จากนางวันทอง .. สู่ประชาธิปไตยแบบไทยๆ !!

จากนางวันทอง .. สู่ประชาธิปไตยแบบไทยๆ !!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา มองการเรียกร้องประชาธิปไตย

ที่ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งมากกว่าการพัฒนาคุณภาพจิตวิญญาณของมหาชนเจ้าของอธิปไตย.. จึงให้นึกปลงๆ ว่า คงยากที่สังคมไทยเราจะสงบสุข หากคนส่วนหนึ่งในสังคมมีทิฐิเช่นนี้

การหลงเข้าไปติดกับระบบประชาธิปไตยที่ไร้คุณธรรม จึงกลายเป็นโทษภัยเมื่อเกิดระบบมาราธิปไตยของกลุ่มชนที่ไม่เคารพ .. ไม่ประพฤติธรรม จึงก่อเกิดระบบคณาธิปไตยขึ้น เมื่อคนไร้ศีลธรรมรวมตัวกันเพื่อใช้โอกาสตามกฎหมายเดินเข้าสู่การมีอำนาจ เพื่อปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน ทำร้ายประชาชน

สังคมไทยจึงเกิดการแบ่งเป็นฝักฝ่ายอย่างชัดเจน ยิ่งนานวันยิ่งหลากหลาย ด้วยความเปราะบางของระบบศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรมของสังคม ที่นับวันได้ถูกทำลายให้อ่อนแอลง ทั้งจากภายในสังคมและโดยอิทธิพลภายนอกตามกระแสโลก เราจึงมองเห็นความโกลาหลวุ่นวายที่ไร้รูปแบบมากขึ้นในทุกเรื่อง จนสังคมต้องเรียกร้องให้มีการใช้มาตรการทางกฎหมายที่เข้มแข็ง ... กระบวนการยุติธรรมที่มีศักยภาพจึงเป็นปราการด่านสุดท้ายที่สังคมคาดหวังและฝากความหวัง..

จึงไม่แปลกที่จะเห็นกระแสความวุ่นวายในระยะเริ่มต้นของการกลับคืนสู่ระบบประชาธิปไตย ที่ยังให้ความสำคัญกับการเลือกตั้ง ว่านั่นแหละคือการใช้อำนาจปกครองแผ่นดินโดยเสียงข้างมากที่มาจากเจ้าของแผ่นดินคือประชาชน... อันเป็นไปตามระบบประชาธิปไตยที่ทั่วโลกนิยม.....

จริงๆ แล้ว มิได้ผิดเพี้ยนไปจากตรรกะประชาธิปไตยโลกเลย ในการยกเสียงประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน หากเสียงของประชาชนเป็นเสียงของวิญญูชน .. ที่มีความเป็นอิสระทางจิตวิญญาณ ไม่ถูกจูงใจบังคับควบคุมด้วยโลกาอามิส ที่อ้างอิงอำนาจโลกธรรม และจะไม่แปลกเลยหากพื้นฐานของสังคมยังมีระบบศีลธรรม จริยธรรม .. ที่เข้มแข็ง ดำเนินไปตามวิถีธรรมในพุทธศาสนา.... การส่งถ่ายอำนาจของประชาชนไปใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการปกครอง เพื่อประโยชน์ของประชาชนและแผ่นดิน ก็ย่อมเป็นไปได้สมจริงตามทฤษฎีประชาธิปไตยทันที หากกระบวนการส่งถ่ายอำนาจของประชาชนเป็นไปตามวิถีธรรม เพื่อการใช้อำนาจให้เป็นธรรม ... มิใช่ใช้ธรรมให้เป็นอำนาจ!!

แต่ในวิถีประชาธิปไตยแบบบ้านเรา กลับผิดแผกไป... ดังที่ปรากฏ ซึ่งหากจะเปรียบเปรยคงมิต่างไปจากเรื่องนางวันทองสองใจ .. ตามนิทานปรัมปราพื้นบ้านสมัยก่อน ที่ถูกผู้ชายสองคนแย่งชิงฉุดคร่าอนาจารด้วยวิธีต่างๆ นานา อันสะท้อนให้เห็นภาพสังคมที่ไร้ศีลธรรมผ่านตัวละครบุรุษเพศทั้งสองที่ชื่อขุนช้าง.. ขุนแผน... ที่ชาวไทยเดิมรู้จักกันดี...

เสมือนดังที่เราเห็นระบบประชาธิปไตยในบ้านเราที่ถูกปล้น ถูกทำลาย ถูกขืนใจดึงเข้ามารองรับตัณหาของกลุ่มคน เพื่อสนองตอบความต้องการของตนและคณะ.. ที่หากมีโอกาสเมื่อไหร่ ก็จักอ้างความชอบธรรมตามหลักปริมาณ เพื่อขืนใจระบบประชาธิปไตยทันที ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนักเลือกตั้งหรือฝ่ายรัฐประหาร... ระบบประชาธิปไตยบ้านเราจึงน่าชอกช้ำใจเสมือนนางวันทอง ที่นอกจากจะถูกคุกคามทางเพศแล้ว ยังถูกตราหน้าจากสังคมในสมัยนั้นอีกว่า.. นางวันทองสองใจ !!

เจริญพร

[email protected]