ทองคำร่วงต่ำสุดในรอบ 2 ปี คาดราคายังขาลงทั้งปี

ทองคำร่วงต่ำสุดในรอบ 2 ปี  คาดราคายังขาลงทั้งปี

คอลัมนิสต์คอลัมน์ Stock Gossip

          วิกฤติการเงินตุรกียังไม่คลี่คลายและอาจจะมีผลลุกลามไปยังประเทศอื่นเป็นโดมีโน   ทำให้มีการย้อนกลับไปมองถึงเหตุการณ์วิกฤติต้มยำกุ้งที่เกิดจากการโจมตีค่าเงินบาทของไทยจนทำให้ต้องมีการลอยตัวค่าเงินในปี 2540  และวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ของสหรัฐช่วงปี 2551 จากฟองสบู่ที่เกิดจากในสินทรัพย์ซัพไพรม จนกระทบสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในวอลล์ สตรีท 

          ขณะที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตุรกีมาจากความอ่อนแอของเศรษฐกิจในประเทศที่ง่อนแง่เป็นทุนเดิมด้วยตัวเลขการขาดดุลทางค้า  ดุลบัญชีเกินสะพัดติดลบ  เงินเฟ้อพุ่งสูงต่อเนื่อง  การเมืองที่มีปัญหา  จนเมื่อสหรัฐใช้มาตการคว่ำบาตรทางภาษีในสินค้าเหล็กและอลูมีเนียมเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ให้ทรุดหนักมากขึ้นจนทำให้ค่าเงินลีราอ่อนค่าทันที

          ปัจจุบันสถานการณ์ได้ขยายความวิตกกังวลจะกระทบสถาบันการเงินประเทศในกลุ่มยุโรป เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส และสเปน ในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่ของตุรกีจะเผชิญปัญหาทางการเงินตามมา   หากตุรกีไม่สามารถชำระหนี้ได้  และลุกลามไปยังประเทศเกิดใหม่ที่มีฐานะการเงินคล้ายกับตุรกี เช่น อาร์เจนติน่า  จะเกิดวิฤติการเงินเหมือนกัน

          นอกจากนี้สินทรัพย์เสี่ยงอย่าง ตลาดหุ้น ถูกพากันถูกเทขายปรับตัวลดลงอย่างหนัก จากที่นักลงทุนนำเงินไปถือในสินทรัพย์ปลอดภัยที่สุดในขณะนี้  คือเงินสกุลดอลลาร์  จนทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข่งค่าในรอบเกือบ 1 ปี

          รวมไปถึงการเทขายทองคำที่เคยเป็น  Save Haven จนลงไปต่ำสุด ในรอบ 1 ปี 8 เดือน  และหากเปรียบเทียบราคาตั้งแต่ต้นที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวลดลงไปแล้ว  8.77 %  จากราคาสิ้นปี 2560 อยู่ที่ 1,302.80 เหรียญต่อออนซ์  มาทำราคาสูงสุดที่ 1,356.15 เหรียญต่อออนซ์  และราคาหลุด 1,200 เหรียญต่ออนซ์ จนมาอยู่ที่ 1,184.70 เหรียญต่อออนซ์ (15 ส.ค.)

         ด้านทองคำภายในประเทศเจอผลกระทบจากทั้งราคาทองโลกที่ทรุดตัวและค่าเงินบาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน  จึงทำให้ราคาทองคำร่วงลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ส.ค. และราคาลงมาหนักสุดจนมาทำราคาต่ำสุดในรอบ 2 ปี จากราคาเมื่อสิ้นปี 2560 อยู่ที่ 20,050 บาทต่อบาททองคำ  

        ล่าสุดราคาทองคำได้หลุด 19,000 บาทต่อบาททองคำมาอยู่ที่ 18,800บาทต่อบาททองคำ    (15 ส.ค.) ส่งผลทำให้เทียบจากต้นปีใครที่ลงทุนในทองคำขาดทุนไปแล้วเกือบ 6 %  ดังนั้นหากจะมองการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ในครึ่งปีหลังจะยังมีโอกาสลุ้นการฟื้นตัวได้แค่ไหน

