“ชาติไทยพัฒนา” ในเกมทหาร
“ไม่บอก ไม่กล่าว ไม่ให้ความสำคัญ จะอยู่ทำงานกันยังไง” เสียงสะท้อนไล่หลัง ถึงปฏิบัติการเปลี่ยนไพ่ใหม่
จนทีม “นิวบลัด” ค่ายปลาไหล มีอันต้อง “วงแตก” และว่าที่เลขาธิการพรรคอย่าง "สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ" อดีตส.ส.ศรีสะเกษ ต้องย้ายค่ายกระทันหัน
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ "ลูกท็อป" วราวุธ ศิลปอาชา พร้อมทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค เห็นดีเห็นงามกับการปฏิรูปพรรคไปสู่ “ชาติไทยพัฒนา 4.0” โดยเปิดตัวทีมรุ่นลูกอย่างคึกคัก
ว่ากันว่า เรื่องนี้มัน “ใหญ่กว่าแค่เรื่องในพรรค” แต่เป็นเรื่องระดับ“ยุทธศาสตร์” การตั้งรัฐบาล ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ
เพราะอยู่ดีๆ ขาใหญ่ประจำพรรคอย่าง “ประภัตร โพธสุธน” คงไม่ลุกมาเป็นเลขาฯพรรค ล้มกระดานเด็กๆ แล้วจับเข่าเจรจากับสปอนเซอร์ใหญ่ อย่าง “คุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา” พร้อมทั้งขอตัว “ลูกนา” กัญจนา มานำพรรคแทนน้องชาย
ถึงแม้ “นิวบลัด” จะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็ต้องทำใจ เข้าแถวรอทำงานตามความฝันกันต่อไป!
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ สถานการณ์ในพรรคปลาไหล ทำท่าจะ “ขาลง” อย่างน่าใจหาย เมื่อ “บิ๊กเนม” หลายรายทยอยไขก๊อก ทั้ง "ณัฐวุฒิ-ชาญชัย ประเสริฐสุวรรณ" อดีต ส.ส.สุพรรณบุรี "ชาดา ไทยเศรษฐ์" อดีต ส.ส.อุทัยธานี
มาถึงจุดนี้ ผู้ใหญ่ ยันผู้เฒ่าในพรรค ก็หวั่นสถานการณ์พรรคแตก และเสี่ยงจะได้ “ต่ำ 10”
ที่สำคัญ "คีย์แมน" แห่งพรรคพลังประชารัฐ ที่หวังเอาไว้มากกับ "พรรคแนวร่วม" ก็ทำท่าจะเดือดร้อน จึงต้องโดดเข้ามาอุ้มชาติไทยพัฒนาอีกทาง และหวังให้ได้ในระดับ 20-30 ที่นั่ง
งานนี้ จึงมีกำลังภายในทั้งทหารและพลเรือน ร่วมด้วยช่วยกัน ทั้ง สนธยา คุณปลื้ม รวมถึง “บิ๊กแดง” แห่งกองทัพ
โดยมีการดึง “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลินและทีมพรรคมาตุภูมิ(ที่ทิ้งหัวพรรคไปแล้ว) เข้ามาผนึกด้วย แต่กลุ่มนี้หวังแค่คะแนนภาคใต้ส่วนหนึ่งมาหนุน ไม่ได้หวังไกลไปถึงได้เก้าอี้
ฉะนั้นปรากฎการณ์ที่ชาติไทยพัฒนา เตรียมเปิดตัว 4 อดีต ส.ส.กลุ่มสามมิตร จากพื้นที่ทับซ้อน จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
ว่ากันว่า เหตุที่ต้องร่วมด้วยช่วยอุ้มชาติไทยพัฒนาในวันที่ไร้ “มังกรบรรหาร” เพราะเชื่อมั่นพรรคนี้คุมได้ง่ายกว่าภูมิใจไทย ที่เต็มไปด้วย“ขาใหญ่” และเงื่อนไขน่าจะมากกว่า
อีกสาเหตุสำคัญ ที่ระดมผู้มีอำนาจหลายคนเข้ามาช่วย เพราะเริ่มเห็นปรากฎการณ์แล้วว่า กระแสไม่เอาพรรคทหารแรงขึ้นทุกที จนแม้แต่นักการเมืองก็เริ่มอยากตีจาก