ยุคข้อมูลมีค่า ความปลอดภัยจึงสำคัญ

ยุคข้อมูลมีค่า ความปลอดภัยจึงสำคัญ

แฮกเกอร์ไม่มีวันหยุดหาช่องโหว่เพื่อเจาะเข้าระบบ

ในโลกยุคใหม่ที่นำเอาข้อมูลทุกอย่างออกจากการเก็บในกล่องหรือในแฟ้มเอกสารขึ้นไว้บนคลาวด์ แน่นอนว่าข้อมูลเหล่านั้นที่นำขึ้นไปเพื่อกันสูญหาย หรือค้นหาได้สะดวกจากทุกที่ ไม่ใช่แค่ข้อมูลธรรมดา

แต่รวมถึงข้อมูลสำคัญ ความลับต่างๆ โดยเฉพาะข้อมูลส่วนตัวของพนักงานและลูกค้า ดังนั้นข้อมูลเหล่านี้จึงมีค่าอย่างมาก และกลายเป็นสิ่งที่เหล่ามิจฉาชีพออนไลน์หมายปองเพื่อสร้างรายได้

จึงไม่แปลกที่มักได้เห็นข่าวการโจมตีเพื่อขโมยข้อมูล หรือเรียกค่าไถ่ข้อมูล อยู่เป็นประจำ และในขณะที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับเหล่าแฮกเกอร์แต่นั่นได้สร้างความเสียหายมหาศาลทั้งทรัพย์สินและชื่อเสียงให้กับเหยื่อทั้งหลายด้วยเช่นกัน

ตลอดปีที่ผ่านมา ทั่วโลกต่างเผชิญกับเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลหลายครั้งซึ่งแต่ละครั้งต่างสร้างความตื่นตระหนกอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อข้อมูลรั่วไหลจากเหล่าบริษัทหรือองค์กรชั้นนำระดับโลก เริ่มจากเหตุการณ์ล่าสุดที่นับได้เป็นเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่อันดับสองของโลกยุคปัจจุบัน ที่ข้อมูลแขกของโรงแรม Marriot เครือโรงแรมชื่อดังของ Starwood ที่รั่วไหลถึง 500 ล้านบัญชี 

โดยเหตุการณ์ของ Marriot มีจำนวนผู้ได้รับผลกระทบรองจากการโจมตียาฮูซึ่งมีจำนวนข้อมูลรั่วไหล 3 พันล้านบัญชี และเหตุการณ์อื้อฉาวที่สร้างความตื่นตระหนกกับผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คทั่วโลกคงหนีไม่พ้นเฟซบุ๊คที่เกิดข้อมูลผู้ใช้งานรั่วไหลไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบัญชี ซึ่งในอดีตยังมีโซเชียลที่เป็นที่รู้จักกันดีอย่างในปี 2555 ทาง LinkedIn ออกมาแถลงว่าถูกขโมยพาสเวิร์ดของผู้ใช้งานไปได้ถึง 117 ล้านบัญชี และต่อมาในปี 2559 มายสเปซ ปล่อยให้ข้อมูลบัญชีทั้งชื่อและพาสเวิร์ดรั่วไหลถึง 360 ล้านบัญชี

ไม่ใช่แค่กลุ่มโรงแรมหรือบริษัทผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์เท่านั้น เหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลยังกระจายวงกว้างกระทบอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนรวมถึงหน่อยงานรัฐบาล อาทิ ในปี 2560เกิดเหตุการณ์ข้อมูลลูกค้าของบริษัท Equifax บริษัทข้อมูลเครดิตรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา โดยมีข้อมูลลูกค้ารั่วไหลมากกว่า 145.5 ล้านคน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่รวมทั้งที่อยู่และเลขประกันสังคม กระทรวงสาธารณสุขประเทศนอร์เวย์ ที่ถูกแฮกเกอร์ขโมยข้อมูลส่วนตัว บันทึกสุขภาพของประชาชนนอร์เวย์ไปได้ถึง 2.9 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 5.2 ล้านคน

หรือบริษัทด้านมือถือ Sungy Mobile ผู้ให้บริการและพัฒนาแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นบนมือถือชื่อดังระดับโลกในจีน พบข้อมูลรั่วไหลถึงกว่า 50.5 ล้านบัญชี นอกจากนั้นยังมีสายการบินระดับชาติอย่าง Canada Airline, Cathay Paicific Airline และ British Airways รวมถึงองค์กรขนาดใหญ่จำนวนมากจากทั่วโลกต่างตกเป็นเหยื่อของเหล่าแฮกเกอร์ไม่เว้นทั้งภาครัฐและเอกชนไม่ว่าจะเป็นกูเกิล, ไมโครซอฟท์, อินเทล, อูเบอร์, เอฟบีไอ, กองทัพอากาศสหรัฐ และเหล่าร้านค้าช้อปปิ้งออนไลน์ชื่อดังทั้งหลาย

แฮกเกอร์ต่างไม่มีวันหยุดนิ่งในการหาช่องโหว่เพื่อเจาะเข้าระบบขโมยข้อมูลสำคัญอย่างแน่นอน และเมื่อองค์กรของคุณมีผู้ใช้งานและลูกค้าจำนวนมากหรือกระจายตัวทั่วโลกแล้วย่อมตกเป็นเป้าหมายอย่างแน่นอน 

เพราะผลตอบแทนจากการโจมตีย่อมสูงล่อตาล่อใจเหล่าแฮกเกอร์ ดังนั้นเหล่าเจ้าขององค์กรและผู้ดูแลระบบคงต้องมีคำตอบที่เป็นรูปธรรมมากพอของคำถามที่ว่า “ระบบด้านความปลอดภัยของระบบของคุณดีพอแล้วหรือยัง” แน่นอนผลที่ตามมาไม่ใช่แค่ทรัพย์สินที่สูญเสีย ชื่อเสียงและความเชื่อใจของลูกค้า คือสิ่งที่มีค่าที่สุดและใช้เวลาในการสร้างนานกว่ารายได้แน่นอน