จับตาการเติบโตของเทคโนโลยีเสียง แค่ใหม่หรือใช้ได้ดีจริงๆ..!

จับตาการเติบโตของเทคโนโลยีเสียง แค่ใหม่หรือใช้ได้ดีจริงๆ..!

เทคโนโลยีเสียงไม่ใช่แค่สิ่งใหม่ๆที่ผ่านมาและผ่านไปอีกต่อไป จากบทความของ Fobes กล่าวไว้ในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว

Amazon และ Google ขายผลิตภัณฑ์ไปมากกว่า 16.4 ล้านเครื่อง ผู้บริโภครอบโลกกำลังให้ความสนใจอุปกรณ์เหล่านี้ ปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดการใช้งานที่แพร่หลายขึ้นคือ ความสะดวกรวดเร็ว โดยเฉพาะการค้นหาข้อมูล และการซื้อสินค้าออนไลน์

คำถามที่สำคัญคือแล้วแบรนด์ต่างๆจะใช้กระแสความสนใจในเทคโนโลยีเสียงให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง ที่จะทำให้สามารถสร้างรายได้เติบโตเป็นเม็ดเงินจริงๆไม่ใช่แค่ได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่ทันสมัยก้าวทันเทคโนโลยีใหม่ๆเท่านั้น

1) การสร้าง Brand Content ที่กระตุ้นให้เกิดความสนใจสินค้า 

จากการศึกษาของ Kantar พบว่าในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิคจะนำเทคโนโลยีเสียงมาใช้ในการหาข้อมูลมาเป็นอันดับหนึ่ง ผู้คนสามารถเข้าถึง content ต่างๆได้ง่ายรวดเร็วรวมถึงได้ข้อมูลที่ตรงประเด็นมากขึ้น จากหลักการเรียนรู้แบบ AI เทคโนโลยีเสียงสามารถช่วยคัดกรองคำตอบได้ตรงกับผู้บริโภคได้ดีขึ้น ช่วยลดปัญหาการที่เราได้รับข้อมูลมามากมายแต่ไม่ตรงกับความต้องการของเรา Google Home หรือ Alexa สามารถช่วยให้การหาข้อมูลทั้งเร็วและถูกใจมากขึ้น แบรนด์สามารถใช้จุดนี้ให้เป็นประโยชน์ได้โดยการสร้าง content ที่ทั้งน่าสนใจและเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคโดยใช้องค์ความรู้และความเชี่ยวชาญที่แบรนด์นั้นๆ

ตัวอย่างเช่น ผงซักฟอกยี่ห้อ Tide เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องของการขจัดคราบและสามารถแนะนำผู้บริโภคได้ว่าควรทำอย่างไรเพื่อจัดการกับสิ่งสกปรกชนิดต่างๆ แบรนด์นี้จึงร่วมมือกับ Alexa เพื่อนำ Brand content ใส่ลงไปในเทคโนโลยีของ Alexa ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น คนใช้ได้ประโยชน์ ส่วนแบรนด์ก็เข้าไปเป็นผู้ช่วยที่ตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวัน ทำให้ผู้บริโภคนึกถึงแบรนด์นี้เมื่อจะซื้อสินค้าเพราะมีความเชื่อมั่นในภาพลักษณ์และความเป็นผู้เชี่ยวชาญของแบรนด์

การใส่ Brand content ลงในเทคโนโลยีเสียงนอกจากจะช่วยเรื่องของ awareness กับ consideration ยังช่วยเรื่องของการสร้าง emotional engagement และช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภคในเวลาที่เขาต้องการได้ Alexa กลายเป็นเพื่อนที่รู้ลึก รู้จริง สามารถเข้าถึงปัญหานั้นๆซึ่งนำไปสู่การสร้างความประทับใจและความไว้วางใจให้กับผู้บริโภค เทคโนโลยีเสียงช่วยเพิ่มโอกาสให้กับแบรนด์ในการกระตุ้นยอดขาย

