แห่ไปสวนคุณยาย โต้ข่าวไถเงินทอน

 แห่ไปสวนคุณยาย โต้ข่าวไถเงินทอน

หลังจากเมื่อวานซืน เปิดประเด็นเรื่อง “เอาเปรียบยาย ไถเงินทอน” ที่สวนของคุณยายซึ่งเปิดเป็น “บุฟเฟต์ผลไม้” ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปรากฏว่า

  เมื่อวานตลอดทั้งวัน ก็มีความเคลื่อนไหวในพื้นที่อย่างคึกคัก

ทั้งๆ ที่ในบทความไม่ได้บอกว่าเป็นสวนไหน อำเภออะไร จังหวัดอะไร ข้าราชการที่ไปต่อรองราคาจนน่าเกลียดนั้นเป็นใคร หน่วยไหน แต่เมื่อวานหน่วยงานรัฐก็เปิดข้อมูลเองทั้งหมด

สรุปก็คือเป็นสวนผลไม้ของ คุณยายเหี้ยง การะเกตุอายุเกือบ 90 ปี อยู่ที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ทหารพรานส่งกำลังเข้าไปถามข้อเท็จจริง และสรุปรายงานชี้แจงว่า บทความเขียนเกินไป คุณยายไม่ได้ให้ข่าวกับนักข่าว และไม่อยากเป็นข่าว ไม่ได้เจ๊งยับ ยินดีต้อนรับข้าราชการทุกหน่วย (แต่ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องถูกต่อรอง รีดไถ)

นายอำเภอยะหา ทำหนังสือรายงานผู้ว่าฯยะลา ชี้แจงว่า เรื่องที่เป็นข่าวมาจากปลัดอำเภอคนหนึ่งในจังหวัด ไปติดต่อดูงานที่สวนคุณยาย คณะดูงาน 55 คน เบิกงบไป 10,000 บาท ประกอบด้วยค่าอาหารเที่ยง อาหารว่าง ค่าพาหนะ และป้ายโครงการ จึงตกลงราคากับลูกหลานยาย เป็นค่าอาหารเที่ยง อาหารว่าง และผลไม้ รวมแล้ว 7,000 บาท สอบถามคุณยายแล้ว ยืนยันว่าไม่เคยพูดพาดพิงปลัดอำเภอ ฉะนั้นข้อเขียนจึงไม่จริง

เมื่อวาน ปลัดอำเภอคนที่ถูกบทความพาดพิงก็ไปที่สวนคุณยาย ชี้แจงที่มาของงบประมาณ 10,000 บาท และบอกว่าตั้งใจไปดูงาน ไม่ได้ไปกินบุฟเฟต์ ตกลงราคากันที่ 7,000 บาท จากราคาเต็ม 7,095 บาท ที่เหลือเป็นค่าพาหนะและป้ายไวนิล โดยไม่ได้เอ่ยถึงค่าอาหารกลางวันและอาหารว่างตามที่นายอำเภอทำหนังสือชี้แจงผู้ว่าฯ รวมทั้งไม่ได้พูดถึงประโยค เงินทอนติดกระเป๋าตามที่ข่าวเขียน

โซเชียลมีเดียของกลุ่มข้าราชการในพื้นที่สร้างกระแสว่าน่าจะมีการฟ้องร้องคนเขียน เพราะเขียนเรื่องไม่จริง ทำให้ข้าราชการเสียหาย

ขณะที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียทั่วไป ตั้งคำถามถึงการส่งทหารเข้าไปถามคุณยายว่า ทำแบบนี้จะมีชาวบ้านที่ไหนกล้าแฉข้อมูล บ้างก็ว่าข้าราชการที่ไปจัดกิจกรรมที่สวนคุณยาย ควรหรือไม่ที่จะไปต่อรองราคา เพราะคุณยายเปิดสวนเป็น “บุฟเฟต์ผลไม้” ก็เพื่อสู้กับปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ และเงินที่ใช้จัดกิจกรรม ก็เป็นงบประมาณจากภาษีประชาชน

ทั้งหมดเป็น อาฟเตอร์ช็อคหลังบทความตีพิมพ์ออกไป ส่วนท่านผู้อ่านจะเชื่อใครก็แล้วแต่วิจารณญาณ