ฤทธิ์ของคราส

ฤทธิ์ของคราส

คัมภีร์โหราศาสตร์ที่ได้รับการอ้างอิงมากที่สุดคือ Tetrabiblos (คัมภีร์ทั้ง 4) ผู้แต่งคือคลาวดิอุส ปโตเลมี (Claudius Ptolemy) -

ผู้แต่งคือคลาวดิอุส ปโตเลมี (Claudius Ptolemy) ชาวกรีกผู้มีชีวิตอยู่ราวค.ศ. 100 – 175  เขาเก่งทั้งโหราศาสตร์ คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และกวี ผลงานอีกเล่มที่โด่งดังมากคือ Mathematical Treatise (Almagest ในภาษาอาหรับ) ซึ่งถือเป็นต้นตำรับด้านการคำนวณทางดาราศาสตร์

เตตระไบบลอส (ชื่อเดิมภาษากรีกคือ Apotelesmatika) แบ่งเป็น 4 เล่ม เล่มที่ 1 ปรัชญาและกฎเกณฑ์ของโหราศาสตร์ เล่มที่ 2 โหราศาสตร์ชะตาเมือง เล่มที่ 3 – 4 โหราศาสตร์ชะตาบุคคล ปโตเลมีได้รวบรวมและชำระองค์ความรู้ยุค Hellenistic แล้วเรียบเรียงขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์ของอริสโตเติ้ล คัมภีร์นี้เป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้ทราบถึงพัฒนาการและความรุ่งเรืองของโหราศาสตร์ในอารยธรรมกรีกและโรมัน

ปีค.ศ. 476 โรมันล่มสลายและยุโรปเข้าสู่ยุคมืด โหราศาสตร์ถูกศาสนจักรกดดันอย่างหนัก โหราจารย์พร้อมคัมภีร์จำนวนมากอพยพไปอาณาจักรอิสลามที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นแทนที่ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่แบกแดด คัมภีร์ถูกแปลเป็นภาษาอาหรับและพัฒนาต่อยอดขึ้นไปอีก  มีสุดยอดโหราจารย์เกิดขึ้นหลายท่าน เช่น อาบู มัซซาร์ (ค.ศ. 787 – 886) ผู้แต่งคัมภีร์โหราศาสตร์ชะตาเมืองที่ชื่อ On the Great Conjunctions ฯลฯ

หลังสงครามครูเสดปลายศตวรรษที่ 13 วิทยาการจากโลกอาหรับแพร่หลายเข้าไปในยุโรปอย่างคึกคัก คัมภีร์ต่าง ๆ ถูกแปลกลับเป็นภาษาละติน โดยเฉพาะโหราศาสตร์ เตตระไบบลอสก็เช่นกัน คาดกันว่าต้นฉบับดั้งเดิมภาษากรีกสูญหายไปแล้ว ที่อ้างอิงกันทุกวันนี้มาจากฉบับภาษาอาหรับ จากอาหรับแปลเป็นละติน จากละตินแปลเป็นอังกฤษอีกที

มรดกทางปัญญาชิ้นสำคัญของโหราจารย์ในอดีตก็คือคราส ปโตเลมีกล่าวไว้ใน Almagest ว่า เขาได้รับ “ปูมคราส 900 ปี” ของอาณาจักร Neo-Babylonian และได้อธิบายคราสไว้ในเตตระไบบลอสด้วย คราสจึงไม่ใช่เรื่องใหม่ โหรไทยไม่ค่อยใช้คราสในการพยากรณ์ ต่างจากอินเดียที่ใช้อย่างพิสดาร เทคนิคที่ผู้เขียนใช้เป็นการผสมผสานระหว่างกรีก (ตะวันตก) กับอินเดีย (ตะวันออก)

คราสก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง คราสยิ่งมีกำลังมาก การเปลี่ยนแปลงยิ่งรุนแรงและมีผลกระทบกว้างไกล คราสที่รุนแรงสุดคือสุริยคราส (เต็มดวง) ที่เส้นทางคราสมองเห็นได้และผ่าประเทศนั้นเป็น 2 ส่วน วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 เกิดสุริยคราสเต็มดวงผ่าไทยเป็น 2 ส่วน จุดคราสอยู่ที่ 3:29 องศาสิงห์ ทับดาวฤกษ์ Regulus พอดี หลังจากนั้นเดือนครึ่ง รัชกาลที่ 4 สวรรคต แต่อิทธิพลคราสไม่หยุดแค่นั้น มันเป็นจุดเริ่มต้นของการถูกรุกรานจากมหาอำนาจอย่างอังกฤษฝรั่งเศส จนต้องเสียดินแดนเกือบครึ่งประเทศในเวลาต่อมา

ฤทธิ์ของคราส

เศรษฐกิจเกี่ยวพันกับคราส วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2538 เกิดสุริยคราสเต็มดวงที่ 6:30 องศาตุลย์ เส้นทางคราสผ่าไทยเป็น 2 ส่วน ไม่กี่เดือนจากนั้น เศรษฐกิจไทยทรุดหนัก จนฟองสบู่แตกกลางปี 2540 คราสมักสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557 เกิดสุริยคราสที่ 14:48 องศาเมษ ทำมุม 90 กับทศมลัคน์ดวงเมืองสนิท วันที่ 7 พฤษภาคม ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยิ่งลักษณ์สิ้นสภาพนายกฯ และภายใน 30 วันที่คราสมีกำลังสูงสุด เกิดปฏิวัติคสช.เมื่อบ่าย 22 พฤษภาคม