        ด้านการซื้อขายในตลาดฟิวเจอร์พบว่า สัญญาซื้อขายทองคำราคา อ้างอิง 10 บาท หมดอายุสัญญาเดือน ก.ย. (GF10Q18) ซึ่งเป็นสัญญาใกล้ที่สุด เริ่มมีมูลค่าขายแตะ 11,776 สัญญา (14 ส.ค.)  ส่งผลทำให้มีสถานะคงค้างอยู่ที่ 39,837 สัญญา และมีการชำระราคาเมื่อสิ้นสุดสัญญาที่  18,890 บาท   

          ศิริลักษณ์ ปโกฎิประภา’  ผู้อำนวยการฝ่าย วิเคราะห์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส เปิดเผยกับ Stock gossip    ทองคำเข้าสู่ช่วงขาลงมาตั้งแต่เดือนส.ค. แล้ว จากราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องและหลุด 1,200 เหรียญต่อออนซ์  และบาทไทยหลุด19,000 บาทต่อบาททองคำ   ซึ่งยังประเมินว่าทิศทางยังถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศโดยเฉพาะค่าเงินดอลลาร์ที่ยังแข็งค่าต่อเนื่อง

ดังนั้นราคาทองคำในตลาดโลกและในไทยลงไปลึกถึง 1,180-1,170 เหรียญต่ออนซ์ และ 18,600 บาทต่อบาททองคำตามลำดับ ซึ่งหากใครลงทุนในทองคำสามารถปรับลดพอร์ทการลงทุนจากเดิมเคยลงทุนในสัดส่วนประมาณ 10-15 % ลดลงเหลือประมาณ 5 % ได้ในช่วงนี้ ส่วนการซื้อลงทุนยังรอจุดแนวรับสำคัญที่ได้ประเมินไปหากยืนอยู่สามารถทยอยลงทุนแต่ถ้ารับไม่อยู่เจอแรงขายได้อีก

          ‘นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ’  ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก มองว่า นักลงทุนได้ชะลอการเข้ามาซื้อทองคำตั้งแต่ราคาหลุด 19,000 บาทต่อบาททองคำ ทำให้แรงซื้อเพื่อทยอยลงทุนเริ่มแผ่วลง จากก่อนหน้านี้มีการเข้ามาซื้อทองเข้ามาจำนวนมาก จนทำให้เมื่อเห็นว่าราคายังปรับตัวลดลงต่อจึงชะลอเพื่อรอดูทิศทางของราคาทองคำ

         ทั้งนี้มองว่าราคาทองคำลงไปแตะที่ 1,150 เหรียญต่อออนซ์ และทองคำในประเทศมีแนวรับที่ 18,600 บาทต่อบาททองคำ  ซึ่งการแกว่งตัวลงในรอบนี้แตกต่างจากช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในสหรัฐที่ผลัดดันราคาทองคำขึ้นมา เนื่องจากช่วงนั้นภาวะเศรษฐกิจสหรัฐย่ำแย่  เม็ดเงินที่ล้นระบบจึงพยายามแสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง  

         ภาวะปัจจุบันกลับตรงกันข้ามเศรษฐกิจของสหรัฐมีความแข็งแรงขึ้น จึงทำให้เงินจะไปไหลกลับไปพักในรูปสกุลดอลลาร์ ซึ่งจะเห็นได้จากความต้องการถือครองพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นจนทำให้อัตราผลตอบแทนลดน้อยลง  ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาด้านความเชื่อมั่นจะเห็นการโยกย้ายเม็ดเงินลงทุนลักษณะนี้ต่อไป 

       ดังนั้นใครที่ลงทุนในทองคำต้องลดความเสี่ยงด้วยการซื้อลงทุนในทองจริงไปทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ที่สามารถเลือกลงทุนขาลงและขาขึ้นได้