หัวเว่ย

หัวเว่ย

สงครามการค้าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ใหญ่(Grand Strategy) ของอเมริกาในการป้องกัน ขัดขวาง และบ่อนทำลายไม่ให้จีนขึ้นมาเทียบเท่าหรือทดแทนตนเอง

 นี่คือวาระแห่งชาติที่ชนชั้นนำและพวก Deep State มีฉันทามติร่วมกันนานแล้ว และยังคงถูกผลักดันต่อไปจนกว่าจะได้ผลที่ต้องการ

อันที่จริง สงครามค่าเงินจีนอเมริกาเกิดขึ้นหลายยกแล้ว วิกฤติต้มยำกุ้งของไทยปี 1997 ก็ตั้งใจให้ลามถึงจีน แต่จีนตั้งรับได้ ปีต่อมาเกิดวิกฤติหนี้รัสเซีย ทำให้กองทุนยักษ์ใหญ่ LTCM ล้มละลาย อเมริกาต้องกลับมาดูแลตัวเอง มีนาคม 2000 ฟองสบู่ดอทคอมแตก ปี 2001 เกิดเหตุการณ์ 911 อเมริกาหันไปโฟกัสตะวันออกกลาง มันกลายเป็นโอกาสให้จีนพัฒนาตัวเอง  ปี 2007 เกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ จีนยิ่งเร่งสปีดตัวเองเต็มกำลัง ยกสุดท้ายเกิดสิงหาคม 2015 จีนต้องลดค่าเงินหยวนเกือบ 5 % ทุนสำรองหายไปถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ก็เอาตัวรอดและฟื้นตัวเข้มแข็งได้

ทรัมป์คือจุดเปลี่ยน นโยบาย “อเมริกามาก่อน” ทำให้ญี่ปุ่นโดดเดี่ยวและหันไปหาจีน ความสัมพันธ์ที่ดีกับเกาหลีเหนือช่วยให้เกาหลีใต้ดีขึ้น เอเชียตะวันออกมีเสถียรภาพมากขึ้น จีนได้ประโยชน์ในจุดนี้ ขณะที่สงครามการค้าสร้างความเสียหายหนัก ในการประชุมระหว่างทรัมป์กับสีจิ้นผิง 1 ธันวาคม 2018 ทั้งคู่ตกลงชะลอการขึ้นภาษีจาก 10 เป็น 25 % (จากสินค้า 260,000 ล้านดอลลาร์) ในวันที่ 1 มกราคม 2019 ออกไป 90 วันเพื่อเจรจาต่อรองกันใหม่

ในวันเดียวกัน เมิ่งหว่านโจว-ซีเอฟโอและรองประธานบริษัทหัวเว่ย ถูกจับขณะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินแวนคูเวอร์ ด้วยข้อหาละเมิดกฎหมายอเมริกาที่คว่ำบาตรอิหร่านในปี 2009 – 2014 ไม่มีทางคิดเป็นอื่นนอกจากอเมริกาจับเธอเป็นตัวประกัน ถ้าถูกส่งตัวไปที่นั่น เธออาจต้องโทษจำคุก 30 ปี ด้วยวิชามารเช่นนี้ โลกรู้ดีว่าสงครามการค้าไม่มีทางจบง่าย ๆ

ประเด็นที่น่าคิดคือแคนาดาไม่ได้ร่วมลงนามในกฎหมายคว่ำบาตรนี้ แล้วจับตัวเมิ่งทำไม ? สมรู้ร่วมคิดหรือเป็นเบ๊อเมริกา  ศาลแคนาดาให้เธอประกันตัว เมื่อรองนายกฯหลิวเหอนำคณะเจรจาการค้าถึงอเมริกา กระทรวงยุติธรรมก็ฟ้องคดีอาญาเมิ่งหว่านโจวกับหัวเว่ย นี่คือการข่มขู่กันซึ่งหน้า จีนไม่พอใจมากและตำหนิอเมริกาว่า “ใช้อำนาจรัฐเพื่อดิสเครดิตและปราบปรามบริษัทจีน ด้วยแรงจูงใจทางการเมืองอย่างแรงกล้า” ชะตากรรมของเธอแขวนอยู่บนเส้นด้าย

เมิ่งหว่านโจวถูกเล่นงาน เพราะเธอคือผู้นำของหัวเว่ย แล้วหัวเว่ยสำคัญอย่างไร ? บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีนรายนี้ไม่เพียงผลิตฮาร์ดแวร์เครือข่ายขายทั่วโลก แต่ยังผลิตและขายสมาร์ทโฟนเป็นที่ 2 ของโลกด้วย รายได้ปี 2018 สูงถึง 1.085 แสนล้านดอลลาร์ เติบโต 21 % จากปีก่อน ที่สำคัญคือหัวเว่ยทุ่มเทด้านวิจัยและพัฒนาอย่างมหาศาล  พนักงานกว่า 76,000 จาก 180,000 คนทำงานด้านนี้ มีสถาบันวิจัย 21 แห่งใน 16 ประเทศ งบวิจัยพัฒนาปี 2017 สูงถึง 1.38 หมื่นล้าน ไม่น่าแปลกใจที่หัวเว่ยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก

เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะ 5G ที่รองรับ Internet of Thing นี่เอง อเมริกาจึงต้องบ่อนทำลายหัวเว่ยทุกทาง เพื่อซื้อเวลาให้กับบริษัทอเมริกันที่ตามหลังอยู่เป็นปี  สิงหาคม 2018 ทรัมป์ห้ามซื้อสินค้าหัวเว่ยโดยอ้างความปลอดภัยและโน้มน้าว (กึ่งบังคับ) ให้ชาติอื่นทำตาม มันเสี่ยงจริงหรือ ? ยังไม่ปรากฏหลักฐานเรื่องนี้ แต่ที่แน่ ๆ NSA ของอเมริกาต่างหากคือหน่วยงานที่จารกรรมข้อมูลข่าวสารมากที่สุดในโลก (ดังที่เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนเปิดเผย) เทคโนโลยีที่ล้ำหน้ายังเพิ่มพูนความสามารถในการแข่งขันทั้งทางเศรษฐกิจและการทหาร ข้อนี้อเมริกายิ่งยอมไม่ได้ การจับกุมเมิ่งเท่ากับยิงกระสุนนัดเดียวได้นกหลายตัว

พ่อของเมิ่งหว่านโจวคือเหรินเจิ้งเฟย เขาคือผู้ก่อตั้งหัวเว่ย เหรินเคยเป็นรองผู้อำนวยการด้านวิศวกรรมของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน เขาลาออกปี 1982 และตั้งบริษัทปี 1987 ด้วยทุนจดทะเบียน 21,000 หยวน แทนที่จะร่วมทุนกับต่างชาติเพื่อให้มีเทคโนโลยี เหรินกลับใช้วิศวกรรมย้อนกลับ (Reverse Engineering) เพื่อวิจัยและพัฒนาสินค้าของตัวเอง เป้าหมายคือจีนสามารถพึ่งพาตัวเองทางเทคโนโลยีและแข่งขันได้กับทุกชาติทั่วโลก เขาถือหุ้นหัวเว่ย 1.42 % และมั่งคั่งสุทธิ 3.4 พันล้านดอลลาร์ (ตุลาคม 2017) เหรินมีลูกสาว 2 ลูกชาย 1 คน เมิ่งหว่านโจวเป็นลูกคนแรกจากภรรยาคนแรก

หัวเว่ย

เหรินเจิ้งเฟยเกิด 25 ตุลาคม 1944 ที่เจิ้นหนิง-กุ้ยโจว ดาวที่ให้คุณมากคือศุกร์ ศุกร์พิจิกเพ็ญ 31 องศาและได้มุม 60 จากจันทร์มังกรและเนปจูนกันย์ (โยคหน้าหลัง) ศุกร์ยังสลับเรือนกับอังคารตุลย์ มฤตยูพฤษภ 60 พลูโตกรกฎและ 90 พฤหัสสิงห์ ชี้ถึงความคิดสร้างสรรค์และการประดิษฐ์นวัตกรรมต่าง ๆ อังคารกุมอาทิตย์พุธและ 120 เสาร์ บอกถึงความเป็นเลิศด้านคำนวณและทักษะเชิงวิศวกรรม ศุกร์เล็งมฤตยูและจันทร์เล็งพลูโต แสดงถึงชีวิตคู่ที่ไม่สมหวัง หย่าร้าง และแต่งงานใหม่

สำหรับเมิ่งหว่านโจว เธอจบวิทยาลัยปี 1992 เริ่มงานกับหัวเว่ยปีต่อมา ปี 1998 จบโทบัญชีและดูแลแผนกการเงิน ปี 2011 ขึ้นเป็นซีเอฟโอและผู้บริหารระดับสูง มีนาคม 2018 เมิ่งได้เป็น 1 ใน 4 รองประธานบริหาร เธอแต่งงาน 2 ครั้ง ครั้งแรกมีลูกชาย 3 คน ครั้งสองกับหลิวเสียวสง ทั้งคู่จดทะเบียนสมรส 2 กุมภาพันธ์ 2007 มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน เธอผ่าตัดรักษามะเร็งไทรอยด์ปี 2011 และผ่าตัดช่องคอเพื่อรักษาอาการหยุดหายใจขณะหลับในปี 2017

เธอเกิด 13 กุมภาพันธ์ 1972 ที่เฉิงตู-เสฉวน ศุกร์เพ็ญ 40 องศาและอุจจ์ 60 เสาร์พฤษภและ 120 เนปจูนพิจิก อังคารเมษพฤหัสธนูเป็นเกษตร์ เสาร์ 120 พลูโตกันย์หมายถึงอำนาจในองค์กร จุดอ่อนคือ T-square ของพฤหัสศุกร์พลูโต การเงินดีมากแต่ขึ้น ๆ ลง ๆ และมะเร็งต่อมไทรอยด์ จันทร์มังกรสวนราหูและ 90 อังคาร กอปรกับศุกร์ 180 พลูโตสนิท ชีวิตครอบครัวมีปัญหาและหย่าร้าง มฤตยูจรเบียนจันทร์อังคารราหูเดิม เสาร์ราหูพลูโตจรกระทบ T-square ดวงชะตาอ่อนแอมาก

หัวเว่ยยังต้องเผชิญมรสุมใหญ่ในปีนี้