บัตรเปลี่ยน “สูตรการเมือง”เปลี่ยน?
ในที่สุดประเด็น “บัตรใบเดียว” เลือกตั้งสองระบบ ที่ถกเถียงกันมา ก็ได้ข้อยุติ เมื่อ กกต.สรุปว่า ให้มีทั้ง “โลโก้พรรค ชื่อผู้สมัคร พร้อมเบอร์
งานนี้ 2 พรรคใหญ่อย่าง เพื่อไทย และ ประชาธิปัตย์ ที่ลุ้นยิ่งกว่าพรรคไหนๆ “มีเฮ”
สืบเสาะจากทีมยุทธศาสตร์ค่ายเพื่อไทย ได้ความว่า “หวยออกแบบนี้ เราหาเสียงง่าย” บอกชาวบ้านว่า ไม่ต้องจำเบอร์ให้สับสน แค่ “จำโลโก้พรรค” เห็นโลโก้พรรคตรงไหน ขอให้“กา”ผู้สมัครเบอร์นั้น ...ง่ายๆ อย่างนั้นเอง
ถึงจะไม่ให้ใช้หน้า “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ก็ไม่สำคัญ งานนี้ เดินหน้าใช้ “โลโก้พรรค” หาเสียงเป็นหลัก
มุมของนักเลือกตั้งค่ายใหญ่อย่างเพื่อไทย ก็น่าคิด... เพราะถึง คสช.จะเปลี่ยนโครงสร้างกฎหมาย ปรับเปลี่ยนกติกาเลือกตั้ง แต่เปลี่ยน “วิธีคิดของคน” ได้หรือไม่
เพราะผลเลือกตั้ง คงไม่ได้ขึ้นอยู่กับกติกาเป็นหลัก แต่ขึ้นอยู่กับคนที่จะเลือก "คนที่ใช่ พรรคที่ชอบ”
ที่สำคัญ ผลงานของ รัฐบาล คสช. จะส่งผลต่อ “พรรคพลังประชารัฐ” ตามที่คาดหวังว่าจะเอาชนะใจชาวบ้าน จนได้รับเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่งได้หรือไม่
เที่ยวนี้ 2 พรรคใหญ่อย่างเพื่อไทย และประชาธิปัตย์ ถึงมั่นอกมั่นใจในฐานที่มั่นหลักของตัวเองว่า “ถ้าวิธีคิดของแฟนคลับไม่เปลี่ยน คะแนนในฐานที่มั่น ก็จะไม่เปลี่ยน ชนิดพลิกหน้ามือหลังมือ”
ที่น่าจับตาคือ “สูตรการเมือง” ที่บางพรรค มีความพยายามจับขั้วหลวมๆ กันไว้
เวลานี้ ตัวแปร "พรรคขนาดกลาง-ขนาดเล็ก" ทำท่าจะ “ลังเล” หลังจากที่ "เท“ ให้พลังประชารัฐ”
โดยหยิบยกประเด็น ความได้เปรียบ เสียเปรียบจากรูปแบบ “บัตรเลือกตั้ง” รอบนี้ ที่จะมีผลต่อคะแนน ถกกันอย่างเคร่งเครียด
ในเมื่อประเมินสถานการณ์แล้ว คสช.คงไม่อาจบี้ “เพื่อไทย” และพรรคลูก พรรคเครือข่าย ให้สิ้นซากไปจากกระดานการเมืองไทยได้ แถมสารพัดเครือข่าย ยังพร้อมขยายสายพันธุ์ ไม่ยอมถูกทำลาย
“บัตรเลือกตั้งใบเดียว” กำลังถูกนักเลือกตั้งจับจ้องว่า อาจพลิกสถานการณ์ จนส่งผลไปถึง “สูตรการเมือง” แน่นอน
พรรคแนวร่วมมีโอกาส “เท” พลังประชารัฐ ในวันเลือกตั้ง!