงไว้ด้วยกัน มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่แปลกใหม่และหลากหลาย เช่น การฟังวิทยากรที่เป็นเจ้าของกิจการและผู้บริหารจากหลากหลายธุรกิจมาแชร์ประสบการณ์ชีวิตเพื่อเปิดมุมมองความคิดและให้แรงบันดาลใจ การจัดปาร์ตี้ที่แต่ละทีมต้องคิดธีมของงานไม่ซ้ำกัน Creative Acting Workshop เพื่อฝึกการใช้เสียงและท่าทางภาษากาย การทำ Music VDO ตามโจทย์เพลงที่ได้รับ กิจกรรมเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อให้สมองทั้งสองซีกทำงานเชื่อมโยงกันผ่านใยประสาทให้มากขึ้น การเชื่อมโยงกันที่มากขึ้นนี้เองทำให้เกิด แบบแผนความคิด (pattern) ใหม่ๆ ที่ทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์และรู้จักคิดนอกกรอบ

หลักสูตรนี้เราให้ผู้บริหารระดับสูงกับพนักงาน young generation จำนวนเกือบ 100 คนมาเรียนร่วมกัน ชื่อหลักสูตรก็บอกอยู่แล้วว่าเราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเหมือนการกดปุ่ม Ctrl + Alt + Delete บนคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ ซึ่ง David Bradley วิศกรของ IBM คิดขึ้นมาเพื่อ reboot เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มักแฮงค์บ่อยๆ ดิฉันได้เรียนหลักสูตรนี้เป็นรุ่นแรกและรู้สึกว่ามันมีคุณค่ามาก มันช่วยเปลี่ยนมุมมอง วิธีคิด ผ่านการทำกิจกรรมที่ดิฉันไม่คุ้นเคยร่วมกับน้องๆ ที่มาจากหลากหลายหน่วยงาน

น้องๆ ที่เข้ามาเรียนด้วยกันก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เห็นผู้บริหารระดับสูงกล้าทำอะไรแปลกๆ เช่น แต่งตัวเป็นนักร้องขึ้นเวทีไปแสดงทั้งร้องและเต้น บางท่านก็ถูกจับให้เล่นลิเกตอนที่ทีมแพ้การแข่งขัน Rally ตัวดิฉันเองก็ต้องแต่งตัวสวมบทบาทเป็นแม่ค้าส้มตำและต้องตำส้มตำไปหลายครกในการถ่ายทำ Music VDO ในโจทย์เพลง “ใจนักเลง” ของคุณพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง กิจกรรมถ่ายทำ Music VDO นี้ช่วยกระตุ้นสมองซีกขวาได้เป็นอย่างดีและยังทำให้ดิฉันและผู้บริหารท่านอื่นๆ เห็นรายละเอียดทุกขั้นตอนเบื้องหลังการถ่ายทำ ซึ่งแต่ละขั้นตอนมีความละเอียดอ่อนและต้องใช้พลังความคิดสร้างสรรค์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การตีโจทย์เพลง ทำ Storyboard คัดเลือกนักแสดง เขียนบท หาโลเกชั่น ถ่ายทำ กำกับการแสดง และตัดต่อ VDO ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมและความบ้าระห่ำของแต่ละคนเพื่อแสดงให้สมบทบาทภายใต้เวลาที่จำกัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ดิฉันก็ไม่คาดคิดว่าเราจะทำให้เกิดได้ และผลงานของแต่ละทีมก็ได้สร้างความรื่นรมย์ให้กับเพื่อนๆ ทุกคนที่เข้ามาเรียนด้วยกัน CAD จึงเป็นหลักสูตรในตำนานที่ถูกกล่าวขานว่ามีแต่ความสุข ความสนุกเฮฮา และความทรงจำที่ดีๆ

ในความเป็นจริงแล้ว CAD ยังถูกสร้างมาเพื่อเป็นเวทีให้พนักงานรุ่นใหม่ได้ ฉายแสง” ได้แสดงออกทางความคิดและสร้างสรรค์ผลงานอย่างไม่มีขีดจำกัด ขณะเดียวกันก็เป็นช่องทางให้ผู้บริหารได้ใกล้ชิดกับน้องๆ พนักงานได้มากขึ้น มันช่วยผสมผสานพนักงานทุกระดับให้เข้ากันได้โดยไม่มีตำแหน่งหน้าที่การงาน ระดับชั้น หรือหัวโขนใดๆ มาขวางกั้น พวกเราอยู่ด้วยกันอย่างเป็นกันเองเหมือนพี่น้องที่สามารถเข้าหากันได้โดยไม่ต้องมีพิธีรีตอง เราสนิทสนมกันจนมองเห็นจุดเด่น จุดด้อย ของน้องแต่ละคน ทำให้มีแนวคิดในการพัฒนาคนไปข้างหน้าได้ชัดเจนขึ้น

สำหรับดิฉันแล้วหลักสูตรยังมีมุมที่น่ารักก็คือการได้อยู่ร่วมกับทีมงานที่น้องๆ ทุกคนมี positive thinking ในการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์และช่วยเหลือกัน หลังจบหลักสูตรแล้วเราได้สร้าง Network ของชาว CAD ที่ทำให้การร่วมมือทำงานกันระหว่างแผนกเกิดขึ้นได้ง่ายๆ แค่สื่อสารกันผ่านไลน์กลุ่ม ทุกคนจะกุลีกุจอช่วยกันแก้ปัญหา ให้คำแนะนำ ให้ข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากโดยเฉพาะในองค์กรของเราที่มีขนาดใหญ่และมีพนักงานเป็นหมื่นคน นอกจากนี้แต่ละทีมก็ยังมีการนัดทานข้าวกันอยู่เสมอเพื่อรับรู้ความเป็นไปของน้องๆ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการรับฟังความคิดเห็นในมุมมองของคนที่อยู่ต่าง generation กันได้เป็นอย่างดี

การพัฒนาหลักสูตรที่สร้างสมดุลสมองทั้งซ้ายขวาและการสร้าง Network ต่างหน่วยงาน ได้กลายเป็นมิติที่สำคัญในโลกยุคปัจจุบัน เพราะเราเชื่อว่าถ้าเราพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้เรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพสมองได้ พวกเขาจะใช้พลังสมองมาช่วยกันสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าสมัยใหม่ที่เรียกร้องอะไรที่ไม่เหมือนเดิมได้อย่างรวดเร็ว