มั่นใจเต็มร้อย(2)

มั่นใจเต็มร้อย(2)

ความผิดพลาด หากเกิดขึ้นแล้วต้องยอมรับผลของมัน

การสร้างความมั่นใจในตัวเองให้เกิดขึ้นแม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็มีขั้นตอนที่เราสามารถทำไปทีละน้อยเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นคนมาดมั่นขึ้นมาได้ “Think out of The Box” ได้เขียนถึงเคล็ดลับดังกล่าวมา 4 ข้อ ในฉบับที่แล้ว

มาต่อกันที่ข้อ 5 ต้องไม่ทำตัวเป็นคนโลเล เพราะความมั่นใจในตัวเองจะเกิดขึ้นได้ต้องมาจากความตรงไปตรงมา คิดแบบใดก็ต้องสื่อความถึงสิ่งนั้นอย่างชัดเจน ถ้าชอบหรือไม่ชอบสิ่งใดก็ต้องบอกออกไปตรงๆอย่าตอบอะไรเพื่อให้ตัวเองดูดีในสายตาคนอื่น แต่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริง

หลายคนมักจะลังเลหรือโลเลที่จะบอกว่าสิ่งนี้ใช่หรือไม่ชอบ เพราะกลัวว่าจะดูไม่ฉลาด ดูภาพลักษณ์ไม่ดีในสายตาคนอื่น ซึ่งนอกจากทำให้ดูไม่มั่นใจในตัวเองแล้วยังไม่ช่วยให้ดูดีขึ้นมาได้ แล้วก็ยังได้ในสิ่งที่ไม่ชอบเพราะตัวเองพูดไปแล้วจึงไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย

ข้อที่ 6 ทำทุกอย่างอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ค่อยๆ ทำทีละหน่อยเพื่อสะสมความสำเร็จทีละน้อย เพราะวิธีนี้ทำให้เราขยับเข้าใกล้ความสำเร็จไปได้เรื่อยๆ โดยไม่ท้อแม้เป้าหมายจะยังอยู่อีกยาวไกล เพราะการที่เราทำทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอนทำให้เรารู้ว่าอยู่ที่ขั้นไหนแล้วและต้องทำอะไรต่ออีกบ้าง

ที่สำคัญยังทำให้เรามีความมั่นใจจากสิ่งที่ได้บรรลุไปตามขั้นตอนต่างๆ ทีละน้อย กลายเป็นกำลังใจให้เรากล้าทำส่วนที่ยากขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้โดยไม่รู้ตัว ต่างกับคนที่มุ่งทำเพื่อเป้าใหญ่เพียงอย่างเดียวแล้วท้อแท้เพราะทำอย่างไรก็ดูจะไปไม่ถึงเป้าหมายได้เลย

ข้อที่ 7 ไม่คาดหวังความชื่นชมจากคนอื่น ไม่ต้องรอให้คนอื่นชื่นชมว่าเราเก่งเพราะเรารู้จักคุณค่าของตัวเองอยู่ภายในใจอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเรามีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนก็ยิ่งทำให้เรารู้ว่าเราผ่านอะไรมาบ้างและแก่นแท้ของตัวเราอยู่ที่ไหน เราจึงเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเองได้แม้ไม่มีใครเอ่ยชม

การคาดหวังคำชื่นชมจากคนอื่น ก็เช่นเดียวกันกับการคาดหวังในรางวัล และลาภยศสรรเสริญ ซึ่งอาจทำให้เราผิดหวังทั้งที่เนื้อแท้แล้วเรายังมีดีที่คนอื่นมองไม่เห็นอีกมาก การมองข้ามเสียงชื่นชมและรางวัลต่างๆ จึงทำให้เราภูมิใจตัวเองได้แม้ไม่มีใครมอบรางวัลใดๆ ให้ก็ตาม

ที่สำคัญการไม่คาดหวังในรางวัลและคำชื่นชมจะทำให้เรามุ่งมั่นทำให้สิ่งที่ถูกต้องเพื่อไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้โดยไม่ต้องไขว้เขวกับกับรางวัลและความคาดหวังจากผู้คนรอบข้าง จึงทำให้เราพัฒนาตัวเองได้เร็วกว่า ซึ่งนั่นย่อมทำให้เราไปถึงเป้าหมายที่เร็วกว่าได้เช่นกัน

ข้อที่ 8 กล้ารับผิดชอบต่อความผิดพลาดของตัวเอง แม้ว่าไม่มีใครต้องการให้เกิดความผิดพลาดขึ้น แต่หากเกิดขึ้นแล้วก็ต้องยอมรับผลของมัน และยอมรับคำท้วงติงและคำแนะนำจากคนรอบข้าง อย่าปกปิดความผิดพลาดนั้นแล้วปล่อยให้ผ่านเลยไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะเราจะไม่ได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นั้นเลย

การยอมรับความผิดพลาดและเปิดใจกว้างเพื่อรับฟังความเห็นจากผู้อื่น จะทำให้เราได้มองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในหลายๆ มิติ และทำให้เราเห็นว่ายังมีช่องโหว่ที่ใดบ้างที่เราสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้อีก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต

ต้องคิดอยู่เสมอว่ายังมีทางที่ทำให้เราทำสิ่งเดิมที่ทำอยู่ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีกได้เสมอ การที่ผู้อื่นชี้ปัญหาและข้อผิดพลาดของเราให้ได้รู้ จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะได้พัฒนาสิ่งที่ทำอยู่ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขั้น แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นหากเรายังปิดหูปิดตาและไม่ยอมรับในสิ่งที่คนอื่นชี้ให้เราเห็น

ยังเหลืออีก 4 ข้อคงต้องติดตามต่อในฉบับหน้านะครับ