สู่ .. สังเวชนียสถาน .. อย่างพุทธะ !!

สู่ .. สังเวชนียสถาน .. อย่างพุทธะ !!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ยามนี้เป็นห้วงเวลาแห่งการจาริกแสวงบุญ

ของคณะศรัทธาชาวไทยที่เดินทางไปสู่พุทธภูมิในอินเดีย-เนปาลกันจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่องค์กรส่วนราชการที่จัดกิจกรรมนำพาหมู่คณะไปประกอบศาสนกิจที่ได้จัดสรรขึ้นโดยสำนัก วัด หมู่พระ ที่มีความรู้ความเข้าใจในศาสนา อันควรแก่การนำเสนอฉลองศรัทธาของญาติโยมผู้ปวารณาการสร้างบารมีสืบสานความดีให้กับชีวิต

ที่น่าสนใจยิ่งคือโครงการบรรพชา-อุปสมบท .. การบวชเนกขัมมจาริณี-บวชชีทั้งหลาย ที่ไปยึดที่หมายใต้ควงพระศรีมหาโพธิ์ ดินแดนตรัสรู้ธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าทุกพระองค์ เพื่อหวังเป็นมงคลชีวิต .. ว่าเกิดมาครั้งหนึ่งได้มีโอกาสเดินทางมาถึงสังเวชนียสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธองค์ และได้มีโอกาสบวชถวายบูชา อันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่งในหนึ่งชีวิตของคนเราที่เกิดมาได้ฐานะ ความสมบูรณ์ โอกาสกาลอันเหมาะควร ขณะความพร้อมที่ถึงได้ยากเช่นนี้

..น่าชื่นชม .. น่าอนุโมทนา ในกุศลจิตศรัทธาปสาทะของคณะญาติโยมทั้งหลาย และน่าสรรเสริญในน้ำใจอันดีของวัดวาอาราม พระภิกษุ คณะสงฆ์ทั้งหลาย ที่ได้มีจิตเมตตากรุณาช่วยเหลือเกื้อกูล สงเคราะห์ญาติโยมกันอย่างเต็มที่ จัดกันเต็มรูปแบบ จนกิตติศัพท์การบรรพชา-อุปสมบทที่พระศรีมหาโพธิ์ของคณะศรัทธาชาวไทยลือลั่นไปทั่วดินแดนภารตะของชาวฮินดู ที่ยืนมองดูอย่างชื่นชมผสมปนเปความมึนงงต่อศาสนกิจหรือกิจกรรมที่ก่อเกิดขึ้นในฤดูกาลจาริกแสวงบุญ... ของผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นพุทธบริษัทในพระผู้มีพระภาคเจ้า !!

พระพุทธองค์ตรัสให้ความสำคัญกับสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่งว่า เป็นสิ่งที่ควรจะดู ควรจะได้เห็น ควรจะเกิดความสังเวช (เป็นความสลดใจ เพื่อกระตุ้นเตือนจิตใจให้คิดแต่สิ่งที่ดีงาม) แก่กุลบุตร กุลธิดา ผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในความมีอยู่จริงของพระพุทธศาสนา คือ ความมีอยู่จริงของพระพุทธเจ้า โดยอ้างอิงสถานที่ทั้ง ๔ คือ ที่ประสูติ ตรัสรู้ ทรงแสดงปฐมเทศนา และเสด็จดับขันธปรินิพพาน....

สาระสำคัญยิ่งในความมีอยู่จริงดังกล่าวของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธองค์นั้น ได้แฝงหลักธรรมอันประเสริฐ คือ ความเป็นธรรมดาของสังขารทั้งหลาย ว่ามีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และแตกดับเป็นธรรมดา ที่เรียกว่า พระไตรลักษณญาณ .. ที่หากจิตใจของผู้ใดได้เกิดปัญญารู้เห็นลักษณะธรรมดังกล่าวนี้ ย่อมจะได้ชื่อว่า เกิดธรรมสังเวช ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดนิพพิทาเป็นผล

  การพอกพูนธรรมสังเวชเพื่อให้เกิดนิพพิทา จึงเป็นการสมควรยิ่งต่อการเดินทางไปจาริกแสวงบุญในเขตสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่งในชมพูทวีป และพุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์อีก ๔ แห่งที่สำคัญ เช่น เวฬุวันมหาวิหาร เป็นต้น ซึ่งนั่นหมายถึง การเข้าสู่การเจริญสติปัฏฐาน ๔ หรือการเจริญภาวนา เพื่อพัฒนาให้ธรรมสังเวชเข้าสู่ความเป็นนิพพิทา หรือความหน่ายในสังขารทั้งหลายได้จริง.. และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นแท้จริงของคำว่า ปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง.. อันพูดได้เต็มปากของความเป็นชาวพุทธว่า เป็นการถวายบูชาพระพุทธองค์อย่างสมควรยิ่ง ดังที่ตรัสว่า “การปฏิบัติบูชาต่อตถาคต เป็นการบูชาอันสูงสุด”

ดังนั้น การจาริกแสวงบุญสู่สังเวชนียสถานในชมพูทวีป เพื่อปลูกฝังศรัทธาให้ชักนำไปสู่การปฏิบัติธรรมอย่างมีสติปัญญา จึงเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ ... ไม่ใช่การปลูกฝังความเชื่อแบบไร้เหตุผล ให้ลุ่มหลงอยู่ในม่านมายาแห่งบุญที่ถูกอ้างอิงขึ้นมาด้วยพวกมิจฉาทิฏฐิว่า จะได้บุญกุศลมหาศาลพันลึก หวังว่าตายแล้วไปเกิดในโลกสวรรค์ ... ซึ่งนั่นคงไม่ใช่เป้าหมายแท้จริงของพระพุทธศาสนา !