คสช. - เพื่อไทย ใครได้เปรียบ?

คสช. - เพื่อไทย   ใครได้เปรียบ?

เริ่มจากฝั่ง คสช.ที่มี “กลุ่มสามมิตร” และพรรคพลังประชารัฐเป็น “ตัวเปิด” ในการขับเคลื่อน การจะเอาชนะพรรคเพื่อไทยได้มีเพียงสถานเดียวเท่านั้น

 คือต้องตกปลาในบ่อเพื่อไทย พูดง่ายๆ คือต้องดูดอดีต ส.ส.จากเพื่อไทยให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มจำนวน ส.ส.ฝั่งหนุน คสช. และลดจำนวน ส.ส.ของเพื่อไทยไปพร้อมกัน ภาษาฟุตบอลเรียก “ชนะไป-กลับ”

แต่เท่าที่เห็นจนถึงขณะนี้ กลุ่มสามมิตรดูดได้แต่แกนนำ นปช.ระดับพื้นที่ หรืออดีต ส.ส.เกรดบี ส่วนระดับแกนนำที่ลงปาร์ตี้ลิสต์ไม่ต้องมานับ เพราะเลือกตั้งหนนี้วัดกันที่ ส.ส.เขต ทั้งคะแนนที่ทำให้ชนะระดับเขต และคะแนนเสียงตกน้ำ...สำคัญพอกัน

ยิ่งไปกว่านั้นฝั่ง คสช.ยังไม่มี คนรุ่นใหม่” มาดึงคะแนนกลุ่มวัยรุ่น วัยเพิ่งเริ่มทำงาน หรือพวกมีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก รวมถึงคนวัยอื่นที่เบื่อการเมืองแบบเดิมๆ คนกลุ่มนี้คือคนที่เคยเลือกพรรคชูวิทย์ เคยเลือกพรรคกรีน หรือไม่ก็เคยโนโหวต คือไปใช้สิทธิ์แต่ไม่ลงคะแนนให้ใคร โดยฝั่ง คสช.ยังไม่มีพรรคมาช้อนคะแนนตรงนี้

ขณะที่ฝั่งเพื่อไทยใช้ พรรคอนาคตใหม่ เป็นสาขา เพื่อเก็บเกี่ยวคะแนนจากคนกลุ่มที่ว่า ขณะเดียวกันก็ยังตกปลาในบ่อเพื่อน นั่นก็คือพื้นที่ที่ไม่ใช่ฐานเสียงของตัวเอง อย่างสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้ “กลุ่มวาดะห์” ตั้งพรรคประชาชาติ และดึง “แม่เหล็ก” อย่าง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เข้าไปดูดคะแนน โดย “บิ๊กวี” เพิ่งยื่นใบลาออกจากราชการ เชื่อกันว่าผลงานสมัยเป็นเลขาธิการ ศอ.บต.จะกวาด ส.ส. หรืออย่างน้อยก็คะแนนตกน้ำได้เป็นกอบเป็นกำใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นี่เท่ากับเป็นการตกปลาในบ่อประชาธิปัตย์ที่สุดท้ายอาจไปร่วมกับฝั่ง คสช. ขณะที่พรรครวมพลังประชาชาติไทยของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ดันทับซ้อนกับประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพวกเดียวกันเองซ้ำอีก

ฉะนั้นสูตรเลือกนายกฯ คือ 376 เสียง จาก 750 เสียง บิ๊กตู่” นอนมา เพราะมีเสียงตุนในกระเป๋าถึง 250 เสียงจาก ส.ว.ที่ คสช.แต่งตั้งเอง พูดง่ายๆ คือ หา ส.ส.อีก 126 เสียงก็เป็นนายกฯได้แล้ว ซึ่ง 126 เสียงนี้ก็น่าจะมาจากพรรคพลังประชารัฐ และพรรคพันธมิตรทั้งหลาย เช่น รวมพลังประชาชาติไทย หรืออาจรวมถึงประชาธิปัตย์ด้วย

แต่เป็นนายกฯแล้ว จะตั้งรัฐบาลได้อย่างไร ถ้ามีเสียง ส.ส.สนับสนุนแค่ 126 เสียง ฉะนั้นหากคิดในมุมกลับ ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ราวๆ 200 ซึ่งก็เคยทำได้มาหลายครั้ง บวกกับพรรคอนาคตใหม่อีก 20-30 เสียง ก็จะทำให้เสียงในสภาล่างของฝั่งหนุน บิ๊กตู่ (สมมติว่ารวมประชาธิปัตย์ด้วย) อยู่ที่ 270-280 เสียงเท่านั้น คำถามคือเสียงเกินครึ่งสภาแค่นี้ จะบริหารได้จริงหรือ และถ้าประชาธิปัตย์หรือพรรคขนาดกลางอีกสัก 1 พรรค เกิดหันมารวมกับฝ่ายเพือไทย-อนาคตใหม่ล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น

คำตอบคือสุญญากาศ!