2) การเพิ่มยอดขายผ่านทาง e-commerce 

เทคโนโลยีเสียงทำให้เราซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น ตัดสินใจได้เร็วขึ้น เพราะเป็นการช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อนเข้าถึงสินค้าที่ต้องการได้ในทันที เมื่อผู้ใช้สั่งการว่า Alexa ซื้อครีมอาบน้ำ ระบบจะเชื่อมโยงกับสินค้าหมวดที่ต้องการทันที โดยดูจากประวัติการซื้อว่าในอดีตผู้บริโภคซื้อสินค้าประเภทนี้อย่างไร ยี่ห้ออะไร ราคาเท่าไหร่ โดยประมวลจากKeyword Alexa จึงนำเสนอยี่ห้อที่เคยซื้อแล้วพร้อมแนะนำสินค้าอื่นๆที่เกี่ยวข้อง แบรนด์ต่างๆสามารถนำเสนอ promotion หรือสินค้าใหม่ๆผ่านทาง Alexa เพื่อโน้มน้าวให้ผู้บริโภคพิจารณาแบรนด์ของเรา ในกรณีนี้อาจจะมี promotion ของครีมอาบน้ำรูปแบบต่างๆ เช่น เป็นกลิ่นใหม่ที่ยังไม่เคยใช้ แต่มี promotion ซื้อ 1 แถม 1 ทำให้ผู้ใช้ตัดสินใจลองใช้ หากไม่มีข้อมูลจากAlexa ที่ได้แนะนำก็จะไม่ทราบว่ามี promotion แบบนี้หรือมีสินค้าตัวใหม่นี้

แบรนด์ต่างๆ เริ่มจับมือกับ Amazon หรือ Google ในการเพิ่ม visibility ในโลกของ e-commerce เช่นการอยู่ในหมวดสินค้าแนะนำที่ผู้บริโภคจะเห็นได้ชัดเจนอย่าง Amazon choice designation หรือการที่สามารถทำให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าได้โดยตรงจากแบรนด์ทางออนไลน์โดยที่เทคโนโลยีเสียงทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างสองฝ่ายซึ่งมักจะเป็นการซื้อสินค้าผ่าน voice apps ข้อดีของ apps คือการทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้ทันที ความสะดวกรวดเร็วนี้จะกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ นอกจากนี้ยังมีการแนะนำสินค้าที่เหมาะสมโดยผ่านทางการประมวล personalization data ทำให้เกิด customer experience ที่น่าประทับใจมากขึ้น ช่วยสร้าง loyalty และ repeat purchase ได้

เทคโนโลยีเสียงช่วยกระตุ้นยอดขายได้ แต่ไม่ได้มีดีเพียงแค่นั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เทคโนโลยีนี้ช่วยให้แบรนด์ของเรามีประโยชน์กับผู้บริโภค และถ้าเรามีประโยชน์เราก็จะเป็นที่ต้องการ เพราะฉะนั้นสิ่งที่มีคุณค่าสูงสุดของเทคโนโลยีเสียงคือ ศักยภาพในการสร้าง engagement กับลูกค้าจนเป็นความเคยชิน เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเราในทุกๆวัน

คำถามที่ตามมาคือจะทำอย่างไรให้แบรนด์สามารถสร้างประสบการณ์ที่เข้ากับตัวแบรนด์และใช้เทคโนโลยีนี้เชื่อมสองสิ่งด้วยกัน แนวทางดังกล่าว ได้แก่

- หา moment that mattersจุดที่จะเชื่อมโยงชีวิตประจำวันของเขากับสินค้าหรือบริการของเรา เช่น ถ้าเราจะแนะนำเรื่องการทำอาหาร เราจะเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคทั้งใน super market และในครัว เราจะเข้าไปช่วยเขาในสถานการณ์เหล่านั้นได้อย่างไร

- สร้างบทสนทนาที่เป็นธรรมชาติ ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการให้องค์ความรู้ หรือการสร้างสิ่งที่สะท้อนบุคลิกของแบรนด์เป็นตัวกลางในการสื่อสาร ทำให้คนรู้สึกว่า แบรนด์ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ โลโก้ หรือบริษัท แต่มีตัวตนและบุคลิกเฉพาะที่เขารู้สึกและสัมผัสได้

- สร้าง identity เช่นการสร้างเพลงหรือเสียงที่เป็นตัวแทนของแบรนด์ให้กับแบรนด์ เมื่อผู้ฟังได้ยินแล้วผู้ฟังจะนึกถึงแบรนด์นี้ทันที อาจจะทำได้โดยสร้างเสียงเฉพาะของแบรนด์แล้วใส่ลงในเทคโนโลยีเสียง

- การเชื่อมโยงเทคโนโลยีเสียงกับ touch point ต่างๆของแบรนด์ให้ทุกๆด้าน เป็นไปในทางเดียวกัน สร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกัน

เทคโนโลยีเสียงใช้ได้จริงในการสร้างความเติบโตให้กับแบรนด์ต่างๆ แต่จำเป็นต้องใช้ให้เหมาะสมกับบุคลิกลักษณะและจริตของแบรนด์ซึ่งจะสร้างประโยชน์ได้สูงสุดค่ะ