เสี่ยโจ้กลับใต้ ท้าทายคสช.

เสี่ยโจ้กลับใต้  ท้าทายคสช.

น่าผิดหวังอย่างแรงที่คนระดับรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ตอบแบบตรงๆ โต้งๆ ว่ายังไม่ได้รับรายงานเรื่อง “เสี่ยโจ้” แอบดอดกลับเข้ามาในประเทศไทย

หนำซ้ำเมื่อสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจง จนป่านนี้ก็ยังไม่มีแอคชั่นอะไรออกมา เหมือนเรื่อง “เสี่ยโจ้” ไม่ได้มีความสำคัญ

ทั้งๆ ที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.คนปัจจุบัน เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ตั้งแต่ก่อนเป็น ผบ.ตร. เมื่อปี 57 ว่าได้ออกหมายจับ “เสี่ยโจ้” ในคดีค้าน้ำมันเถื่อนเอาไว้แล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ตำรวจขออนุมัติศาลออกหมายจับ เสี่ยโจ้” ในข้อหานี้

ข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคงเองไม่่ใช่หรือที่อ้างว่า "เสี่ยโจ้" เป็นนักค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ไม่ใช่แค่ภาคใต้ แต่เป็นระดับประเทศ และยังสงสัยความเชื่อมโยงกับการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ปลายด้ามขวาน จนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดทฤษฎี "ภัยแทรกซ้อนจุดไฟใต้" ของนายทหารหลายๆ คนด้วย

วันนี้มีข่าว “เสี่ยโจ้” แอบดอดกลับมา ทำไมไม่รีบจับ ภาคใต้จะได้สงบ ภัยแทรกซ้อนจะได้หมดไป

เสี่ยโจ้ หลบหนีไปตั้งแต่ปี 57 หลังถูกค้นบ้านและสำนักงาน 2 ครั้ง เจ้าหน้าที่พบทั้งรถดัดแปลงบรรทุกน้ำมัน ทรัพย์สินมีค่าจำนวนมหาศาล และดวงตราประทับไม้ปลอมสำหรับเคลื่อนย้ายไม้ หลักฐานชิ้นหลังนี้เองทำให้เขาถูกดำเนินคดีฐานปลอมแปลงเอกสารราชการ และถูกศาลพิพากษาจำคุก ไม่รอลงอาญา

แต่ “เสี่ยโจ้ หลบหนีจากอาคารศาลปัตตานี โดยมีตำรวจให้ความช่วยเหลือ ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจตบหน้ากระบวนการยุติธรรมไทย

เมื่อครั้งนำกำลังเข้าค้นบ้านเสี่ยโจ้เมื่อปี 57 หลัง คสช.ยึดอำนาจไม่ถึงเดือนจนเป็นผลงานชิ้นโบแดงที่ประชาชนแซ่ซ้อง ครั้งนั้นผู้ที่นำทีมเข้าไปค้นคือว่าที่แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ ไม่รู้วันนี้ท่านจะว่าอย่างไรกับข่าว เสี่ยโจ้” แอบกลับบ้าน

แม่ทัพภาคที่ 4 คนปัจจุบันซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่สนับสนุนทฤษฎีภัยแทรกซ้อนจุดไฟใต้ ออกมายอมรับว่าได้เบาะแสมาก่อนหน้านี้ และให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบว่า “เสี่ยโจ้” ไปๆ กลับๆ สะท้อนว่าเดินทางเข้า-ออกอย่างสบายและสะดวกโยธิน

สอดคล้องกับข้อมูลจากชาวบ้านที่มีคนเห็น เสี่ยโจ้ในพื้นที่มาระยะหนึ่งแล้ว และมีข่าวว่าอยู่สบาย เพราะโปรยอะไรบางอย่างให้เจ้าหน้าที่บางหน่วย บางคน

แบบนี้ไม่เรียกตบหน้า คสช. แล้วเรียกอะไร?