“อ้วน-เอก” จับมือสู้เพื่อ "ทักษิณ”
“ฝ่ายปฏิปักษ์ต่อประชาชน” วาทะอันหรูหราของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ทำเอาคนทั่วไปถึงสะอึก
ขนาด กกต.ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก็เก็บอาการไม่อยู่
“ธนาธร” รู้อยู่แก่ใจว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ผ่านการลงประชามติมาแล้ว กติกาเลือกตัั้งเป็นแบบไหนก็รู้ แต่กลับพยายามชูประเด็น “ส.ว.250” และการสืบทอดอำนาจมาทำลายพรรคการเมืองคู่แข่ง
ถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา และพรรคอื่นๆ ไม่มาร่วมกับฝั่งพรรคเพื่อไทย ก็กลายเป็น “ฝ่ายปฏิปักษ์ต่อประชาชน”
“ต้องถามฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาชน ว่าจะลบเจตจำนงของประชาชนด้วยเสียง ส.ว. 250 เสียงหรือไม่ นี่คือคำถามที่ฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาชนต้องถามตัวเอง”
พลันที่ได้ยินคำว่า “ปฏิปักษ์ต่อประชาชน” ผู้อาวุโสหลายคนได้กลิ่น “เรดการ์ด” โชยหึ่ง เมื่อ 50 ปีที่แล้ว กลุ่มเรดการ์ดตะโกนไล่ล่า “พวกปฏิปักษ์ปฏิวัติ” ทั่วเมืองจีน ภายใต้ปฏิบัติการ “ปฏิวัติวัฒนธรรม” ของประธานเหมา เจ๋อตง
ตัดมาที่ภาพการแถลงข่าวของพรรคเพื่อไทย และพรรคพันธมิตร เมื่อวันก่อน ก็ได้เห็นบทบาทของ “ภูมิธรรม เวชยชัย” เลขาธิการพรรคเพื่อไทยมากขึ้น หลังจากเก็บตัวเงียบอยู่ในวอร์รูมของพรรคมานานกว่า 2 เดือน
30 ปีที่แล้ว “อ้วน ภูมิธรรม” อายุอานามใกล้เคียงกับ “เอก ธนาธร” ได้สุมหัวกับเพื่อน “คนเดือนตุลา” กลุ่มหนึ่ง ตั้งพรรคการเมืองเชิงอุดมการณ์ แต่ไปไม่รอดเพราะขาดเงินทุน จึงต้องไปคุยต่อกับทักษิณและร่วมกันตัั้งพรรคไทยรักไทย
ปีที่แล้ว “เอก ธนาธร” กับเพื่อนพ้องน้องพี่ ร่วมกันคิดฝันตั้งพรรคอนาคตใหม่ ก็เพื่อให้ “ขบวนการประชาธิปไตย” หลุดออกจากวงจร “ทักษิณ-พรรคเครือข่าย”
“เอก ธนาธร” ต้องการเปิด “พื้นที่ใหม่” นอกเหนือจากขบวนมวลชนเสื้อแดงที่ยึดโยงอยู่กับทักษิณ โดยหวังดึงคนรุ่นใหม่ๆ หรือคนกลางๆ มาสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่
ถ้ายังจำกันได้ ปลายปีที่แล้ว “เอก ธนาธร” ตั้งสมการการเมืองไว้ 3 ขั้วคือ พรรคทักษิณ พรรคประยุทธ์ และพรรคอนาคตใหม่ แต่อนาคตใหม่ก็ถูกแดงฮาร์ดคอร์ วิจารณ์แรงๆ ว่า “เอาตัวรอด” ทำตัวเหินห่างจากฝ่ายทักษิณ
ต่อมา “8 กุมภาเอฟเฟกต์” ทำให้ธนาธรประกาศ “ไม่เอาทักษิณ” เพราะสิ่งที่คนแดนไกลเสนอนั้นขัดต่อหลักการประชาธิปไตย แต่หลังจากนั้น เขาก็เปลี่ยนท่าทีอีกครั้ง เมื่อพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ
“เอก ธนาธร” ได้พูดถึงการนำทักษิณกลับมาสู่กระบวนการยุติธรรมที่แท้จริง หลังจากการล้าง “มรดก คสช.” สิ้นซาก จึงไม่น่าแปลกที่พรรคอนาคตใหม่ ชนะเลือกตั้ง ได้ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อมากมาย
ว่ากันตามจริง คะแนนของพรรคอนาคตใหม่นั้นมาจาก 2 ทางคือ กระแสธนาธร กับคะแนนจากพรรคไทยรักษาชาติ
ด้วยเหตุนี้เอง “อ้วน” กับ “เอก” จึงโคจรมาร่วมเดิมเกมปลุกกระแส “ฝ่ายประชาธิปไตย” และผลักให้พรรคที่เหลือเป็น “ฝ่ายปฏิปักษ์ต่อประชาชน” หากไม่มาร่วมมือกับเพื่อไทย และอนาคตใหม่
เวลานี้ คนเมืองหลวงเริ่มได้กลิ่นม็อบ..ล้มเลือกตั้ง หากรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยของทักษิณ ไม่ประสบความสำเร็จ
