การเมืองเรื่องอายุ

การเมืองเรื่องอายุ

การเมืองเริ่มคึกคัก เมื่อคนวัย 64 ประกาศสนใจการเมือง แต่นักการเมืองเก๋าวัย 84 บอกว่า “ไม่มีทางสำเร็จ"

ผลก็คือโดนหมัดสวนให้ท่าน “กลับไปพักผ่อนเถอะ" ส่วนนักการเมืองเก่าอีกคน ก็ปรามาสนักการเมืองรุ่นใหม่ว่า “ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม”

หลายพรรคเริ่มประกาศรายชื่อคนรุ่นใหม่ ดังนั้น มิติเรื่องวัยและประสบการณ์ จึงอาจเป็นประเด็นหนึ่งในการรณรงค์หาเสียง เรามาคุยกันเกี่ยวกับการเมืองเรื่องอายุ ดีไหมครับ

ไม่นานมานี้ มาเลเซีย เลือกมหาเธร์ วัย 93 ปี ให้เข้ามาเป็นผู้นำประเทศที่ “อายุมากที่สุดในโลก” จากนั้น เมื่อต้นเดือนกรกฏาคม เขาก็ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้เกิดขึ้น ด้วยการแต่งตั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและการกีฬาคนใหม่

ไม่ใช่รัฐมนตรีวัย 70-80 นะครับ คนที่ได้รับแต่งตั้ง อายุเพียง 26 ปีเท่่านั้น เป็นรัฐมนตรีหนุ่มที่สุดในประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย และของประเทศทั้งหลายในเอเซียใต้เลยทีเดียว

รัฐมนตรี Syed Saddiqหน้าตาหล่อเหลาเกลี้ยงเกลา มีผู้ติดตามทางอินสตาแกรม มากถึง 1.2 ล้านคน แซดดิ๊ก ได้รับปริญญาตรีกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยนานาชาติอิสลาม เริ่มมีชื่อเสียงในปี 2559 เมื่อเขาร่วมกับเยาวชนอีก 24 คน ออกหนังสือเรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรับผิดชอบต่อกรณีทุจริตที่กองทุน 1MDB

แซดดิ๊ก โดดเด่นขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาได้รับข้อเสนอจาก มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่โดดเด่นระดับโลก ให้ทุนการศึกษาไปเรียนปริญญาโทสาขานโยบายสาธารณะที่นั่น แม้คนจำนวนมากต่างก็ไฝ่ฝัน อยากเข้าเรียนอ๊อกซ์ฟอร์ด แต่แซดดิ๊ก กลับปฎิเสธอ๊อกซ์ฟอร์ดถึง 2 ครั้ง ด้วยเหตุผลว่าเขา “อยากปฎิรูปและรับใช้ประชาชน”

แซดดิ๊ก เพิ่งเป็นรัฐมนตรีได้เพียง 3 เดือนเศษ ถ้าหากเป็นพนักงาน ก็ถือว่าอยู่ระหว่างทดลองงาน แต่เมื่อเป็นรัฐมนตรี ก็คงเปรียบเป็นช่วงฮันนี่มูน และคงต้องติดตามกันต่อไปว่า หนุ่มน้อยคนนี้จะก้าวเดินบนถนนการเมือง ไปได้ใกลเพียงใด

แต่ความตื่นเต้นไม่หยุดเพียงแค่นี้ครับ เพราะเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือ “เขา”ก็ยังมี “เธอ” ซึ่งอายุน้อยกว่าแซดดิ๊กเสียอีก เธอเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนเหมือนกันครับ และได้รับการรับรองจากหนังสือกินเนสส์ว่าเป็น “รัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในโลก”

เพราะ รัฐมนตรีหญิง Al Mazrui ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเยาวชน ของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ในวัยเพียง 22 ปี เท่านั้นเอง นับถึงวันนี้ ในวัย 24 กว่าๆ เธอก็ยังคงครองตำแหน่งรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในโลกเช่นเดิม เพราะแซดดิ๊ก อายุมากกว่าเธอ 2 ปี และเขากำลังจะอายุครบ 27 ปีในเดือนธันวาคมนี้

มาสรูอิ หน้าตาสะสวยและประวัติการศึกษาดีเด่นเช่นกัน เธอได้รับปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยนิวยอร์ค และปริญญาโทจาก มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด สาขานโยบายสาธารณะ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเดียวกันและสาขาเดียวกัน กับที่เสนอให้ทุนแก่ แซดดิ๊ก นั่นแหละครับ

เราได้ยินบ่อยๆว่า อ๊อกซ์ฟอร์ด และ เคมบริดจ์ ต่างก็คุยอย่างภาคภูมิใจว่า ศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำประเทศอังกฤษและทั่วโลก ประเทศไทยเราก็มีครับ เช่น อานันท์ ปันยารชุน จากเคมบริดจ์ และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากอ๊อกซ์ฟอร์ด

