มั่นใจเต็มร้อย (จบ)

มั่นใจเต็มร้อย (จบ)

อย่าปล่อยให้ความคิดที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางครอบงำ

การสร้างความมั่นใจให้ตนเองเป็นปัจจัยสำคัญของคนทำงานในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจ ผู้บริหาร รวมถึงพนักงานทั่วไปที่แสวงหาความสำเร็จ ครั้งที่แล้วได้เกริ่นไปแล้วถึงหลักการทั้งหมดจำนวน 8 ข้อ มาต่อกันใน 4 ข้อที่เหลือในฉบับนี้

ข้อที่ 9 พร้อมรับโอกาสใหม่ๆ เสมอ เพราะหลายคนพลาดโอกาสที่ดีในชีวิตไปเพียงเพราะความไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจในตัวเอง ในขณะที่บางคนก็กังวลเรื่องครอบครัว กลัวเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ ทำให้ไม่กล้ารับความท้าทายใหม่ๆ จึงพลาดโอกาสที่จะได้ลองทำสิ่งใหม่ที่อาจเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ในอนาคต

การห่วงหน้าพะวงหลังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เราก้าวไปไหนไม่ได้ ในขณะที่บางคนจะเตรียมพร้อมกับทุกช่วงของชีวิตจึงจัดการทุกอย่างรอบตัวไว้พร้อมแล้ว เมื่อโอกาสมาถึงจึงคว้าไว้ได้ทันทีโดยไม่ต้องคิดกังวลกับทุกเรื่องรอบข้างเหมือนคนทั่วไป

ข้อที่ 10 อย่าขี้เหนียวคำชม เพราะการชมคนอื่นว่าดีและเก่งไม่ได้มีต้นทุนใดๆ หากเราชมเขาด้วยความจริงใจ และแม้ว่าจะเขาจะมีข้อดีอยู่เพียง 1% เราก็ต้องรู้จักชื่นชมให้เขามีกำลังใจเพื่อพัฒนาตัวเองได้ต่อไป อย่าได้เผลอไปดูถูกหรือเยาะเย้ยความผิดพลาดของใคร ๆ เพราะผลสะท้อนกลับมานั้นอาจรุนแรงกว่าที่เราคิด

การชื่นชมคนรอบข้างโดยเฉพาะเพื่อนร่วมงาน ถือเป็นการขอบคุณที่เขาตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ เป็นการทำให้เขาเห็นว่าเรารับรู้ในความตั้งใจและทุ่มเทของเขา แม้อาจยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้างแต่หากเขามีกำลังใจที่ได้เพิ่มขึ้นจากคำชื่นชมของเราก็อาจทำให้งานทุกอย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นไปได้

อย่าปล่อยให้ความคิดที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางครอบงำ เพราะนั่นจะทำให้เรามองเห็นแต่ตัวเองจนมองไม่เห็นหัวผู้อื่น แม้ว่าเขาจะทำงานหนักหรือทำงานดีเพียงใดเราก็จะเห็นแต่เพียงงานที่เราทำเป็นหลัก จนไม่รู้สึกในคุณค่าของสิ่งที่เขาทำ หากเป็นแบบนี้ไปนานๆ เข้าเขาก็อาจไม่อยู่ร่วมงานกับเราต่อไปได้

ข้อที่ 11 ต้องรู้จักขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น โดยอย่าคิดว่าเป็นเรื่องแย่ เป็นเรื่องที่ต้องเสียศักดิ์ศรี หรือเสียฟอร์มที่ต้องให้คนอื่นมาช่วย เพราะในยุคนี้การทำงานที่ได้ผลดีที่สุดคือการผสานความเป็นเลิศของหลายๆ คนเข้าด้วยกัน

งานของเราหากจำแนกออกเป็นส่วนต่างๆ แล้วเรามักพบว่ามีบางด้านที่ผู้อื่นมีความรู้ ความเชี่ยวชาญมากกว่า ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เราจะขอให้เขาช่วยในส่วนนั้นเพื่อทำให้ภาพรวมของงานทั้งหมดใกล้เคียงคำว่าสมบูรณ์แบบมากที่สุด

แต่ก่อนจะขอความช่วยเหลือจากใคร จำเป็นมากที่เราต้องมีหูตากว้างไกลและรู้ว่าคนรอบข้างเรานั้นมีความถนัดความเชี่ยวชาญด้านใด เพื่อที่จะรู้ว่ามีใครที่สมบูรณ์แบบที่สุดในแต่ละด้าน และมีใครบ้างที่เราสามารถเรียนรู้และทำงานร่วมกับเขาได้

ข้อสุดท้ายต้องตระหนักในความสำคัญของเวลา เพราะแต่ละคนไม่ว่าจะแตกต่างกันมากมายเพียงใด ทั้งคนจนคนรวย บริษัทใหญ่บริษัทเล็ก ฯลฯ ต่างก็มีเวลาวันละ 24 ชม. เท่ากัน การจัดสรรเวลาให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

การทำงานจึงต้องการเวลาที่ไม่ปะปนกับเวลาส่วนตัว เช่นเดียวกับตอนที่อยู่กับครอบครัวเราก็ต้องการเวลาส่วนตัวที่ไม่ควรให้มีงานเข้ามาเกี่ยวข้อง หากเราแบ่งแยกเวลาได้เหมาะสมก็จะทำให้เรามีสมาธิในการทำงานหรือใช้เวลาเพื่อครอบครัวได้อย่างเต็มที่

การจัดสรรเวลาในทุกวันนี้มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่เพียงการทำงานหรือชีวิตครอบครัว แต่ยังมีงานสังคม งานการเมือง ฯลฯ ที่เราต้องรู้จักแบ่งแยกออกจากกันให้ชัดเจนอย่าให้ปะปนกันจนทำให้ชีวิตมีปัญหาเพราะทำอะไรก็จะรู้สึกว่ามีเวลาไม่พอไปเสียหมด

การสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองจึงเป็นสิ่งที่ฝึกฝนและพัฒนาตัวเองได้เสมอ หากเราเปิดกว้างทางความคิดและหาทางแก้ไขข้อบกพร่องของเราตลอดเวลา