เจาะลึก "เสื้อกั๊กเหลือง"ที่ฝรั่งเศส (2)

เจาะลึก "เสื้อกั๊กเหลือง"ที่ฝรั่งเศส  (2)

ยืดเยื้อไม่รู้จะจบเมื่อไรอย่างไร การนัดชุมนุมประท้วงทุกวันเสาร์ในที่สาธารณะของกลุ่ม “เสื้อกั๊กเหลือง” ในหลายเมืองไม่เฉพาะแต่ในกรุงปารีส

ที่ยังดำเนินต่อเนื่องต่อมาอีกหลายเสาร์นับจากครั้งแรกๆที่เกิดความรุนแรงเป็นข่าวไปทั่วโลกตั้งแต่เมื่อกลางพฤศจิกาปีที่แล้ว โดยทุกครั้งมีการก่อความวุ่นวายโดยเฉพาะตั้งสิ่งกีดขวางการจราจรหลายท้องถนนซึ่งนับว่าเป็น ของใหม่สำหรับขบวนการทางสังคมร่วมสมัยในฝรั่งเศส 

ดังที่ดาเนียล ตาตาร์ตาโคว์สกี้ วัย 71 ปีผู้เชี่ยวชาญโดยตรงด้านขบวนการทางสังคมการจลาจลในฝรั่งเศสศตวรรษ 20 ได้ฟันธงไว้ตั้งแต่เสาร์ที่ 3 ที่เสื้อกั๊กเหลืองออกมาแสดงพลัง ว่าผลทางการเมืองของวิกฤติที่ “เสื้อกั๊กเหลือง”เป็นเพียง “อาการ” มิใช่ “สาเหตุ” นี้จะ “ยั่งยืน” ในสังคมฝรั่งเศส

แค่ “อาการ” ก็ส่อแววยั่งยืนอย่างเธอว่า คือชุมนุมประท้วง 9 ครั้งแล้ว ล่าสุดเมื่อ 12 มกรา แม้ว่ารัฐบาลออกยารักษาทันทีตั้งแต่หลังเกิดการชุมนุมหมาดๆ ยอมจัดให้ตามคุณขอมาอย่างเต็มที่เรื่องตรึงราคาน้ำมัน มีแจกมีแถมละเว้นภาษีโบนัส มีโน่นมีนี่ (ซึ่งคุณดาเนียลบอกว่ามาช้าไป ถ้าจัดให้ตั้งแต่ต้นๆก็พอจะมีความหมายอยู่ แต่นี่ไม่สนใจฟังมาตั้งนาน) พร้อมทั้งตำหนิและเตือนว่าจะปราบปรามเอาจริงการชุมนุมที่ไม่ได้รับอนุญาตโดยเฉพาะก่อความรุนแรงทำลายของสาธารณะ ก่อนการชุมนุมประท้วงครั้งล่าสุดทางการประกาศเสียงแข็งว่าจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ทัพใหญ่ไว้ 8 หมื่นคอยรับมือทั้ง ๆที่จำนวนคนออกมาชุมนุมได้ค่อยๆลดลงมาตั้งแต่ได้ออกมาตรการเยียวยาและในการปราบปรามใช้ทั้งแก๊สน้ำตาและวิธีปราบจลาจลต่าง ๆเพียบ

ชุมนุม 9 ครั้ง ถูกจับฐานฝ่าฝืนกฎหมายโน่นนี่ก็ขึ้นหลักหกพันคน ส่วนใหญ่ปรับและปล่อยไป เหลือควบคุมตัวไว้พันกว่าคน กำลังดูกันอยู่ว่าจะลงโทษถึงติดคุกหัวโตหรือไม่อย่างไร

สัญญานที่ไม่ดีเท่าไรสำหรับรัฐบาลก็คือว่า มีคนออกมาชุมนุมในครั้งล่าสุดมากขึ้นกว่าครั้งก่อนหน้า คือแสนกว่าคนในกรุงปารีสและที่เมืองบูรจก์เท่ากับบอกให้รู้ว่าจำนวนผู้ชุมนุมที่ค่อยๆลดลงในครั้งที่ 4,5,6,7,8 ด้วยมาตรการเยียวยาต่าง ๆรวมทั้งการจัดทัพใหญ่รับมือตลอดจนควบคุมตัวผู้ประท้วงส่วนหนึ่งไว้ด้วยนั้น หาได้ผล “ยั่งยืน” แต่อย่างใดไม่

ยิ่งกว่านั้น ผลสำรวจหลายวาระแสดงว่าผู้สนับสนุนกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองยังมีอีกมาก  การเปิดเว็บไซต์รับบริจาคช่วยเสื้อกั๊กเหลืองที่ถูกจับสู้คดีเพราะไปชกหน้าตำรวจในการชุมนุมครั้งหนึ่งปรากฏว่านอกจากได้เงินแสนยูโรในไม่กี่วัน  ยังได้ขยายฐานความคิดเห็นแตกแยกกันเป็นเสี่ยงๆทั่วประเทศ 

ในขณะที่คนในรัฐบาลตำหนิเว็บไซต์ว่าเท่ากับสนับสนุนคนทำผิด ฝ่ายเห็นต่างขนาดระดับอดีตตัวแทนพรรคสังคมนิยมลงแข่งเลือกตั้งประธานาธิบดีผู้โพสต์ว่าการรับบริจาคช่วยคนที่ยังไม่ถูกตัดสินว่าผิดมันจะผิดตรงไหนเล่า นี่แม้แต่ข้อหาก็ยังไม่ได้ตั้งเลย พวกที่ตำหนิต่างหากที่ไม่รู้จักช่วยเหลือครอบครัวของคนถูกจับ

 ตอนนี้เว๊บไซต์บริจาคประกาศปิดแล้ว แต่ความเห็นต่างไม่ได้ปิดลงไปด้วยทั้งในเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆทีปะทุกันขึ้นมา แม้กระทั่งการเสวนาแห่งชาติที่รัฐบาลกำลังจะจัดทุกมุมเมืองผ่านการบริหารส่วนท้องถิ่นและออนไลน์กำลังจะเริ่มขึ้น ๑๗ มกราคมไปจนถึงมีนาคมนั้น ก็ดูท่าว่าจะป้อๆแป้ๆไปเพราะเกิดอื้อฉาวเสียก่อนเรื่องเงินเดือนประจำอันสูงลิบลิ่วของผู้จะมาเป็นประธานจัดการเสวนาฯ ซึ่งทำให้เธอผู้นี้ขอถอนตัว (เธอรับตำแหน่งนี้มาตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีซาร์โคซี) บ้างก็ไม่เชื่อน้ำมนต์การเสวนาที่ว่าแห่งชาตินี้ คาดว่าแค่ได้กระดาษมาเขียนความคิดเห็นซึ่งเมื่อส่งไปแล้วทุกอย่างก็จะเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ดููแล้วอาการน่าจะยืดเยื้อเรื้อรังต่อไปอีก  

กลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองได้จัดระเบียบย้อนหลังให้การชุมนุมแต่ละครั้งเป็น  “องก์” (Acte)มีลำดับแบบปรากฎการณ์ต่อเนื่อง  เสมือนว่าแต่ละครั้งแต่ละองก์มีความเกี่ยวเนื่องกันแบบเดียวกับละครที่มีหลายองก์กว่าจะจบ  โดยนับการชุมนุมประทัวงครั้งแรกว่าเป็น องก์ที่ 1” 

มาจนถึง “องก์ที่ 9” ครั้งล่าสุด การชุมนุมประท้วงของเสื้อกั๊กเหลืองยังเป็นแบบเดิมคือออกไปชุมนุมตามนัดในเครือข่ายสังคมโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่เสื้อกั๊กเหลืองก่อหวอดกว้างขวางมาแต่ต้น(ต่างจากแต่ก่อนที่ชุมนุมประท้วงใหญ่ระดับชาติต้องเกิดและต้องขนมากันที่เมืองหลวง ขนาดเกษตรกรก็ต้องเอาวัวเอาแพะของตนเข้าเมืองหลวงด้วยก็เคยมี) ไม่มีใครเป็นหัวหน้าอย่างเป็นกิจลักษณะ ไม่มีจัดตั้งจากฝ่ายการเมืองหรือจากสหภาพที่เคยเป็นเสาหลักแต่ก่อนในการชุมนุมประท้วงมาตั้งแต่หลังค.ศ.1968 มาจนขึ้นต้นๆ ค.ศ.2000 ไม่ชูอุดมการณ์ทางการเมืองใด คือไม่ซ้ายไม่ขวาอย่างที่เคยเป็นๆมาตามแบบฉบับประชาธิปไตยเลือกตั้งที่พรรคการเมืองเสนอตัวเสนออุดมการณ์แบ่งเป็นสองฝักฝ่าย โดยในเมื่อไม่มีอุดมการณ์การเมืองอะไร คุณดาเนียลบอกว่าก็เลยต้องใช้สีมานิยามกลุ่ม(ตรงนี้ต่างจากกลุ่มสีต่างๆ ในบ้านเราจนไม่ควรนำมาเทียบกัน ของเรามีอุดมการณ์ทางการเมืองโดดเด่น มีการเมืองหนุนหลังโจมตีใส่ร้ายป้ายสีกัน) คุณดาเนียลชี้ให้เห็นว่าการไร้อุดมการณ์ชัดเจนไม่ซ้ายไม่ขวาของเสื้อกั๊กเหลืองเป็นภาพสะท้อนในกระจก(l'effectmiroir)จากพฤติกรรมขบวนการนายมาครงที่ไม่ซ้ายไม่ขวามาตั้งแต่แรกเริ่ม

เธอวิเคราะห์การชุมนุมกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองเป็นฉากๆว่าทำอะไรและอธิบายได้อย่างไร  ที่แหลมคมคือวิเคราะห์ถึง จินตนาการ” ( l'imaginaire ) ของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองต่างจังหวัดที่เข้ากรุงปารีสแล้วก็ไม่ได้ตรงดิ่งไปสถานสำคัญสัญลักษณ์ความเสมอภาค ประชาธิปไตยอะไร อย่างเช่น คุกบาสติญญ์  หรือลานแห่งสาธารณรัฐ แต่ตรงไปชุมนุมยึดพื้นที่ย่านช้อปปิ้งสุดหรูบนถนนชองป์เซลีเซ่ มีการทำลายและขโมยข้าวของในร้าน ในส่วนนี้น่าสนใจ พอหยิบยืมมาเปรียบได้กับการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะของกลุ่มคนเสื้อสีที่เข้ายึดพื้นที่สี่แยกราชประสงค์ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อ พ.ศ.2553 ( ตอนต่อไปจะยังคงอยู่ในหัวข้อ:วิกฤติอะไรนำมาสู่ “เสื้อกั๊กเหลือง”)