“คน”ที่ทำให้ทุกอย่าง ล้มเหลวหรือยิ่งใหญ่!

เรื่องราวเหล่านี้มีให้เห็นเป็นกรณีศึกษามากมายให้ทุกท่านได้เรียนรู้จากหนังสือต่างๆ และลองสังเกตดูสิครับ...องค์กรที่เคยยิ่งใหญ่แล้วล้มหายตายจากไป ไม่ใช่เกิดจากพนักงานระดับปฏิบัติการ!

บางที่เกิดจากสินค้าหรือบริการตกยุค ถูกคู่แข่งรายใหม่ที่ใหญ่กว่า หรือสดใหม่กว่ามาโค่น และในปัจจุบันที่หลายๆธุรกิจกำลังทยอยล้มหายตายจาก มักจะเกิดจากการถูก Disruption ด้วยเทคโนโลยี แต่เกือบทุกที่ ที่ล้มหายตายจาก มักจะเกิดจาก บุคคล“เพียงคนเดียว!”

เป็นเรื่องจริงครับที่องค์กรจะไปได้ไกล และประสบความสำเร็จมากหรือน้อย“ขึ้นอยู่กับคุณภาพของทีมงานที่มี” และการปรับตัวให้ถูกจังหวะกับทุกการเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งมีนวัตกรรมในหลายๆ เรื่อง แต่ทุกเรื่อง ก็ขึ้นอยู่กับ “คนเพียงคนเดียว!” ที่จะเป็นผู้กำหนดทิศทางขององค์กร และองค์กรจะ แพ้หรือชนะ อยู่ที่...“คนๆนี้เพียงคนเดียว”!

คนๆ นี้ จะเป็นผู้บอกและถ่ายทอดวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน

คนๆ นี้ จะเป็นผู้ที่มีมือรองหลายๆคนที่แต่ชะคนจะเก่งในแต่ละด้าน แต่ทุกด้านจะผสานหลอมรวมให้เกิดพลังผนึก (Synergy) ร่วมกัน จนขับเคลื่อนแต่ละหน่วยงานหนุนให้องค์กรไปสู่ความสำเร็จ

คนๆ นี้จะเป็นทั้ง“ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง”และ“ผู้นำการเปลี่ยนแปลง”ให้เกิดขึ้นในองค์กร

คนๆ นี้จะทำให้ ธุรกิจที่มีสินค้าหรือบริการธรรมดาๆ กลายเป็น สินค้า-บริการที่ “ไม่ธรรมดา” มีสีสันเพิ่มขึ้น มีความโดดเด่นที่น่าดึงดูด มีคุณภาพและคุณค่ามากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ด้วยทีมงานเพียงไม่กี่คนและเกิดขึ้นได้ด้วยการนำที่ ถูกที่ ถูกเวลา เหมาะกับสถานการณ์ และการชี้นำของ “คนๆนี้”

มีตัวอย่างมากมายทั้งระดับโลกและระดับประเทศ ที่องค์กรอยู่ในภาวะใกล้ล่มสลาย แต่ก็พลิกฟื้นกลับขึ้นมาได้ ไม่ใช่แค่รอด แต่เติบโตยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วย วิสัยทัศน์ ด้วยความกล้าที่จะคิด กล้าที่จะตัดสินใจ กล้าที่จะลงมือทำ ซึ่งอาจจะต้องเผชิญกับแรงต้าน เผชิญกับอุปสรรคมากในช่วงแรกๆ แต่คนๆนี้ก็ไม่ถอยถึงแม้จะมีอาการท้อบ้าง

แต่ทั้งหมดเกิดจาก การนำของ “คนเพียงคนเดียว” ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ คัดเลือกทีมงานระดับขุนพลให้ร่วมคิด ร่วมเปลี่ยน ร่วมพลิกฟื้น....และร่วมสร้างขึ้นมาใหม่!

ไม่ว่าจะบริหารองค์กรขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่...(แม้กระทั่งบริหารประเทศก็ตาม!) “คนเพียงคนเดียว” จะต้องแยกแยะให้ได้ว่าใครคือ “อุปสรรค และ ตัวปัญหาที่แท้จริง” ที่จะทำให้องค์กรล่มสลาย...(คนๆนั้นอาจจะยังอยู่ในองค์กร หรือ ออกจากองค์กรไปแล้วยังคงสร้างความปั่นป่วนได้ก็ตาม!) และต้องกล้าที่จะจัดการด้วยความเด็ดขาดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน...โดยไม่รอให้ปัญหาบานปลายแล้วค่อยไปตามล่าตามล้าง เพราะไม่สามารถกู้ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับองค์กรที่ล่มสลายไปแล้วให้กลับมาได้...เรียกว่า “ชนะบนความพ่ายแพ้”ไม่มีประโยชน์ !

“คนนี้เพียงคนเดียว” จะต้องสามารถสร้าง “ผู้นำย่อยและผู้นำร่วม” ในทุกสายงาน ค่อยๆเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร และผนึกพันธมิตรร่วมให้แข็งแกร่ง และต้องมองภาพใหญ่ของปัญหาที่เจอให้ออกว่า...กำลังแก้ที่ปลายเหตุของปัญหา หรือกำลังแก้ปัญหาที่แท้จริง...หรือยังเข้าไม่ถึงตัวปัญหาด้วยซ้ำไป!

องค์กรใดก็ตาม ที่ “คนๆนี้” อ่อนแอ ขาดภาวะผู้นำ และไม่รับมือกับการเปลี่ยนแปลง หรือไม่ยอมเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ต่อให้องค์กรนั้นจะเคยยิ่งใหญ่มายาวนาน (ด้วยความสามารถของผู้นำในยุคที่ผ่านมา)

แต่อีกไม่นาน องค์นั้นจะล่มสลายไปแบบไม่ทันตั้งตัว!

เพราะฉะนั้น “คนเพียงคนเดียว” ของทุกองค์กร ที่จะเป็นผู้ที่ “นำองค์กรไปสู่ความล้มเหลว ล่มสลาย” หรือจะนำองค์กร “ไปสู่ความสำเร็จทั้งระยะสั้นและระยะยาว” คนๆนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ ก็คือ “ผู้นำองค์กร”ที่มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการนั่นแหละ !

คนที่เป็นผู้ตามในแต่ละองค์กร ต่างก็คอยเฝ้าดูผู้นำของตนเอง ...ไม่ว่าผู้นำจะคิดหรือจะทำอะไรก็ตามล้วนมีผลกระทบต่อผู้ตามทุกคน และผู้ตามทุกคนก็พร้อมที่จะเป็นผู้นำย่อยและผู้นำร่วม ถ้าได้รับการนำที่ดีจาก ผู้นำองค์กร.....สรุปแล้ว คนเพียงคนเดียวจริงๆ ที่จะทำให้ทุกคนแพ้หรือชนะ !