เก็บตกงาน HongKong FintechWeek 2018

เก็บตกงาน HongKong FintechWeek 2018

เกาะฮ่องกงแม้ว่าในเชิงพัฒนาการของฮ่องกงที่มีต่อฟินเทคจะยังไม่เทียบเท่ากับประเทศสิงคโปร์

ไม่นานมานี้ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน HongKong Fintech Week 2018 ที่เกาะฮ่องกงแม้ว่าในเชิงพัฒนาการของฮ่องกงที่มีต่อฟินเทคจะยังไม่เทียบเท่ากับประเทศสิงคโปร์แต่ด้วยความเป็นศูนย์กลางทางด้านการเงินมาอย่างยาวนานและเม็ดเงินมหาศาลที่พร้อมลงทุนในฟินเทค(โดยเฉพาะจากประเทศจีน)ทำให้ไม่สามารถมองข้ามฮ่องกงไปได้

ภาพรวมงานฟินเทคที่มาออกบูธส่วนใหญ่จะเป็นทางด้าน Wealth Management ,AI รวมถึง Blockchain แอบผิดหวังว่ามีฟินเทคมาออกบูธน้อยไปนิดส่วนใหญ่ยังเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่โดยเฉพาะจากจีนที่มาออกยิ่งปีนี้งานมีคอนเซบท์ว่า Fintech Cross Border โดยยกการจัดงานในวันที่สามไปยังนครเซิ่นเจิ้นของจีนที่อยู่ติดกันทำให้ภาพที่เคยได้ยินมาว่ากลุ่มทุนจีนมีอิทธิพลต่อฟินเทคของฮ่องกงอย่างมากน่าจะเป็นจริงเป็นเหตุให้ฟินเทครายใหญ่และรายเล็กไม่กล้าที่จะเจาะตลาดฮ่องกงเพราะหวั่นที่จะแพ้เม็ดเงินจากแดนมังกร

อุปสรรคอีกอย่างที่ทำให้พัฒนาการของวงการฟินเทคฮ่องกงยังไปได้ไม่ไกลมากเป็นเพราะหน่วยงานกำกับดูแลค่อนข้างที่จะได้ชื่อว่าเคี่ยวและยังมีหัวอนุรักษ์นิยมอยู่มากต่างจากสิงคโปร์ที่ค่อนข้างหัวก้าวหน้ามากกว่าโดยเฉพาะวงการ Blockchain และ Crypto ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีกฎหมายออกมากำกับดูแลหรือส่งเสริมแต่อย่างไรนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้Exchangeชื่อดังอย่าง Binance,OKEX,Huabi ถึงแยกตัวออกไปขอใบอนุญาตและเริ่มขยายการลงทุนที่ประเทศมอลต้าแทน

อย่างไรก็ตาม นายแบงก์ฮ่องกงที่ผมได้ไปสนทนามาด้วยต่างบอกว่าให้ความสนใจในธุรกิจ Blockchain และ Crypto เป็นอย่างมากและมีเม็ดเงินมหาศาลพร้อมที่จะเข้าลงทุนแม้ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา Event เกี่ยวกับการเสนอขาย ICO จะซบเซาลงไปอย่างมากจากการที่ตลาดอยู่ในภาวะหมีแต่หากมีโปรเจคท์ที่มีศักยภาพมีพื้นฐานรองรับก็มีเม็ดเงินพร้อมจะลงทุนโดยเฉพาะโทเคนประเภท STO (Securities Token Offering)ซึ่งมีสินทรัพย์หนุนหลังแต่น่าเสียดายที่ทางการฮ่องกงดูจะไม่สนใจในการสนับสนุนเท่าไรนัก ตรงนี้อาจเป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะดูดเม็ดเงินลงทุนเหล่านี้เข้ามาได้เพราะเรามีกฎหมายรองรับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ชัดเจนกว่าประเทศอื่นๆ

สำหรับประเด็นอื่นๆที่น่าสนใจขึ้นชื่อว่าตลาดหุ้นฮ่องกงถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตลาดที่มีขนาดใหญ่อันดับต้นๆของโลกคนฮ่องกงส่วนใหญ่เป็นคนชอบเทรดชอบลงทุนทำให้ฟินเทคสาย Wealth Management มีสัดส่วนค่อนข้างมากในวงการฟินเทคของฮ่องกง ภายในงานนี้ก็มีมาออกบูธจำนวนมากเช่นกันมีตั้งแต่ซื้อขายกองทุนรวมด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำมากหรือ Robo Advisor ที่สามารถปรับพอร์ตและลงทุนได้ทั่วโลกภายใต้ค่าธรรมเนียมที่ต่ำมากบางรายก็เป็นDigital Platformเต็มรูปแบบบางรายก็ผสมผสานบริการให้คำปรึกษาการลงทุนแบบดั้งเดิมลงไปด้วย

ภาพรวมของงานถือว่าขนาดค่อนข้างเล็กกว่าที่คาดไว้อาจเป็นเพราะฮ่องกงเพิ่งจะเริ่มจัดงานอีเวนท์แบบนี้ได้ไม่นานนักและยังตามหลังสิงคโปร์อยู่หนึ่งก้าวแต่ด้วยความมุ่งมั่นจริงจังของผู้จัดงานอย่าง InvestHK และเม็ดเงินมหาศาลที่รออยู่ฮ่องกงจึงเป็นดินแดนที่ชาวฟินเทคห้ามละสายตาทีเดียว