สมาร์ทโฟนสู่เกมคอมพิวเตอร์

สมาร์ทโฟนสู่เกมคอมพิวเตอร์

ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่คาดเดาได้ยาก

จากภาพรวมของตลาดไอทีที่ทรุดตัวมาเป็นทรงตัวและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปี 2560-2561 วันนี้หันมาดูอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีเส้นทางการเดินทางไม่แตกต่างกันนักคือ “โทรศัพท์มือถือ” ที่เราได้เห็นความรุ่งโรจน์ตลอดทศวรรษที่ผ่านมาแต่จะเริ่มอิ่มตัวเหมือนกับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือไม่คงต้องติดตามการวิเคราะห์กัน

หากดูตัวหลักในอุตสาหกรรมอย่างอันดับ 1 คือซัมซุงที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งเราจะเห็นสัญญาณชะลออย่างชัดเจน จากยอดขายเปรียบเทียบไตรมาส 2 ของปีนี้เทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้วด้วยอัตราการเติบโตที่ติดลบเล็กน้อยคือ 0.6%

อย่างไรก็ดี ที่ดูจะได้ผลกระทบรุนแรงที่สุดเห็นจะเป็นแบรนด์ย่อยอื่นๆ ในตลาดที่การเติบโตติดลบรุนแรงถึง 22.1% ในขณะที่แบรนด์จากจีนดูจะยังคงความร้อนแรงอยู่ได้ เช่นหัวเว่ยในอันดับ 3 ยังคงเติบโตถึง 13.8% ซึ่งแม้จะเป็นตัวเลขที่สูงมากแต่นั่นยังไม่รวมผลกระทบที่อาจเกิดจากสงครามการค้ารอบล่าสุด

เช่นเดียวกับเสี่ยวมี่ที่ติดอันดับ 4 ยังคงเติบโตได้ 11.6% ซึ่งถือว่ามีนัยสำคัญทางการตลาดมาก ทัดเทียมอันดับ 2 คือแอ๊ปเปิ้ลที่ยังคงการเติบโตอยู่ที่ประมาณ​ 3% แม้อาจดูไม่สูงนักแต่อัตราส่วนกำไรขั้นต้นของแอปเปิ้ลสูงกว่าเจ้าอื่น ๆ อยู่มาก

อันดับ 5 เป็นออปโป้ที่เติบโตลดลงประมาณ 5% เมื่อรวมกับแบรนด์อื่นๆ ที่ตัวเลขไม่ดีนักจึงส่งผลให้ทั้งอุตสาหกรรมมีอัตราการเติบโตติดลบประมาณ 3% สะท้อนให้เห็นการอิ่มตัวของอุตสาหกรรมนี้ไม่ต่างอะไรกับตลาดพีซีเมื่อหลายปีก่อน

แล้วอุตสาหกรรมใดที่เป็นดาวรุ่งในวันนี้? หันมาดูอุตสาหกรรรมเกมคอมพิวเตอร์ดูจะมีอนาคตที่ดีมากขึ้น เพราะอุตสาหกรรมเกมกำลังเปลี่ยนไปด้วยการบวกเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในสมาร์ทโฟน ทำให้อัตราส่วนคนเล่นเกมที่เดิมอาศัยตลาดหลักคือเกมคอนโซลและคอมพิวเตอร์พีซี มาสู่สมาร์โฟนมากขึ้นเรื่อยๆ

ตัวเลขล่าสุดทำให้เราเห็นส่วนแบ่งทางการตลาดในอุตสาหกรรมเกมที่ขยับมาสู่แพลตฟอร์มสมาร์ตโฟนสูงถึง 51% เทียบกับคอมพิวเตอร์ 24% และเกมคอนโซล 25% โดยทั้ง 2 แพลตฟอร์มหลังนั้นมีอัตราการเติบโตที่เริ่มทรงตัวมากขึ้น

ในแง่ตัวเลขรายได้ของอุตสาหกรรมเกมที่มีมูลค่ามหาศาลถึง 137,900 ล้านดอลลาร์นั้น เป็นของเกมในสมาร์ทโฟนถึง 70,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามมาด้วยเกมคอนโซล 34,600 ล้านดอลลาร์และคอมพิวเตอร์พีซี 32,900 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ

แนวโน้มเช่นนี้เกิดขึ้นเพราะผู้คนทั่วโลกต่างใช้เวลากับสมาร์ทโฟนมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ลดเวลาจากหน้าจอทีวีและคอมพิวเตอร์ลง แต่การใช้เวลากับหน้าจอสมาร์ทโฟนกลับเพิ่มขึ้นทุกปี การพัฒนาเกมรุ่นใหม่จึงหันมาสู่ตลาดใหม่นี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภูมิทัศน์ทางธุรกิจจึงค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย แต่หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงก็คือพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่คาดเดาได้ยาก การจับตาดูความเป็นไปของอุตสาหกรรมต่างๆ ที่อาจส่งผลถึงตัวเราได้จึงเป็นสิ่งสำคัญเสมอ

แม้จะเป็นอุตสาหกรรมที่ดูจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ก็อาจเชื่อมโยงกันและส่งผลถึงกันได้ เพราะทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกับผู้บริโภคกลุ่มเดียวกัน บทบาทของเจ้าของกิจการและผู้บริหารในทุกวันนี้จึงต้องเปิดรับข้อมูลใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆ พร้อมฝึกฝนเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ 

ทุกวันนี้เทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จึงเป็นการสร้างโอกาสใหม่ ท่ามกลางการทำงานบนความเสี่ยงและความผันผวนของตลาดซึ่งบีบให้ต้องวางแผนทุกอย่างด้วยความรอบคอบ มีการปรับกลยุทธ์ เสริมประสิทธิภาพองค์กรให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง