คงปฏิเสธไม่ได้แล้ว ปัจจุบันนี้ ก็คงมีแต่สหรัฐและจีน ที่สามารถแข่งขัน เพื่อช่วงชิงความเป็นอันดับหนึ่ง ในเทคโนโลยีดิจิทัล
กรณีของหัวเหว่ย ที่บุตรสาวผู้ก่อตั้ง ถูกควบคุมตัวในแคนาดา เพื่อพิจารณาส่งตัวให้กับสหรัฐอเมริกา รวมทั้งกรณีที่สหรัฐและประเทศพันธมิตรห้ามมิให้ใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมของหัวเหว่ยด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง และกรณีใหม่ของแอปเปิล ที่แพ้คดีด้านสิทธบัตรในประเทศจีน ส่งผลให้ไอโฟนบางรุ่น ถูกห้ามขายในประเทศจีน
ทั้งหมดนี้อาจสะท้อนถึง สงครามการค้าที่แฝงด้วยยุทธวิธีทางการเมือง ระหว่างสหรัฐและจีน
หากไม่ได้พิจารณาอย่างถ้วนถี่ อาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่า 1. เป็นสงครามระหว่างอภิมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทั้งสองราย ซึ่งไม่เกี่ยวกับประเทศอย่างเรา และ 2. เป็นสงครามระหว่างชาติฝรั่งกับประเทศจีน โดยฝรั่งร่วมมือกันด้วยความสามัคคี
สถานการณ์ที่แท้จริง มีความสลับซับซ้อนยิ่งกว่านั้น และมีบทเรียนที่สำคัญ สำหรับประเทศอย่างเรา
เบื้องหลังสงครามอันยิ่งใหญ่ระหว่างสหรัฐและจีน ชาติฝรั่งจำนวนมากในยุโรปได้ต่อสู้กับธุรกิจข้ามชาติสัญชาติอเมริกันมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคดีความด้านข้อมูลส่วนบุคคล หรือความพยายามที่จะเก็บภาษีกับธุรกิจข้ามชาติเหล่านี้
ล่าสุดฝรั่งเศส ก็เป็นฝรั่งอีกชาติหนึ่งที่ประกาศจะเก็บภาษีจาก กูเกิล แอปเปิล เฟสบุ๊ค และ อเมซอน ที่ปัจจุบัน มีข้อกล่าวหาว่าธุรกิจเหล่านี้ ได้บันทึกรายได้ ในประเทศที่ภาษีต่ำที่สุดในยุโรป เช่นไอร์แลนด์ ทำให้ประเทศที่ธุรกรรมเกิดขึ้นจริง หรือประเทศที่ถูกใช้เป็นตลาด อาจไม่สามารถเก็บภาษีจากธุรกิจเหล่านี้ได้เลย
ไอร์แลนด์ ถูกกำหนดเป็นสำนักงานใหญ่ของทั้งกูเกิลและเฟสบุ๊คในยุโรป และเป็นผู้ได้เปรียบแต่เพียงผู้เดียวในยุโรป จากพฤติการณ์ของธุรกิจข้ามชาติเหล่านี้
ก่อนหน้านี้ 28 ชาติฝรั่งในสหภาพยุโรป ได้ร่วมประชุมเพื่อกำหนดมาตรการการเก็บภาษีจากธุรกิจข้ามชาติสัญชาติอเมริกัน แต่กลับไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากไอร์แลนด์ ผู้ซึ่งได้ประโยชน์ ได้คัดค้าน และมาตรการของสหภาพยุโรป จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากทุกชาติ จึงอาจเป็นการปิดตายทางการเมือง ที่ทำให้ธุรกิจสัญชาติอเมริกันเหล่านี้ สามารถลอยนวลได้ต่อไป
ความเด็ดเดี่ยวของฝรั่งเศส คือการที่ไม่ต้องคอยทุกชาติในยุโรปอีกต่อไป และได้ประกาศมาตรการการเก็บภาษีธุรกิจข้ามชาติเหล่านี้ โดยเฉพาะของฝรั่งเศสมาเลย
เยอรมัน ก็เป็นอีกชาติฝรั่ง ที่ร่วมผลักดันพร้อมกับฝรั่งเศส เพื่อทวงคืนสิทธิที่จะเก็บภาษีจากธุรกิจอเมริกันเหล่านี้
ในอีกประการหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับเยอรมัน คือการปฏิเสธที่จะร่วมวงไม่ใช่สินค้าของหัวเหว่ย ร่วมกับสหรัฐอเมริกาและประเทศพันธมิตร โดยอ้างว่าหลักฐานไม่เพียงพอ
บทเรียนที่น่าสนใจ สำหรับประเทศของเรา คือแม้แต่ในกลุ่มของประเทศฝรั่ง ก็ไม่มีใครยอมใคร และ “อเมริกาไม่ใช่พ่อ” สำหรับหลายชาติในยุโรป ซึ่งประเทศเหล่านี้ ล้วนต่อสู้ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการค้าของชาติตัวเอง ซึ่งในหลายกรณี ก็เป็นความเสียเปรียบที่เกิดขึ้นในประเทศของเราเช่นกัน
เพียงแต่เมื่อใด ประเทศของเราจึงจะตอบโต้