ภัยพิบัติธรรมชาติมักสัมพันธ์กับคราส เภทภัยเกิดได้ทั้ง 4 ธาตุ  ธาตุดิน เช่น คู่สรรพคราสอาทิตย์จันทร์ 20 มีนาคมและ 4 เมษายน พ.ศ. 2558 คือสาเหตุของแผ่นดินไหว 7.8 ริกเตอร์ที่เนปาลเมื่อ 25 เมษายน มีผู้เสียชีวิตกว่า 8,000 ราย (เรือล่ม แผ่นดินไหว สรรพคราส http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/634379)  ธาตุน้ำ เช่น แผ่นดินไหวใต้ทะเล 9.1 ริกเตอร์ที่เซนไดในญี่ปุ่น 11 มีนาคม พ.ศ. 2554 ก่อให้เกิดคลื่นซึนามิสูงถึง 40 เมตร มีผู้เสียชีวิต 15,894 ราย ซึนามิยังทำลายโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟูกูชิมะด้วย สาเหตุคือจันทรคราส (เต็มดวง) 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553 (คราส 2560 http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/640309)

ธาตุลม เช่น หลังจากสุริยคราส (เต็มดวง) 21 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เพียง 5 วัน เกิดเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์เข้าถล่มเท็กซัส ประชาชนกว่าล้านไร้ที่อยู่อาศัย มีผู้เสียชีวิต 50 ราย สร้างความเสียหายกว่า 1.8 แสนล้านดอลลาร์ (ผลของคราส http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/642448) ธาตุไฟ เช่น มหาอัคคีภัย 12 – 15 กันยายน ค.ศ. 1666 ได้เผาทำลายพื้นที่ภายในกำแพงเมืองเก่าใจกลางลอนดอนจนหมดสิ้น มันเป็นผลจากคู่สุริยคราส 5 มกราคมและ 2 กรกฎาคม (Fire of London http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/641690)

ด้วยตระหนักถึงพลังของคราสและ Grand Cross ในปีนี้ ผู้เขียนได้เตือนถึงภัยธรรมชาติจากธาตุทั้ง 4 ใน “คราส 2561” เมื่อ 19/1/2561 (http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/643680) บัดนี้เป็นที่ประจักษ์แล้ว เกิดสภาวะอากาศแปรปรวนและเภทภัยไปทั่วโลก คลื่นความร้อนสูงในจีนญี่ปุ่นเกาหลี ไฟป่าในกรีซและโปรตุเกส คลื่นความร้อนสูงในยุโรป ไฟป่าพายุใหญ่ในอเมริกา น้ำท่วมดินถล่มในพม่า เขื่อนแตกในลาว แผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย น้ำท่วมในไทย ฯลฯ

อังคารดับร่วมจันทรคราส (เต็มดวง) 28 กรกฎาคม ที่ 10:38 องศามังกรคือตัว Trigger สำคัญ เพราะมันเล็ง 180 ราหูและ 90 มฤตยูสนิท มฤตยูราหูหมายถึงพิบัติภัยธรรมชาติ หลังคราสไม่กี่ชั่วโมงเกิดดินถล่มที่บ่อเกลือ-น่าน มีผู้เสียชีวิต 8 ราย เช้าวันต่อมา เกิดแผ่นดินไหว 6.4 ริกเตอร์ที่ลอมบอก-อินโดนีเซีย คราสมีกำลังสูงสุดภายในหน้า 7 หลัง 7 วัน เย็นวันที่ 23 เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยในแขวงอัตตะปือของลาวแตกและเกิดน้ำท่วมฉับพลัน มีผู้เสียชีวิตหลายสิบและสูญหายนับร้อย

ในดวงเมืองไทย คราสอังคารเล็งจันทร์เดิมสนิท จันทร์คือสตรีเพศ อังคารคือการต่อสู้ ทำลายล้าง ฯลฯ จึงเกิดคดีสะเทือนขวัญยิงทิ้งน้องสปายและฆาตกรรมไฮโซเชอรี่เพียง 1 วันก่อนและหลังคราส จันทร์เดิมอยู่กรกฎ-ธาตุน้ำ เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ เช่น นครพนม เพชรบุรี

มฤตยูวิกลคติพักร 7 สิงหาคม ทำมุม 90 คราสอังคารสนิท มันมีกำลังสูงสุดภายใน +/- 5 วัน วันที่ 5 เกิดแผ่นดินไหว 6.9 ริกเตอร์ซ้ำที่ลอมบอก มีผู้เสียชีวิต 100 ราย ตรงตามดาวพอดี

ยังมีสุริยคราส 11 สิงหาคม ที่ 24:35 องศากรกฎ ทำมุม 90 ลัคนาดวงเมืองสนิท ภัยอันตรายจากน้ำยังคงเป็นความเสี่ยงใหญ่ของไทย