ถ้า แซดดิ๊ก เกิดตัดสินใจกลับไปเรียนอ๊อกซ์ฟอร์ด และเขากับสาวน้อยมาสรูอิ เกิดมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีขึ้นมา คราวนี้อ๊อกซ์ฟอร์ด ก็จะได้เพิ่มอีก 2 แต้มทันที

แต่ที่สูงไปกว่ารัฐมนตรี ก็คือตำแหน่งผู้นำประเทศ ซึ่งหลายปีที่ผ่่านมา ประเทศสำคัญๆได้เลือกคนค่อนข้างหนุ่มสาว ให้เข้ามาบริหารประเทศ หลายคน

เจมส์ ทรูโดร์ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแคนาดา ด้วยวัยเพียง 42 ปี ประธานาธิบดี มาครอง ของฝรั่งเศส รับตำแหน่งเมื่ออายุ 40 ปี ส่วนคุณแม่ยังสาว จาซินด้า อาร์เดิร์น เป็นนายกรัฐมนตรีนิว ซีแลนด์ เมื่ออายุ 37 ปีเท่านั้น แถมยังคลอดลูกสาวคนแรก หลังเข้าเป็นนายกรัฐมนตรีได้เพียง 8 เดือน ส่วน เซบาสเตียน เคิร์ส แห่งออสเตรีย เป็นผู้นำประเทศในวัยหนุ่มเหลือเชื่อ คือเพียง 32 ปี เท่านั้นเอง

การที่คนทั้งสี่ ได้รับความไว้วางใจ ให้ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ ทำให้เชื่อกันว่ามันเป็นยุคของคนหนุ่มสาวแล้ว แต่ความเชื่อดังกล่าวก็ถูกท้าทาย เมื่อมหาเธร์ ก้าวเข้ามาเป็นผู้นำในวัย 93 ปี และเขายังทำหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็ง โดยอายุไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด

จะว่าไป โดนัล ทรัมพ์ ก็อายุไม่น้อยเหมือนกัน เขาก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดี เมื่ออายุ ถึง 70 ปีแล้วนะครับ เพียงแต่เวลาที่คนพูดถึงทรัมพ์ ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเรื่องอายุเขาสักเท่าใด พูดแต่เรื่องความเพี้ยนและความคาดไม่ถึงของเขาเสียมากกว่า

ผมคิดว่าอายุคงไม่ใช่สิ่งสำคัญ ถ้าหากสุขภาพยังดี แต่ที่สำคัญก็คือวุฒิภาวะ และดุลพินิจที่ดี วิสัยทัศน์และการตัดสินใจที่ดี ที่ประเทศจีนมีวันนี้ได้ มิใช่เพราะวิสัยทัศน์เปิดประเทศของคนสูงวัยอย่าง เติ้ง เสี่ยว ผิง หรือครับ

แต่คนบางคน แม้อยู่จนแก่เฒ่าหรือเป็นนักการเมืองจนแก่เฒ่า ก็ยังอาจขาดตกบกพร่องแม้กระทั่ง สามัญสำนึก ด้วยซ้ำไปผมคิดว่าต้องผสมกลมกลืนประสบการณ์ของผู้อาวุโส กับพลังขับเคลื่อนและวิธีคิดใหม่ๆของคนหนุ่มสาว ซึ่งถ้าทำได้ดี ประเทศน่าจะก้าวเดินไปได้ไกล

ส่วน มาสรูอิ นั้น นอกจากอายุยังน้อยแล้ว ยังสะท้อนให้เห็น บทบาทของสตรีในเวทีการเมือง เพราะเวลาที่เรานึกถึงประเทศแถวตะวันออกกลาง เรามักนึกถึงภาพของสตรีถูกจำกัดสิทธิ แต่คุณทราบไหมว่าประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ซึ่งเมืองดูไบ ตั้งอยู่ที่นั่น) นอกจากมีรัฐมนตรีหญิง อายุน้อยที่สุดในโลกแล้ว คณะรัฐมนตรี 32 คน ยังเป็นสตรีถึง 9 คน อีกด้วย!

สำหรับบ้านเรา ก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่า คนรุ่นใหม่ รวมทั้งนักวิชาการที่กำลังเข้าสู่แวดวงการเมือง จะไม่หลงตัวลืมตน เสียคน เสียอุดมการณ์ และคนรุ่นเก่าที่ยังดูดกันไปดูดกันมา จะรู้จักทิ้งนิสัยเดิมเสียบ้าง และไม่นำพาประเทศเข้าสู่วังวนอีกครั้ง

เพราะคนไทย รับไม่ไหวแล้วจริงๆ