นวัตกรรมจากอุปสรรค

นวัตกรรมจากอุปสรรค

ปัจจัยความสำเร็จของอิสราเอลมาจาก “คน” ในประเทศ

เมื่อไปนานมานี้ผมมีโอกาสเดินทางไปเยือนประเทศอิสราเอล การเดินทางของผมนั้นไม่ได้มาจากความสนใจด้านประวัติศาสตร์และศาสนาซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศนี้มีอยู่อย่างล้นเหลือ แต่เป็นเรื่องของอุตสาหกรรมไฮเทคที่ผู้อ่านหลายท่านอาจยังไม่ทราบว่า 1 ใน 3 ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นอุตสาหกรรม NASDAQ นั้น เกิดมาจากบริษัทสัญชาติอิสราเอลไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม 

ความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมด้านการทหารของอิสราเอลนั้นขึ้นชื่อมานานและเป็นที่ยอมรับในหลายๆ ประเทศจนทำรายได้เข้าประเทศมหาศาลในแต่ละปี แต่กับอุตสาหกรรมการเกษตรที่ประเทศเขามีข้อจำกัดมากมายโดยเฉพาะเรื่องแหล่งน้ำที่มีเพียงทะเลสาบกาลิลีทางตอนเหนือเพียงแห่งเดียวที่เป็นน้ำจืดหล่อเลี้ยงทั้งประเทศ แต่อิสราเอลก็สามารถสร้างผลผลิตทางการเกษตรได้ไม่แพ้ชาติใดเลย

ผลไม้ที่ผมมีโอกาสได้พบเห็นมักมีขนาดใหญ่มากกว่าผลผลิตทั่วๆ ไป ทั้งมะม่วง ส้ม ทับทิม ฯลฯ ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีสภาพภูมิอากาศอุดมสมบูรณ์เท่าไหร่นัก ผลผลิตที่ได้จึงมาจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่ปรับปรุงพันธุ์พืชและสภาพดิน รวมถึงพัฒนาระบบชลประทานอย่างเต็มที่ 

ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในอิสราเอลผมจึงเห็นทั้งความก้าวหน้าในหลายๆ ด้านที่ประเทศนี้พัฒนาขึ้นมาได้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ถูกบีบคั้นรอบตัว แม้จะเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเป็นมาที่ยาวนานแต่ก็มีความขัดแย้งเกิดขึ้นมากมาย

ทั้งหมดนี้เป็นคำตอบให้กับผมว่า เหตุใดอิสราเอลถึงก่อตั้งประเทศขึ้นมาได้สำเร็จ และเหตุใดจึงยังคงอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน เพราะความรักชาติที่สะท้อนให้เห็นผ่านคนหนุ่มสาวทุกรุ่นที่เป็นทหารประจำการอย่างพร้อมเพรียงและพร้อมรบอยู่เสมอโดยไม่มีข้อกังขาใดๆ เพื่อคงความเป็นชาติเอาไว้ และยึดโยงกับอดีตอันยาวนานเพื่อรักษาความยิ่งใหญ่เอาไว้ชั่วลูกชั่วหลาน

เมื่อมาทำธุรกิจ ชาวอิสราเอลก็ต้องดิ้นรนทำในสิ่งที่ไม่มีใครอยากทำหรือทำไม่ได้ และหากคิดค้นและพัฒนาอะไรขึ้นมาแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด เอาชนะข้อจำกัดทั้งหลาย ซึ่งปัจจัยแห่งความสำเร็จของอิสราเอลนั้นไม่ได้มาจากทรัพยากรธรรมชาติ หรือสภาพแวดล้อมใดๆ ทั้งสิ้น หากแต่มาจาก “คน” ในประเทศของเขาเท่านั้น 

ผมจึงขอรวบรวมข้อคิดที่ได้จากชาวอิสราเอลและสรุปเป็นคุณสมบัติได้ 5 ประการคือ ข้อแรกหากแสวงหาความสำเร็จ ต้องทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ หรือเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากทำ โดยกรณีแรก คือ ไม่มีใครทำได้ซึ่งหมายถึงการมีข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี บริการ หรือการบริหารที่มีลักษณะเฉพาะตัว อาจจะเป็นเรื่องยากที่ต้องใช้วิทยาการขั้นสูงยากเกินกว่าที่เรามี แต่ในกรณีหลังคือไม่มีใครอยากทำนั้นอาจเป็นเพราะต้องใช้ความพยายาม ความอดทน ความขยันมากกว่าปกติ ซึ่งหลายๆ คนไม่อยากลงทุนลงแรงทำเพราะต้องใช้เวลามากกว่า ใช้ความทุ่มเทมากกว่าจนอาจถอดใจไปก่อน แต่นั่นอาจอยู่ในวิสัยที่เราทำได้

โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เราดูจะมีทางเลือกน้อยลงมาก ด้วยเงื่อนไขทางธุรกิจที่เปลี่ยนไป การแข่งขันที่รุนแรงและสภาพแวดล้อมที่ปรับเปลี่ยนตลอดเวลาจึงทำให้เราเหลือหนทางให้ปรับตัวไม่มากนัก หากจำเป็นต้องขยันและอดทนกว่าเดิมเพื่อให้ธุรกิจของเราพลิกตัวได้สำเร็จจึงเป็นสิ่งที่เราต้องทำโดยด่วน

ยังเหลืออีก 4 ข้อต้องขอให้ติดตามในฉบับวันอังคารหน้านะครับ