ไม่อยากเลือกตั้ง ลึก-ลึก..ขอล้ม คสช.

ไม่อยากเลือกตั้ง ลึก-ลึก..ขอล้ม คสช.

เอาเข้าจริง “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” นั้น ไม่ได้อยากเลือกตั้ง แต่พยายามใช้เงื่อนไข “การเลื่อนเลือกตั้ง” ปลุกระดมมวลชนให้เข้าร่วม

เหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา เพียงแต่ยังจุดกระแส “ไม่ติด”

                วันก่อน กลุ่มแดงอิสระนำโดย ฟอร์ด เส้นทางสีแดง ได้ประกาศผ่านสื่อโซเชียล 19 ม.ค.2562 ดีเดย์ ”ไล่ประยุทธ์“ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยกิจกรรม​นี้จะจัดทุกสัปดาห์

                "ฟอร์ด เส้นทางสีแดง" และพลพรรคคนเสื้อแดงคือ กำลังคนที่มาร่วมทำกิจกรรมกับ "จ่านิว" และ "โบว์" พร้อมกลุ่มแดงตะวันตก ได้แก่ ราชบุรี ,นครปฐม, สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม ก็ยังหนุนช่วยอยู่ทุกนัดทุกกิจกรรม

                ในภาคอีสาน และภาคเหนือ กลุ่มที่ร่วมทำกิจกรรม ก็เป็นเอ็นจีโอบางกลุ่ม และแดงฮาร์ดคอร์กลุ่มเล็กๆ

                ด้วยความเชื่อในทฤษฎีการเมืองเก่าๆ พลังประชาชนจะโค่นล้มเผด็จการ มีหนังตัวอย่างจาก 14 ตุลา และพฤษภา 35 เป็นโมเดล อานนท์ นำภา, จ่านิว และโบว์  จึงเดินหน้าปลุกพลังมวลชน ไม่เลิกไม่รา

                ปี 2558-2559 รังสิมันต์ โรม ตั้งขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ต่อต้าน คสช. แต่กลุ่ม นปช. และคนเสื้อแดงยังอยู่ในที่ตั้ง

                ปี 2561 โรมตั้งกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง มาแทนขบวนการเดิม แต่แกนนำหน้าเก่า มีเพื่อนๆหน้าใหม่อีก 4-5 คน มาช่วยนำขบวน

                ปีที่แล้ว กลุ่มคนอยากเลือกตั้งทำกิจกรรมบ่อยมาก และยกระดับ “เดินขบวน” คราวครบรอบปีการยึดอำนาจมวลชนที่เข้าร่วมไม่เยอะ เพราะทดสอบการชุมนุมมา 5-6 ครั้ง และพยายามยกระดับ แต่ทำไม่สำเร็จ

                ตอนนี้ แกนนำคนอยากเลือกตั้งหลายคน ถอยออกไปเล่นการเมืองในสีเสื้อ “พรรคอนาคตใหม่” อย่างรังสิมันต์ โรม และปิยรัฐ จงเทพ ยุทธการค้านการเลื่อนเลือกตั้งรอบนี้ จึงนำโดยจ่านิว และโบว์

                เปรียบเทียบจำนวน “ผู้ชุมนุม” ของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ระหว่าง 8 ม.ค.2562 ที่สกายวอร์ค แยกราชประสงค์ กับ 13 ม.ค.2562 ที่แยกราชประสงค์ มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

                จำนวนผู้เข้าร่วมทำกิจกรรม “ไม่เลื่อนเลือกตั้ง” ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และลดลงเท่ากับ “คนหน้าเดิมๆ” ที่เป็นเอฟซีโบว์ เอฟซีจ่านิว

                แนวรบท้องถนนอาจยังไม่เพิ่มปริมาณ แต่แนวรบโซเชียลมีเดีย กลับเพิ่มทวีจำนวนและความรุนแรงมากขึ้น

                ฝ่ายความมั่นคงต้องประเมินสถานการณ์อย่างที่เป็นจริง หากมิเช่นนั้นแล้ว อาจกลายเป็นผู้จุดชนวนความรุนแรงเสียเอง